Page 94 - Thesis PhD Anger by Chaichana
P. 94

๗๖



                       ความน้อยใจ ก็เป็นอาการหนึ่งของความโกรธ และความโกรธนี้ สามารถเกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกเวลา และ
                       ปุถุชนทุกคน ความโกรธย่อมมีโทษทั้งต่อร่างกาย จิตใจ และสังคมโดยส่วนรวม วิธีบรรเทาหรือจำกัด

                       ความโกรธตามหลักธรรมคำสั่งสอนในพระพุทธศาสนา คือการเจริญเมตตา และการคิดในเชิงบวก ซึ่ง
                       มีหลายวิธี เช่น คิดถึงผลเสียของความเป็นคนมักโกรธ โทษของความโกรธ มองคนที่เราโกรธในแง่ดี

                       แล้วเราก็จะไม่โกรธเขา ให้เราพิจารณาว่า ความโกรธคือการสร้างทุกข์ให้กับตนเอง เป็นการลงโทษ

                       ตนเองให้สมใจศัตรู เหล่านี้ เป็นต้น แล้วให้ลดละเลิกความโกรธ ดังที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนว่าคน
                                                                   ๑๓๓
                       โกรธไม่ดีเลย พึงชนะคนโกรธด้วยความไม่โกรธ เป็นต้น

                                 พระครูปราโมทย สีลคุโณ  ได้วิจัยเรื่อง “ลักษณะความโกรธในพระไตรปิฎก” ผลการวิจัย
                                               ์
                       พบว่า ความโกรธ มาจากศัพท์ภาษาบาลีว่า โกธ หมายถึง ความกำเริบ ความขุุ่นเคืองในจิตใจ มีศัพท์

                       ที่ใช้เหมือนกับความโกรธ คือ โทสะ คือความรู้สำนึกคิดประทุษร้าย ความโกรธ มีความดุร้ายเป็น
                       ลักษณะ มีความพลุ่งพล่านเป็นรส อาการแผดเผานิสัยตนเป็นหน้าที่  และมีความประทุษร้ายเป็น

                       อาการปรากฏ เหตุที่ทำให้เกิดความโกรธนั้นมี ๕ ประการ คือ ๑) มีโทสะเป็นอัธยาศัยมาแต่กำเนิด

                       ๒) มีความคิดไม่ละเอียด ไม่ลึกซึ้งเป็นปกติ ๓) มีการศึกษามีการสดับรับฟังน้อย ๔) ได้ประสบกับ
                       อารมณ์ที่ไม่ดีอยู่ในเนืองๆ คือ อนิฏฐารมณ์ และ ๕) อารมณ์ที่ไม่น่าใคร่ น่าพอใจ ไม่น่าชอบใจ เช่น

                                                                                     ๑๓๔
                       รูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส ธรรมารมณ์ ได้ประสบกับอาฆาตวัตถุ ๑๐ ประการ
                                 Ven. Thach Pa ได้วิจัยเรื่อง “A Study on the Methods of Extinguishing Anger

                       in Buddhism” ผลการวิจัยพบว่า ความโกรธเกิดจากเหตุและปัจจัยหลายประการ ส่วนใหญ่เกิดจาก

                       อกุศลมูล โลกธรรม กิเลส และ ตัณหา เป็นต้น และส่งผลกระทบด้านลบโดยตรงทั้งต่อตนเองและ
                       บุคคลอื่น ผลการวิจัยพบว่า การระงับความโกรธมีประโยชน์ คือ ๑) เป็นประโยชน์ต่อตนเอง คือ เป็น

                       ผู้ไม่ทำลายชีวิต ไม่ทำความชั่ว มีจิตใจที่แจ่มใส เบิกบาน ๒) เป็นประโยชน์ต่อบุคคลอ่น คือ การกรุณา
                                                                                            ื
                       ต่อกัน อยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างสันติ ผลการวิจัยพบว่า วิธีการดับความโกรธในพระพุทธศาสนา

                       หลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมกับสถานการณ์และที่สำคัญยิ่งคือการโน้มนำหลักธรรมคำสอน

                       ของพระพุทธเจ้ามาปฏิบัติในชีวิตประจำวันเพื่อดับความโกรธ
                                                                        ๑๓๕





                                 ๑๓๓  พระจรัล เนื้อหา, “การศึกษาวิเคราะห์เรื่องความโกรธในพระพุทธศาสนาเถรวาท”, วิทยานิพนธ์
                       ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต, (บัณฑิตศึกษา: มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ๒๕๔๖).
                                 ๑๓๔  พระครูปราโมทย์ สีลคุณ, “ลักษณะความโกรธในพระไตรปิฎก”, วิทยานิพนธ์พทธศาสตร
                                                                                                  ุ
                       มหาบัณฑิต สาขาวิชาพระพุทธศาสนาแลปรัชญา, (บัณฑิตวิทยาลัย: มหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย, ๒๕๖๑).

                                 ๑๓๕  Ven. Thach Pa, “A Study on the Methods of Extinguishing Anger in Buddhism”,
                       A  Thesis  of  Master  of  Art  in  Buddhist  Studies,  (Graduate  school:  Mahachulalongkorn
                       rajavidya University, 2017).
   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98   99