Page 93 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 93

๗๕



                       ความโกรธที่เพิ่มขึ้น (๒) การระบุผลลัพธ์เชิงลบ (๓) การตระหนักรู้ในตนเอง และ (๔) กลวิธีการสงบ
                       ความโกรธ มีความสอดคล้องกับข้อมูลเชิงประจักษ์และมีน้ำหนักองค์ประกอบอยู่ในเกณฑ์สูง อย่างมี

                                                                                                    ิ
                       นัยสำคัญที่ระดับ .๐๕ และ ๒) ผลของการปรึกษากลุ่มเชิงบูรณาการและเทคนิคโดยมีทฤษฎีพจารณา
                       เหตุผลอารมณ์พฤติกรรมที่มีต่อการจัดการความโกรธในนักศึกษาวัยรุ่น พบว่า กลุ่มทดลองสามารถ

                       จัดการความโกรธได้ดีกว่ากลุ่มควบคุมอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .๐๕ สรุปได้ว่าโปรแกรมการ

                                                                                      ๑๓๑
                       จัดการความโกรธนี้ช่วยพัฒนาทักษะการจัดการความโกรธของผู้ป่วยจิตเภทได้
                                                                           ั
                                 วรรณี ศิรินทรางกูร และคณะ ได้วิจัยเรื่อง “การพฒนาโปรแกรมจัดการความโกรธด้วย
                                                                                       ั
                       สติบำบัด สำหรับผู้ป่วยจิตเภทที่มีพฤติกรรมรุนแรง” ใช้รูปแบบการวิจัยและพฒนา ผลการวิจัยพบว่า
                       โปรแกรมการจัดการความโกรธด้วยสติบำบัด ที่ประกอบด้วย ๘ กิจกรรม ได้แก่ การจัดการความ

                       ว้าวุ่นใจ เส้นทางความโกรธรู้จักสมาธิ สติกับการดำเนินชีวิต การคิดเชิงบวก สัมพันธภาพกับคน
                       ใกล้ชิด การสื่อสารด้วยสติ และรักตนเองรักผู้อื่น มีผลสัมฤทธิ์ในการลดการแสดงความโกรธและ


                       ส่งเสริมสุขภาวะของผู้ป่วยจิตเภทที่มีพฤติกรรมรุนแรงได้ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ p-value
                             ๑๓๒
                       < ๐.๐๑
                                 สรุปผลการทบทวนวรรณกรรม ความโกรธทางจิตวิทยา หมายถึง อารมณ์ตามธรรมชาติ

                       ของบุคคลทางด้านลบ จะแสดงออกเมื่อเกิดความไมพอใจ ไมไดในสิ่งที่ตนเองตองการ หรือไม่ได้ตาม
                       ความคาดหวังไว ผลให้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางพฤติกรรมเชิงลบบางอยางที่ส่งผลให้เกิดผลกระทบ

                       ต่อรางกายและจิตใจ จิตวิทยาจึงมีเทคนิควิธีหลากหลายให้เลือกใช้เพื่อจัดการความโกรธของตนตาม

                       ความเหมาะสมของบุคคลเมื่อเผชิญต่อความโกรธที่เกิดขึ้น  ผลการทบทวนวรรณกรรมนี้ผูวิจัยจะนำ
                                              ิ
                                               ี
                              ู
                                                   ั
                                           ิ
                            ี
                                                                     ิ
                                                                       ิ
                       ทฤษฎ รปแบบ และเทคนควธการจดการความโกรธทางจตวทยาไปใชบูรณาการกบทางพระพทธศาสนา
                                                                                        ั
                                                                                                  ุ
                                                                              ้
                       เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการจัดการความโกรธของบุคคลได้ครอบคลุมบริบทของ
                       สังคมต่อไป
                                 พระจรัล เนื้อหา ได้วิจัยเรื่อง“การศึกษาวิเคราะห์เรื่องความโกรธในพระพุทธศาสนา
                       เถรวาท” ผลการวิจัยพบว่า ความโกรธเป็นลักษณะอาการที่ขัดเคืองใจ ไม่ชอบใจ ไม่พอใจ หรือแม้แต่


                                 ๑๓๑  นเรศ กันธวงค์ และคณะ, “การพัฒนาการจัดการความโกรธของนักศึกษาวัยรุ่นด้วยการปรึกษา

                       กลุ่มเชิงบูรณาการทฤษฎีและเทคนิคโดยมีทฤษฎีพิจารณาเหตุผลอารมณ์พฤติกรรมเป็นฐาน”, วารสารวิชาการ
                       สถาบันเทคโนโลยีแห่งสุวรรณภูมิ, ปีท ๘ ฉบับท ๑ (มกราคม–มิถุนายน ๒๕๖๕): ๓๘๐-๓๙๖.
                                                          ี่
                                                   ี่
                                 ๑๓๒  วรรณี ศิรินทรางกูร และคณะ, “การพัฒนาโปรแกรมจัดการความโกรธด้วยสติบำบัด สำหรับ
                       ผู้ป่วยจิตเภทที่มีพฤติกรรมรุนแรง”, วารสารการพยาบาลจิตเวชและสุขภาพจิต, ปีที่ ๓๓ ฉบับที่ ๓ (กันยายน–
                       ธันวาคม ๒๕๖๒): ๖๘-๘๕.
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98