Page 141 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 141
จิงจ้อเหลือง
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
พบที่แอฟริกา อินเดีย ปากีสถาน เนปาล ศรีลังกา จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน
และมาเลเซีย ออสเตรเลีย ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามข้างทาง ริมล�าธาร หรือชายหาด
ความสูงถึงประมาณ 500 เมตร รากมีสรรพคุณขับพิษ ขับปัสสาวะ
เอกสารอ้างอิง
Staples, G. (2010). Convolvulaceae. In Flora of Thailand Vol. 10(3): 451-453.
จิงจ้อผีเสื้อ: ช่อดอกแบบช่อกระจุก ใบประดับคล้ายใบ ใบประดับย่อยคล้ายกาบ ดอกรูปแตร ผลแห้งแตกกลางพู
ฐานกลม ปลายเป็นจะงอยรูปดาบ มีขนหนาแน่น (ภาพ: ดอยตุง เชียงราย - RP)
จิงจ้อหิน
Merremia verruculosa S. Y. Liu
วงศ์ Convolvulaceae
ไม้เถาล้มลุก ยาวได้ถึง 2 ม. ใบรูปไข่หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 1.5-5 ซม.
แผ่นใบมีขนละเอียดด้านล่าง ก้านใบยาวประมาณ 1 ซม. ช่อดอกมี 1-4 ดอก ก้านช่อ
ยาวได้ถึง 2 ซม. ใบประดับรูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 3-5 มม. ก้านดอก
และกลีบเลี้ยงหนา มีตุ่มกระจาย ก้านดอกยาว 5-8 มม. กลีบเลี้ยงคู่นอกรูปขอบขนาน
หรือแกมรูปไข่ ยาว 0.6-1.2 ซม. ปลายมนหรือกลม กลีบใน 3 กลีบยาว 0.8-1.4 ซม. จิงจ้อเหลี่ยม: ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสั้น ๆ ตามซอกใบ ดอกรูปแตร ผลแห้งแตก มี 2-4 กระเปาะ ผนังเชื่อม
ปลายแหลม ดอกรูปล�าโพง สีเหลืองอ่อน ยาว 1.8-2.2 ซม. โคนก้านชูอับเรณูมี ติดกัน บางใสครึ่งบนคล้ายฝา (ภาพดอก: ปทุมธานี, ภาพผล: ขนอม นครศรีธรรมราช; - RP)
รยางค์คล้ายเกล็ด อับเรณูบิดเวียน รังไข่เกลี้ยง ผลรูปรี ยาว 0.8-1.2 ซม. เมล็ด จิงจ้อเหลือง, สกุล
ยาวประมาณ 5 มม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ จิงจ้อเหลือง, สกุล)
Merremia Dennst. ex Endl.
พบที่จีนตอนใต้ ลาว และกัมพูชา ในไทยพบทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และภาคตะวันออก ขึ้นตามที่โล่งในป่าเต็งรัง ป่าดิบแล้งที่เป็นหินทราย ความสูง วงศ์ Convolvulaceae
100-700 เมตร ไม้ล้มลุก ไม้พุ่ม หรือไม้เถา ใบเดี่ยวหรือใบประกอบ เรียงเวียน เรียบหรือแฉก
เป็นพู ช่อดอกส่วนมากแบบช่อกระจุก ออกตามซอกใบ ใบประดับขนาดเล็ก ส่วนมาก
เอกสารอ้างอิง ร่วงเร็ว กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ขนาดเท่า ๆ กัน หรือกลีบคู่นอกขนาดเล็กกว่า ติดทนและ
Staples, G. (2010). Convolvulaceae. In Flora of Thailand Vol. 10(3): 445-446.
มักขยายในผล ดอกรูปแตรหรือรูประฆัง ส่วนมากสีขาวหรือเหลือง ปลายแยก
5 แฉกตื้น ๆ หรือเกือบเรียบ กลางกลีบเป็นแถบริ้ว เกสรเพศผู้ 5 อัน ไม่ยื่นพ้น
ปากหลอดกลีบดอก ก้านชูอับเรณูรูปเส้นด้าย โคนแผ่กว้าง อับเรณูส่วนมากบิดเวียน
เรณูไม่มีหนาม จานฐานดอกเป็นวง รังไข่ 4 ช่อง มีออวุล 4 เม็ด ก้านเกสรเพศเมีย
รูปเส้นด้าย ยาวกว่าเกสรเพศผู้เล็กน้อย ยอดเกสรมี 2 พู ผลแห้งแตก มี 4 ส่วน
ส่วนมากมี 4 เมล็ด
สกุล Merremia มีประมาณ 100 ชนิด พบทั้งในเขตอบอุ่นและเขตร้อน ในไทย
มีไม่น้อยกว่า 16 ชนิด ลักษณะทั่วไปคล้ายกับสกุล Ipomoea ซึ่งอับเรณูส่วนมาก
ไม่บิดเวียน เรณูมีหนามละเอียด ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน
Blasius Merrem (1761-1824)
จิงจ้อเหลือง
Merremia vitifolia (Burm. f.) Hallier f.
จิงจ้อหิน: ก้านดอกหนามีตุ่มกระจาย กลีบเลี้ยงมีตุ่มหนาแน่น ขยายในผล ดอกรูปล�าโพง สีเหลืองอ่อน (ภาพ: ภูผาเทิบ ชื่อพ้อง Convolvulus vitifolius Burm. f.
มุกดาหาร - PK) ไม้เถาล้มลุก เกลี้ยงหรือมีขนยาวตามล�าต้น แผ่นใบด้านล่าง ก้านใบ และช่อดอก
จิงจ้อเหลี่ยม ใบรูปฝ่ามือจักตื้น ๆ หรือแฉกลึก 3-7 แฉก กว้าง 4-15.5 ซม. ยาว 5-18 ซม.
Operculina turpethum (L.) Silva Manso โคนรูปหัวใจ ขอบจักฟันเลื่อยห่าง ๆ หรือเกือบเรียบ ก้านใบยาว 1-4 ซม. ก้านช่อ
ยาว 2-15 ซม. มีหนึ่งหรือหลายดอก ก้านดอกยาว 1-1.5 ซม. ปลายหนา ใบประดับ
วงศ์ Convolvulaceae รูปลิ่มแคบ กลีบเลี้ยงรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 1.4-1.8 ซม. ขยายในผล มีต่อม
ชื่อพ้อง Conolvulus turpethum L., Ipomoea turpethum (L.) R. Br. โปร่งแสง กลีบคู่นอกด้านนอกมีขนหยาบยาว 3 กลีบด้านในเกลี้ยง ดอกรูปแตร
ไม้เถาล้มลุก ยาวได้ถึง 4 ม. ล�าต้นเป็นเหลี่ยม ใบรูปไข่ แกมรูปขอบขนาน สีเหลือง ด้านในบางครั้งมีสีแดงเข้ม ยาว 2.5-5.5 ซม. เกสรเพศผู้ยาวประมาณ 1 ซม.
หรือรูปหัวใจ ยาว 4-14 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม ก้านใบยาว 2-10 ซม. มีสัน รังไข่เกลี้ยง ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.2 ซม. เปลือกบาง เมล็ดรูปไข่มน
คล้ายปีก ช่อดอกออกสั้น ๆ ตามซอกใบ ส่วนมากมี 1-3 ดอก ก้านช่อยาว 0.5-3 ซม. ยาวประมาณ 7 มม.
ใบรูปไข่แกมรูปขอบขนาน ยาว 1-2.5 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ก้านดอกยาว 1.5-2 ซม. พบที่อินเดีย ศรีลังกา เนปาล จีน พม่า ลาว เวียดนาม คาบสมุทรมลายู และสุมาตรา
ขยายในผลยาวได้ถึง 4 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว 1.5-2 ซม. ขยายในผล ดอกรูปแตร ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามที่โล่งในป่าเสื่อมโทรม ชายป่า หรือข้างถนน ความสูง
สีขาว ยาว 3.5-4 ซม. ปลายจักคล้ายมี 10 กลีบ กลางกลีบมีแถบ เกลี้ยง อับเรณู 100-1600 เมตร ทั้งต้นใช้รักษาอาการปัสสาวะอักเสบ
บิดเวียน ก้านเกสรเพศเมียยาวกว่าเกสรเพศผู้เล็กน้อย ยอดเกสรจัก 2 พู ผลแห้งแตก
มี 2-4 กระเปาะกลม ๆ แบน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. ผนังเชื่อม เอกสารอ้างอิง
ติดกันบางใสครึ่งบนคล้ายฝา มี 2-4 เมล็ด รูปไข่แกมสามเหลี่ยม สีด�า ยาวประมาณ Fang, R. and G. Staples. (1995). Convolvulaceae. In Flora of China Vol. 16:
291, 295.
6 มม. เกลี้ยง (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ บานบ่าย, สกุล) Staples, G. (2010). Convolvulaceae. In Flora of Thailand Vol. 10(3): 431-447.
121
59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd 121 3/1/16 5:24 PM