Page 164 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 164

ดอกหรีด


                ดอกหรีด, สกุล       สารานุกรมพืชในประเทศไทย
                Gentiana L.
                วงศ์ Gentianaceae
                   ไม้ล้มลุก ใบเรียงตรงข้าม เรียงเป็นกระจุกเวียนรอบข้อ หรือเป็นกระจุกที่โคน
                ไร้ก้าน มีเส้นใบเส้นเดียว ดอกออกเป็นช่อกระจุกที่ปลายกิ่งหรือซอกใบ บางครั้ง
                มีดอกเดียว กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด ส่วนมากมี 5 กลีบ เส้นกลางกลีบหนา
                กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดหรือรูประฆัง ส่วนมากมี 5 กลีบ พับจีบระหว่างกลีบ
                เกสรเพศผู้เท่าจ�านวนกลีบดอก ติดใต้จุดกึ่งกลางหลอดกลีบดอก โคนก้านชูอับเรณู
                ขยาย แบน รังไข่มีก้าน มีช่องเดียว ยอดเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก ผลแห้งแตก เมล็ด
                ขนาดเล็ก จ�านวนมาก มีปีกแคบ ๆ
                   สกุล Gentiana มีประมาณ 360 ชนิด พบในแอฟริกา อเมริกา เอเชีย ยุโรป
                   และออสเตรเลีย พบมากในประเทศจีน ในไทยมีประมาณ 10 ชนิด ชื่อสกุลเป็น  ดอกหรีดเชียงดาว: กลีบดอกแฉกลึกไม่เท่ากัน กลีบพับจีบจักชายครุย (ภาพ: ดอยเชียงดาว เชียงใหม่ - SSi)
                   ภาษาละตินที่ใช้เรียกพืชที่ชอบขึ้นตามที่สูง
                                                                     ดองดึง
                ดอกหรีด                                              Gloriosa superba L.
                Gentiana nudicaulis Kurz subsp. lakshnakarae (Kerr) Halda  วงศ์ Colchicaceae
                  ชื่อพ้อง Gentiana lakshnakarae Kerr, G. hesseliana Hosseus var. lakshnakarae   ไม้เถาล้มลุก ยาวได้ถึง 5 ม. มีเหง้า ใบเรียงเวียน เรียงตรงข้าม หรือรอบข้อ
                    (Kerr) Toyok.                                    1-3 ใบ รูปขอบขนานถึงรูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาวได้ถึง 20 ซม. ปลายยาว
                   ไม้ล้มลุก ล�าต้นสั้นทอดนอนหรือตั้งตรง แตกกิ่ง ใบเรียงรอบข้อชิดกันใกล้  คล้ายหาง ม้วนงอเป็นมือเกาะ ก้านใบสั้นมากหรือไร้ก้าน ดอกออกเดี่ยว ๆ ตามข้อ
                ปลายกิ่ง รูปไข่ ยาว 1-6 ซม. ขอบบาง โคนตัดโอบล�าต้น ดอกออกเป็นกระจุกแน่น  ก้านดอกยาว 4-20 ซม. กลีบรวม 6 กลีบ แยกกัน ด้านบนและขอบสีแดง ด้านล่าง
                ที่ปลายกิ่ง หลอดกลีบเลี้ยงยาว 4-8 มม. ปลายแยกเป็นแฉกรูปแถบหรือรูปใบหอก   สีเหลือง หรือมีสีเหลืองอมเขียวหรือสีแดงทั้งดอก กลีบรูปใบหอก รูปแถบ หรือแกม
                ยาวเท่า ๆ หลอดกลีบเลี้ยง ปลายแหลม ดอกสีม่วงอมน�้าเงิน หลอดกลีบดอกยาว  รูปไข่กลับ ยาว 5-10 ซม. ขอบเป็นคลื่น มีก้าน ติดทน เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดตรงข้าม
                ประมาณ 1.3 ซม. กลีบรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 2 มม. ก้านชูอับเรณูยาว   กลีบรวม ก้านชูอับเรณูยาว 2-5 ซม. อับเรณูติดไหวได้ ยาวประมาณ 1 ซม. รังไข่
                3-5 มม. ก้านเกสรเพศเมียสั้นมาก ผลรูปไข่ ยาว 0.6-1.1 ซม. ปลายมีปีก ก้านยาว  มี 3 ช่อง ออวุลจ�านวนมาก ก้านเกสรเพศเมียยาวเท่าเกสรเพศผู้ โคนก้านบิด
                ประมาณ 3.5 มม.                                       ปลายจัก 3 พู ยาว 6-7 มม. ผลแห้งแตกตามรอยประสาน รูปขอบขนาน ยาว 4-6 ซม.
                   พืชถิ่นเดียวของไทย พบที่ภูกระดึง และภูหลวง จังหวัดเลย ขึ้นตามทุ่งหญ้า   เมล็ดรูปไข่ สีแดงอมส้ม เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 5 มม.
                หรือที่โล่งในป่าสนเขา ความสูงประมาณ 1200 เมตร แยกเป็น subsp. ting-nung-hoae   พบในแอฟริกา มาดากัสการ์ อินเดีย เนปาล ศรีลังกา จีนตอนใต้ และเอเชีย
                (Halda) T. N. Ho พบที่กัมพูชา ส่วน subsp. nudicaulis พบที่อินเดีย พม่า และ  ตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้นเป็นวัชพืชในอเมริกาและออสเตรเลีย เป็นไม้ประดับ เหง้ามีสาร
                คาบสมุทรมลายู                                        โคลชิซีน (colchicines) มีพิษ มีสรรพคุณในการรักษาโรคเกาต์และมะเร็ง

                ดอกหรีดเชียงดาว                                        สกุล Gloriosa L. เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Convallariaceae มี 5 ชนิด พบในแอฟริกา
                Gentiana leptoclada Balf. f. & Forrest subsp. australis (Craib) Halda  และเอเชีย ในไทยพบขึ้นเป็นวัชพืชชนิดเดียว ชื่อสกุลมาจากภาษาละติน
                                                                       “gloriosus” สง่างาม ตามรูปร่างของดอก
                  ชื่อพ้อง Gentiana australis Craib
                   ไม้ล้มลุก ล�าต้นเป็นเหลี่ยม มีปีกแคบ ๆ ใบรูปไข่ ใบตามกิ่งขนาดเล็กกว่าใบ  เอกสารอ้างอิง
                                                                       Chen, X. and M.N. Tamura. (2000). Liliaceae (Gloriosa). In Flora of China Vol.
                ตามล�าต้น ยาวได้ถึง 1.3 ซม. โคนตัดโอบรอบล�าต้น ขอบใบจักฟันเลื่อย หลอดกลีบเลี้ยง  24: 158.
                ยาว 4-7 มม. มีสันเป็นปีกตามยาว ปีกจักชายครุยสั้น ๆ กลีบรูปใบหอก ยาว
                2-5 มม. ปลายมีติ่งแหลม ดอกสีม่วงอมน�้าเงิน หลอดกลีบดอกยาว 1-2.5 ซม.
                กลีบรูปสามเหลี่ยม ยาว 4-5 มม. แฉกลึกไม่เท่ากัน แฉกสั้น กลีบพับจีบจักชายครุย
                ก้านชูอับเรณูยาว 5-7.5 มม. ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 7 มม. ผลรูปขอบขนาน
                ยาว 1.5-2 ซม. ก้านยาวประมาณ 8 มม.
                   พืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคเหนือที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้น
                ตามที่โล่งบนเขาหินปูน ความสูง 1600-1800 เมตร ส่วน subsp. leptoclada
                พบที่จีนทางตอนใต้ เกสรเพศผู้ยาวไม่เท่ากัน ก้านผลยาวได้ถึง 2 ซม.

                  เอกสารอ้างอิง
                   Ho, T.N. and J.S. Pringle. (1995). Gentianaceae. In Flora of China Vol. 16: 15.  ดองดึง: ปลายใบยาวคล้ายหาง ม้วนงอเป็นมือเกาะ ก้านใบสั้นมากหรือไร้ก้าน กลีบรวม 6 กลีบ แยกกัน ติดทน
                   Ubolcholaket, A. (1987). Gentianaceae. In Flora of Thailand. Vol. 5(1): 82-89.  ผลแห้งแตกตามรอยประสาน ใบรูปขอบขนาน (ภาพ: อุ้มผาง ตาก - PK)
                                                                     ดอนย่าควีนสิริกิติ์
                                                                     Mussaenda philippica ‘Queen Sirikit’
                                                                     วงศ์ Rubiaceae
                                                                       ไม้พุ่ม อาจสูงได้ถึง 7 ม. มีขนสั้นนุ่มตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก กลีบเลี้ยง
                                                                     ประดับ และกลีบดอก หูใบปลายแยกเป็น 2 แฉก ใบเรียงตรงข้าม รูปไข่ ยาวได้
                                                                     ถึง 15 ซม. ปลายแหลม ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง ใบประดับขนาดเล็ก ร่วงเร็ว กลีบเลี้ยง
                                                                     5 กลีบขยายเป็นแผ่นคล้ายกลีบดอก สีชมพู ยาว 1.2-5 ซม. ดอกรูปดอกเข็ม
                                                                     หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 2 ซม. ปลายแยกเป็น 5 กลีบ สีเหลือง รูปรีกว้าง
                  ดอกหรีด: ล�าต้นสั้นทอดนอนหรือตั้งตรง แตกกิ่ง ใบเรียงรอบข้อชิดกันใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงรูปแถบหรือรูปใบหอก   สั้นกว่าหลอดกลีบดอก กลางกลีบเป็นสัน ปลายมีติ่งแหลม เกสรเพศผู้ 5 อัน
                ยาวเท่า ๆ หลอดกลีบ กลีบดอกพับจีบจักชายครุย (ภาพ: ภูหลวง เลย - SSi)  ไม่ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก

                144






        59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd   144                                                                 3/1/16   5:30 PM
   159   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169