Page 148 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 148
ชมพูพิงค์
ชมพูพิงค์ สารานุกรมพืชในประเทศไทย เอกสารอ้างอิง
Prunus cerasoides Buch.-Ham. ex D. Don de Craene, L.P.R. and E. Haston. (2006). The systematic relationships of
glucosinolate-producing plants and related families: a cladistic investigation
วงศ์ Rosaceae based on morphological and molecular characters. Botanical Journal of
ชื่อพ้อง Cerasus cerasoides (Buch.-Ham. ex D. Don) S. Ya. Sokolov the Linnean Society 151: 453-494.
Lu, L. and D.E. Boufford. (2001). Bretschneideraceae. In Flora of China Vol.
ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. หูใบรูปลิ่ม จักชายครุย ร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน รูปไข่ 8: 197.
รูปขอบขนาน หรือรูปใบหอก ยาว 5-12 ซม. ขอบจักฟันเลื่อย ปลายจักมีตุ่ม แผ่นใบ Niyomdham, C. (1991). Bretschneideraceae. In Flora of Thailand Vol. 5(3): 239-240.
ด้านล่างมีขนตามเส้นแขนงใบ ก้านใบยาว 0.8-2 ซม. มักมีต่อม 2-4 ต่อม ช่อดอก
แบบช่อกระจุกหรือคล้ายช่อซี่ร่ม วงใบประดับยาว 1-1.2 ซม. ก้านช่อยาว 1-2 ซม.
ใบประดับย่อยขนาดเล็ก ขอบจักเป็นต่อม ก้านดอกยาว 0.7-2 ซม. ขยายในผล
ฐานดอกรูประฆัง สีแดงอมชมพู กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปสามเหลี่ยม ยาว 4-5 มม.
ร่วงเร็ว ดอกสีชมพูหรือขาว มี 5 กลีบ รูปไข่ ยาว 1.5-2 ซม. รวมก้านสั้น ๆ ปลาย
เว้าตื้น เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ติดรอบรังไข่ สั้นกว่ากลีบดอกเล็กน้อย รังไข่เกลี้ยง
ก้านเกสรเพศเมียยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้ ยอดเกสรคล้ายจาน ผลสด ผนังชั้นในแข็ง
รูปรีหรือรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 ซม. มีเมล็ดเดียว ผิวย่น
พบที่เนปาล อินเดีย จีนตอนใต้ พม่า ลาว และเวียดนามตอนบน ในไทยพบ
ทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ ขึ้นตามป่าดิบเขา ความสูงถึงประมาณ 1500 เมตร เป็น
ไม้ประดับในที่สูง
สกุล Prunus L. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Amygdaloideae มีกว่า 400 ชนิด หลายชนิด
เป็นไม้ผล เช่น อัลมอนด์ แอปริคอต เชอรี่ พีช ท้อ และพลัม เป็นต้น ในไทยมี
ชมพูภูคา: ใบประกอบเรียงเวียน ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามปลายกิ่ง กลีบดอกสมมาตรด้านข้าง กลีบบนโค้ง
พืชพื้นเมือง 7 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “proume” หมายถึงพืชพวกพลัม ปิดเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย ผลผนังหนา (ภาพ: ปัว น่าน; ภาพดอก - SK, ภาพผล - PM)
เอกสารอ้างอิง ชมพูยูนนาน
Li, C., J. Shunyuan and B. Bartholomew. (2003). Rosaceae (Cerasus). In Flora
of China Vol. 9: 418. Begonia modestiflora Kurz
Vidal, J.E. (1970). Rosaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(1): 68.
วงศ์ Begoniaceae
ชื่อพ้อง Begonia yunnanensis H. Lév.
ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 50 ซม. มีรากตามข้อ หูใบรูปไข่ ยาว 5-7 มม. ใบรูป
สามเหลี่ยม เบี้ยว ยาว 3.5-8 ซม. ขอบจักซี่ฟันถี่ ก้านใบยาว 1.8-5.5 ซม. ช่อดอก
ออกตามปลายกิ่งและซอกใบ ปลายช่อเป็นดอกเพศผู้ โคนช่อเป็นดอกเพศเมีย
ช่อดอกที่ออกตามซอกใบมีดอกเพศเมีย 1-2 ดอก ใบประดับรูปไข่ ยาว 6-7 มม.
ขอบจัก มีขนครุย ดอกสีชมพู ดอกเพศผู้ ก้านดอกยาว 0.6-1 ซม. กลีบรวม 4 กลีบ
คู่นอกรูปไข่ ยาว 5-7 มม. มีขนด้านนอก คู่ในรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 3 มม.
ก้านชูอับเรณูเชื่อมติดกันที่โคน ดอกเพศเมียก้านดอกยาวกว่าดอกเพศผู้ กลีบรวม
5 กลีบ กลีบใหญ่รูปไข่ ยาว 7-8 มม. ปลายแหลม กลีบเล็กรูปใบหอก ยาว 6-7 มม.
ชมพูพิงค์: ขอบใบจัก ก้านใบมีต่อม ช่อดอกแบบช่อกระจุกหรือคล้ายช่อซี่ร่ม เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ผลสด
(ภาพดอก: วัดจันทร์ เชียงใหม่ - RP; ภาพผล: ห้วยน�้าดัง เชียงใหม่ - SSi) ปลายมน รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมีย 3 อัน เชื่อมติดกันที่โคน ยอดเกสรจัก
2 พู บิดเวียน ผลห้อยลง กว้างประมาณ 6 มม. ยาวประมาณ 1 ซม. ปีกกลางรูป
ชมพูภูคา สามเหลี่ยม ยาวประมาณ 1.5 ซม. ปีกคู่ข้างขนาดเล็ก (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ส้มกุ้ง, สกุล)
Bretschneidera sinensis Hemsl. พบที่อินเดีย เนปาล จีนตอนใต้ พม่า และภาคเหนือของไทยที่แม่ฮ่องสอน
วงศ์ Akaniaceae เชียงใหม่ เชียงราย ล�าพูน อุตรดิตถ์ แพร่ ตาก ขึ้นตามป่าดิบเขา และบนเขาหินปูน
ไม้ต้น สูง 10-25 ม. ใบประกอบเรียงเวียน ยาว 30-70 ซม. ใบย่อยมี 3-9 คู่ ความสูงถึงประมาณ 1800 เมตร
ใบย่อยช่วงโคนเรียงสลับ รูปรี รูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาว 6-25 ซม. ก้านใบย่อย เอกสารอ้างอิง
ยาว 0.2-1 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตามปลายกิ่ง ยาว 20-45 ซม. กลีบเลี้ยง Gu, C., C.I. Peng and N.J. Turland. (2007). Begoniaceae. In Flora of China
รูประฆัง ยาว 1.5-2 ซม. ปลายแยกตื้น ๆ 5 แฉก ดอกสมมาตรด้านข้าง สีขาว Vol. 13: 186.
อมชมพู เปลี่ยนเป็นสีชมพูเข้ม มีริ้วสีแดง มี 5 กลีบ รูปไข่กลับ ยาว 1.8-2 ซม.
มีก้านกลีบสั้น ๆ ติดบนหลอดกลีบเลี้ยง กลีบบนโค้งปิดเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย
เกสรเพศผู้มี 8 อัน ติดบนจานรองฐานดอกที่เป็นวงบาง ๆ ก้านชูอับเรณูยาว
2.5-3 ซม. ปลายโค้ง มีขนที่โคน รังไข่และก้านเกสรเพศเมียมีขน เกสรเพศเมีย
ยาว 3-4 ซม. ปลายงอลง ยอดเกสรเป็นตุ่ม ผลแห้งแตกเป็น 3-5 ส่วน รูปรี ยาว
3-4 ซม. ผนังหนา มีขนละเอียดและตุ่ม ก้านผลยาว 2.5-3.5 ซม. เมล็ดรูปรีหรือ
เกือบกลม ยาว 1.5-2.5 ซม. มีเยื่อหุ้มสีส้ม
พบที่จีน เวียดนามตอนบน ไต้หวัน และภาคเหนือของไทยที่ดอยภูคา จังหวัดน่าน
ขึ้นตามที่ลาดชันในป่าดิบเขา ความสูง 1200-1500 เมตร
สกุล Bretschneidera Hemsl. เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Bretschneideraceae มีสกุลเดียว
และชนิดเดียว มีความใกล้ชิดกับวงศ์ Hippocastanaceae และ Sapindaceae
ข้อมูลปัจจุบันให้อยู่ภายใต้วงศ์ Akaniaceae ซึ่งมี 2 สกุล อีกสกุลคือ Akania มี
ชนิดเดียวเช่นกัน พบเฉพาะในออสเตรเลีย ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาว ชมพูยูนนาน: ใบเบี้ยว ดอกเพศผู้อยู่ปลายช่อ ดอกเพศผู้มี 4 กลีบ คู่นอกใหญ่กว่าคู่ใน ช่อดอกเพศเมียอยู่ด้านล่าง
ลัตเวีย Emil Bretschneider (1833-1901) ดอกเพศเมียมี 5 กลีบ (ภาพ: เชียงดาว เชียงใหม่ - SSi)
128
59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd 128 3/1/16 5:26 PM