Page 178 - ดุลพาห เล่ม3.indd
P. 178
ดุลพาห
สวัสดิการในส่วนที่เกินกว่ามาตรฐานขั้นตำ่าตามกฎหมาย นายจ้างสามารถตัดได้หากลูกจ้างทำา
ผิดวินัยในการทำางาน ซึ่งเมื่อลงโทษแล้วส่วนที่เหลือต้องไม่น้อยกว่ามาตรฐานขั้นตำ่าตามกฎหมาย
• ไม่ขึ้นค่าจ้างหรือให้เงินรางวัลประจำาปี (Bonus)
กล่าวคือ อัตราค่าจ้างเดิมของลูกจ้างเป็นเท่าใดก็ตามในปีงบประมาณใหม่ก็คงมี
อัตราค่าจ้างเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง บางกรณีรวมถึงการไม่พิจารณาจ่ายเงินรางวัลประจำาปี
๓๐
หรือ Bonus อีกด้วย
กล่าวโดยรวมอย่างง่ายๆ ก็คือ รายได้รวมของพนักงานผู้ถูกดำาเนินการมาตรการ
ทางวินัยในปีงบประมาณใหม่ แม้จะเท่าเดิมแต่ถ้าเทียบกับอัตราเงินเฟ้อ ต้องถือว่าลดลง
๓๑
จึงถือว่าเป็นการลงโทษอย่างหนึ่งได้เช่นกัน
• เลิกจ้างโดยจ่ายค่าชดเชย
การเลิกจ้างในกรณีนี้ไม่เข้าข้อยกเว้นที่ไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยตามความในมาตรา ๑๑๙
แห่ง พ.ร.บ. คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ ซึ่งจะใช้โทษนี้ในกรณีที่ลูกจ้างมีความผิด หรือมี
เหตุอันสมควรแก่การเลิกจ้างได้ แต่ยังไม่เป็นความผิดที่ร้ายแรงนั่นเอง
แต่หากไม่มีเหตุอันสมควรแก่การเลิกจ้างเลย กรณีอาจเข้าข่ายการเลิกจ้างไม่เป็น
ธรรม ตามความในมาตรา ๔๙ แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลแรงงานและวิธีพิจารณาความ
๓๒
๓๐. ฎีกาที่ ๒๗๙/๒๕๒๓ บัญญัติว่านายจ้างจะต้องจ่ายเงิน Bonus หรือไม่ ต้องพิจารณาจากระเบียบข้อ
บังคับของนายจ้างนั้น.
๓๑. โดยปกติแล้ว ไม่สมควรนำากรณีการงดขึ้นค่าจ้างหรืองดให้โบนัสมาอยู่ในเรื่องโทษทางวินัยเพราะถือเป็น
อำานาจจัดการในการให้คุณให้โทษของนายจ้างซึ่งเป็นการใช้ดุลพินิจอย่างกว้างขวางของนายจ้างอยู่แล้ว
ตามนัยคำาพิพากษาศาลฎีกาที่ ๗๒๓/๒๕๒๘, ๓๘๒๓/๒๕๓๑ และยังเสมือนหนึ่งเป็นการลดทอนอำานาจ
จัดการปกติของนายจ้างอีกด้วย.
๓๒. ฎีกาที่ ๒๖๕๒/๒๕๒๔ นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้างโดยไม่มีสาเหตุ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
ฎีกาที่ ๑๔๕๘/๒๕๒๕ สอบสวนแล้ว ไม่เป็นประมาทซึ่งทำาให้นายจ้างได้รับความเสียหาย แต่ยังฝืนเลิกจ้าง
จึงเป็นกรณีเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
ฎีกาที่ ๑๓๔๗/๒๕๒๕ การเลิกจ้าง แม้ลูกจ้างจะมีความผิดอยู่บ้าง แต่ไม่สมควรเลิกจ้าง การที่นายจ้าง
เลิกจ้างลูกจ้าง ถือเป็นการเลิกจ้างไม่เป็นธรรม
ฎีกาที่ ๑๒๕๓/๒๕๒๖ นายจ้างเลิกจ้างลูกจ้าง ด้วยเหตุนอกเหนือจากข้อสัญญาจ้าง และนอกเหนือจาก
ระเบียบข้อบังคับ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
ฎีกาที่ ๑๖๘๔/๒๕๒๖ การลงโทษให้เลิกจ้างเกินระดับโทษที่สมควรได้รับ เป็นการเลิกจ้างที่ไม่เป็นธรรม
ฎีกาที่ ๒๓๘๒/๒๕๒๙ การพิจารณาว่า การเลิกจ้างเป็นธรรมหรือไม่ จะต้องพิจารณาที่เหตุแห่งการเลิก
จ้างเป็นสำาคัญ การบอกกล่าวล่วงหน้าตามระเบียบมิใช่เป็นเหตุแห่งการเลิกจ้าง แต่เป็นเพียงวิธีการ
บอกกล่าวเลิกจ้างที่มีขึ้นต่อมาภายหลังที่มีเหตุแห่งการเลิกจ้างเกิดขึ้นแล้ว
ฎีกาที่ ๑๐๔๓/๒๕๒๗ นายจ้างลงโทษตัดค่าจ้างแล้วถือว่า ความผิดดังกล่าวหมดไป และลูกจ้างมิได้
กระทำาผิดขึ้นใหม่ นายจ้างจะนำาความผิดที่ลงโทษไปแล้วมาเป็นเหตุเลิกจ้างอีกไม่ได้ หากเลิกจ้างเป็น
เลิกจ้างไม่เป็นธรรม.
กันยายน - ธันวาคม ๒๕๖๑ 167