Page 161 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 161
ดอกแตรวง
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
สกุล Didymocarpus มีประมาณ 70 ชนิด พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ และเอเชีย ประมาณ 1 ซม. กลีบบานออก ขอบจักซี่ฟันไม่เป็นระเบียบ เกสรเพศผู้ติดที่เหนือจุด
ตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยมีประมาณ 18 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “didymous” กึ่งกลางหลอดกลีบ มีขนเป็นกระจุกที่โคน ก้านชูอับเรณูเกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมียโค้ง
สองเท่า และ “karpos” ผล ตามลักษณะผลแห้งแตกเป็น 2 ซีก ยาวประมาณ 2 ซม. ผลรูปรี ยาวประมาณ 2 ซม.
พบที่อินเดีย จีน พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตาม
ดอกกระดิ่ง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง หรือเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 1100 เมตร
Didymocarpus aureoglandulosus C. B. Clarke
ไม้ล้มลุก ขึ้นบนหินหรืออิงอาศัย มีเหง้า ล�าต้นสั้น มีขนหยาบหนาแน่นตาม ดอกดินแดง
ล�าต้น แผ่นใบทั้งสองด้าน ก้านใบ ช่อดอก ใบประดับ ก้านดอก และกลีบเลี้ยง Aeginetia indica L.
ด้านนอก ใบออกที่โคนต้น รูปไข่ หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 9-23 ซม. โคนเบี้ยว
ก้านยาว 2-9 ซม. ใบในฤดูแล้งขนาดเล็ก ก้านสั้น ช่อดอกออกระหว่างใบ ก้านช่อ พืชเบียนล้มลุก สูงได้ถึง 40 ซม. ส่วนต่าง ๆ สีน�้าตาลอ่อนหรือน�้าตาลแดง
ยาว 10-16 ซม. ใบประดับรูปใบหอก ยาว 3-5 มม. ก้านดอกยาว 0.5-1.8 ซม. มักมีริ้วสีเข้ม ดอกออกเดี่ยว ๆ กลีบเลี้ยงยาว 2.5-3 ซม. ปลายแหลม ดอกยาว 2-4 ซม.
กลีบเลี้ยงแฉกลึกจรดโคน รูปใบหอก ยาวประมาณ 1 ซม. ดอกรูปแตร สีม่วงอ่อน หลอดกลีบดอกสีขาว ม่วงอ่อน หรือม่วงเข้ม แผ่นกลีบเส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3 มม.
ด้านในมีปื้นสีน�้าตาลแดง หลอดกลีบยาวประมาณ 2.5 ซม. กลีบบนขนาดเล็กกว่า บานออกเล็กน้อย ขอบกลีบเรียบ ภายในหลอดกลีบสีเดียวกับด้านนอกหรือเข้มกว่า
กลีบล่างรูปกลม ยาวประมาณ 6 มม. เกสรเพศผู้ติดเหนือจุดกึ่งกลางหลอดกลีบ เกสรเพศผู้ติดที่ประมาณจุดที่หลอดกลีบงอ ก้านชูอับเรณูเกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมียโค้ง
ก้านชูอับเรณูยาว 3-5 มม. ช่วงบนมีขนต่อม อับเรณูเกลี้ยง จานฐานดอกรูปทรง ยาว 1-1.5 ซม. ผลรูปกรวย ยาวประมาณ 2.5 ซม.
กระบอก ยาวประมาณ 3 มม. รังไข่มีขนสั้น ผลรูปแถบ ยาวประมาณ 4.5 ซม. พบที่อินเดีย ศรีลังกา จีน ญี่ปุ่น พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและภูมิภาคมาเลเซีย
พบที่อินเดีย พม่า และภาคเหนือของไทยที่เชียงใหม่ และน่าน ขึ้นตามคบไม้ นิวกินี ในไทยพบทุกภาค มักขึ้นเป็นกลุ่มหนาแน่น ความสูงถึงประมาณ 1600 เมตร
ในป่าดิบเขา ความสูง 1500-1700 เมตร มีความผันแปรสูง ทั้งรูปร่าง ขนาด และสีของดอก ทั้งต้นลวกกินกับน�้าพริก คั้นน�้า
ให้สีม่วงด�าใช้ท�าขนมหรือผสมข้าวเหนียวเป็นข้าวก�่า มีสรรพคุณขับพิษ แก้อักเสบ
เอกสารอ้างอิง
Nangngam, P. and J.F. Maxwell. (2013). Didymocarpus (Gesneriaceae) in เอกสารอ้างอิง
Thailand. Gardens’ Bulletin Singapore 65(2): 185-225. Parnell, J. (2008). Orobanchaceae. In Flora of Thailand Vol. 9(2): 143-147.
Zhang, Z.Y. and N.N. Tzvelev. (1998). Orobanchaceae. In Flora of China Vol.
18: 229, 240-242,
ดอกกระดิ่ง: ใบออกที่โคนต้น มีขนหยาบหนาแน่นทั่วไป ดอกรูปแตร กลีบเลี้ยงแฉกลึกจรดโคน ดอกสีม่วงอ่อน
ด้านในมีปื้นสีน�้าตาลแดง (ภาพ: แม่ออน เชียงใหม่ - RP)
ดอกดิน: ล�าต้นสีน�้าตาลแดง ดอกออกตามล�าต้นคล้ายเป็นช่อ 1-3 ดอก หลอดกลีบดอกสีเหลืองอ่อน ด้านในสีเหลืองเข้ม
ดอกดิน, สกุล กลีบสีม่วงเข้ม ขนาดเท่า ๆ กัน บานออก ขอบจักซี่ฟันไม่เป็นระเบียบ (ภาพ: อุ้มผาง ตาก - PK)
Aeginetia L.
วงศ์ Orobanchaceae
พืชเบียนล้มลุก ใบขนาดเล็กสีเดียวกับล�าต้น ดอกออกเป็นช่อเดี่ยว ๆ แบบ
ช่อกระจะ หรือเป็นกระจุก 2-3 ดอก กลีบเลี้ยงจักไม่ชัดเจน แฉกข้างเดียวรูปใบพาย
กลีบดอกเชื่อมติดเป็นหลอด กลีบรูปปากเปิด คอดเหนือรังไข่ กลีบบน 2 กลีบ
กลีบล่าง 3 กลีบ เกสรเพศผู้ 4 อัน ไม่ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก ก้านชูอับเรณูโป่ง
อันที่ติดกลีบบนมีเดือย อับเรณูมีรูเปิดด้านบน มี 2 คาร์เพล ก้านเกสรเพศเมีย
ติดทน ยอดเกสรเพศเมียรูปโล่ ผลแห้งแตก เมล็ดขนาดเล็กจ�านวนมาก
สกุล Aeginetia เป็นพืชเบียนแบบ hemiparasite มี 4-5 ชนิด พบที่อินเดีย จีน พม่า ดอกดินแดง: ดอกออกเดี่ยว ๆ หลอดกลีบดอกสีขาวหรือม่วงอ่อน ขอบกลีบเรียบ ผลรูปกรวย (ภาพซ้ายและภาพขวา:
ภูมิภาคอินโดจีนและภูมิภาคมาเลเซีย ในไทยมี 2 ชนิด คล้ายกับสกุลว่านดอกสามสี ภูผาเทิบ มุกดาหาร - PK; ภาพกลาง: แม่ริม เชียงใหม่ - RP)
Christisonia ที่กลีบเลี้ยงแยกเป็น 3-5 แฉก ชื่อสกุลตั้งตามนายแพทย์ชาวอียิปต์
Paulus Aegineta ในช่วงศตวรรษที่ 7 ดอกแตรวง, สกุล
Lilium L.
ดอกดิน วงศ์ Liliaceae
Aeginetia pedunculata Wall. ไม้ล้มลุก หัวใต้ดินมีเกล็ดหนาเรียงซ้อนเหลื่อม ใบส่วนมากเรียงเวียน ไร้ก้าน
ชื่อพ้อง Aeginetia acaulis (Roxb.) Walp. หรือเกือบไร้ก้าน ดอกออกเดี่ยวหรือเป็นช่อกระจะตามปลายกิ่ง ใบประดับคล้ายใบ
พืชเบียนล้มลุก ล�าต้นเดี่ยวสีน�้าตาลแดง สูงได้ถึง 15 ซม. ดอกออกตามล�าต้น ดอกส่วนมากรูปแตร ห้อยลง กลีบรวม 6 กลีบ แยกกัน ปลายกลีบมักงอกลับ
คล้ายเป็นช่อ 1-3 ดอก ก้านดอกหนา ยาว 2-4 ซม. กลีบเลี้ยงยาวได้ถึง 4 ซม. โคนกลีบมีต่อมน�้าต้อย เกสรเพศผู้ 6 อัน อับเรณูติดด้านหลัง ไหวได้ รังไข่มี 3 ช่อง
สีน�้าตาลอมเหลือง ปลายมีติ่งแหลม ดอกยาว 5-7 ซม. หลอดกลีบดอกสีเหลืองอ่อน ออวุลจ�านวนมาก ก้านเกสรเพศเมียเรียวยาว ยอดเกสรบวม จักตื้น ๆ 3 พู ผลแห้ง
ด้านในสีเหลืองเข้ม กลีบสีม่วงเข้ม รูปกลม ขนาดเท่า ๆ กัน เส้นผ่านศูนย์กลาง แตกตามยาว เมล็ดจ�านวนมาก เรียงตั้งคล้ายเหรียญ แบน มีปีกโดยรอบ
141
59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd 141 3/1/16 5:29 PM