Page 155 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 155
ช้าส้าน, สกุล สารานุกรมพืชในประเทศไทย ช�ำมะนำด
Saurauia Willd.
วงศ์ Actinidiaceae
ไม้พุ่มหรือไม้ต้น กิ่งมักกลวง ใบเรียงเวียน ขอบเรียบหรือจักฟันเลื่อย ดอกออก
เป็นกระจุก ออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นช่อแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกตามปลายกิ่ง
ซอกใบ บนกิ่ง หรือตามล�าต้น สมบูรณ์เพศหรือคล้ายมีเพศเดียว ใบประดับย่อยมี
2 ใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจ�านวนอย่างละ 5 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อม กลีบเลี้ยงติดทน ช้าสามแก้ว: ช่อดอกออกเป็นกระจุกบนกิ่ง กลีบดอกเรียงซ้อนเหลื่อม รูประฆังกว้าง เกสรเพศเมีย 3-4 อัน ติดทน
เกสรเพศผู้ 15 อันหรือมีจ�านวนมาก ติดที่โคนหลอดกลีบดอก อับเรณูปลายมีรูเปิด (ภาพ: น�้าตกรามัญ ยะลา - SSi)
รังไข่ส่วนมากมี 3-5 ช่อง ก้านเกสรเพศเมียส่วนมากมี 3 หรือ 5 อัน โคนเชื่อมติดกัน ชาหอม
ผลสด หรือคล้ายเป็นหนังหนาแห้งแตกออกด้านบน เมล็ดจ�านวนมาก ขนาดเล็ก
Osyris lanceolata Hochst. & Steud.
สกุล Saurauia เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Saurauiaceae มีประมาณ 300 ชนิด ส่วนใหญ่ วงศ์ Santalaceae
พบในอเมริกาและเอเชียเขตร้อน ในไทยมี 5-6 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตามผู้สนับสนุน ไม้พุ่ม สูง 1-2 ม. แยกเพศต่างต้น กิ่งอ่อนเป็นเหลี่ยมหรือมีครีบ ใบเรียงเวียน
ด้านศิลปะและวิทยาศาสตร์ชาวออสเตรีย Friedrich von Saurau เพื่อนของ รูปรีถึงแกมรูปขอบขนาน ยาว 1-4 ซม. ปลายมีติ่งหนามสั้น ๆ แผ่นใบบางครั้งมีนวล
Carl Ludwig Willdenow นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน ช่อดอกออกตามซอกใบ ดอกเพศผู้ออกเป็นช่อกระจุกสั้น ๆ แยกแขนง มี 8-10 ดอก
มักแยกเป็นกลุ่มละ 3 ดอก ก้านช่อเป็นเหลี่ยม ยาวประมาณ 1 ซม. ใบประดับ
ช้าส้าน รูปใบหอก ยาวประมาณ 1 มม. ดอกสีเขียว กลีบรวม 3 กลีบ รูปไข่กว้าง ยาว 1-2 มม.
Saurauia napaulensis DC. มีเส้นกลางกลีบ เกสรเพศผู้ 3 อัน ติดที่โคนกลีบ ก้านชูอับเรณูสั้นมาก เป็นหมันใน
ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. มีขุย เกล็ด และขนสีน�้าตาลแดงตามกิ่งอ่อน ดอกเพศเมีย ดอกเพศเมียออกเป็นช่อเดี่ยว ๆ มีดอกเดียว ก้านช่อสั้นกว่าช่อเพศผู้
ก้านใบ ช่อดอก และใบประดับ ใบรูปรี รูปขอบขนาน หรือแกมรูปไข่กลับ ยาว เล็กน้อย ก้านดอกยาว 3-4 มม. ใบประดับมี 3 อัน ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบรวม
15-35 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่มสีน�้าตาล เส้นแขนงใบจ�านวนมาก ก้านใบยาว บิดไปมา กลีบรวมยาวเท่า ๆ กับของดอกเพศผู้ ปลายมีติ่งด้านใน ก้านเกสรเพศเมีย
2-5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกตามซอกใบ ช่อยาว 15-35 ซม. สั้นมาก ยอดเกสรมี 3 แฉก มีต่อมน�้าต้อย รังไข่ใต้วงกลีบ ผลผนังชั้นในแข็ง รูปรี
ใบประดับยาว 3-5 มม. ก้านดอกยาว 1-2.5 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่กว้าง ยาว 3-5 มม. ยาว 5-6 มม. สุกสีแดงอมส้ม
ดอกสีชมพู ยาว 6-8 มม. หลอดกลีบดอกยาว 3-4 มม. ปลายกลีบพับงอกลับ พบทางตอนใต้ของยุโรป แอฟริกา อินเดีย จีน พม่า และเวียดนาม ในไทยพบ
เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 3 มม. รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมีย ทางภาคเหนือที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ และดอยหัวหมด จังหวัดตาก ขึ้นตาม
มี 3-5 อัน ติดทน ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. ที่โล่งบนเขาหินปูน ความสูง 1000-2000 เมตร ใบใช้ชงแทนใบชาได้
พบที่อินเดีย เนปาล พม่า จีนตอนใต้ และคาบสมุทรมลายู ในไทยพบกระจาย สกุล Osyris L. มีเพียง 2 ชนิด อีกชนิดคือ O. speciosa (A. W. Hill) J. C. Manning
แทบทุกภาค แต่ส่วนมากพบมากทางภาคเหนือ ขึ้นตามชายป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา & Goldblatt เป็นพืชถิ่นเดียวของแอฟริกาใต้ ชื่อสกุลอาจมาจากภาษากรีก “ozos”
ความสูง 700-2200 เมตร รากมีสรรพคุณแก้ปวดท้อง ขับพิษ
กิ่ง ตามลักษณะวิสัยที่แตกกิ่งจำานวนมาก
ช้าสามแก้ว เอกสารอ้างอิง
Saurauia pentapetala (Jack) Hoogland Macklin, J. and J. Parnell. (2005). Santalaceae (Osyris). In Flora of Thailand
Vol. 9(1): 68-72.
ชื่อพ้อง Ternstroemia pentapetala Jack
ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 12 ม. มีขนสีน�้าตาล ปุ่มเล็ก ๆ ตามกิ่งอ่อน ก้านใบ
แผ่นใบด้านล่าง ก้านดอก และกลีบเลี้ยงด้านนอก ใบรูปไข่กลับหรือรูปขอบขนาน
ยาว 7-30 ซม. ขอบใบจักฟันเลื่อย มีขนแข็ง ก้านใบยาว 1-4 ซม. ดอกออกเป็น
ช่อกระจุกตามซอกใบ ตามปุ่มบนกิ่ง แต่ละช่อมี 1-10 ดอก ก้านดอกยาว 1-2 ซม.
กลีบเลี้ยงรูปไข่กลับ ยาว 0.3-1 ซม. ดอกรูประฆังกว้าง สีขาวหรือสีชมพูอ่อน ยาว
0.6-1 ซม. กลีบรูปไข่ ปลายพับงอ ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 3 มม. รังไข่เกลี้ยง
ก้านเกสรเพศเมียมี 3-4 อัน ติดทน ผลรูปรีกว้าง กว้าง 6-8 มม. ยาว 5-6 มม.
พบที่คาบสมุทรมลายู ในไทยพบทางภาคตะวันออกที่เขาใหญ่ จังหวัด
ปราจีนบุรี และภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบชื้น ริมล�าธารหรือที่ลาดชัน ความสูงถึงประมาณ
800 เมตร ในหนังสือพรรณพฤกษชาติของประเทศไทยระบุว่าเป็น S. tristyla DC.
เอกสารอ้างอิง
Keng, H. (1972). Saurauiaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(2): 109-111.
Li, J., X. Li and D. Doel Soejarto. (2007). Actinidiaceae. In Flora of China Vol. ชาหอม: ช่อดอกเพศผู้แบบช่อกระจุกสั้น ๆ แยกแขนง มักแยกเป็นกลุ่มละ 3 ดอก ก้านช่อเป็นเหลี่ยม ดอกเพศเมีย
12: 356, 358. ออกเป็นช่อเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ มีดอกเดียว ผลสุกสีแดงอมส้ม (ภาพ: ดอยหัวหมด ตาก - PK)
Rafidah, A.R. (2013). Actinidiaceae. In Flora of Peninsular Malaysia. Vol. 4: 5-24.
ชำามะนาด, สกุล
Vallaris Burm. f.
วงศ์ Apocynaceae
ไม้เถา น�้ายางขาว กิ่งมีช่องอากาศ ใบเรียงตรงข้าม มีต่อมตามซอกใบ ช่อดอก
แบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกตามซอกใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจ�านวนอย่างละ
5 กลีบ ดอกรูปกรวย กลีบเรียงซ้อนทับกันด้านขวาในตาดอก เกสรเพศผู้ 5 อัน
แนบติดปลายเกสรเพศเมีย จุดติดบนหลอดกลีบมีขน ยื่นพ้นปากหลอดกลีบ
ก้านชูอับเรณูสั้น ปลายก้านเป็นกระเปาะกลม อับเรณูรูปหัวลูกศร จานฐานดอกจัก
5 พู มี 2 คาร์เพลแยกกัน ปลายเชื่อมติดกันเรียวจรดก้านเกสรเพศเมีย มีขนสั้นนุ่ม
ช้าส้าน: แผ่นใบด้านล่างมีขนสีน�้าตาล ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกตามซอกใบ (ภาพ: เชียงใหม่ - RP) ผลแตกแนวเดียวออกเป็นคู่ มักลดรูปมีผลเดียว เมล็ดจ�านวนมาก ปลายมีจุกขน
135
59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd 135 3/1/16 5:28 PM