Page 176 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 176

ตองหนาม
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                ก้านใบยาว 1.5-11 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงหรือคล้ายช่อกระจะ
                ออกที่ปลายกิ่ง มีขนสั้นนุ่ม ช่อดอกเพศผู้ยาวได้ถึง 16 ซม. ช่อดอกเพศเมียยาว
                กว่า 2 เท่า ใบประดับรูปไข่ ยาวประมาณ 3 มม. ก้านดอกยาว 2-5 มม. ดอกเพศผู้
                ออกเป็นกระจุก 3 ดอก กลีบเลี้ยง 3-5 กลีบ รูปไข่ ยาวประมาณ 5 มม. มีขนกระจุก
                สั้นนุ่ม กลีบดอกสั้นกว่ากลีบเลี้ยง เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ
                กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่แกมรูปขอบขนาน ยาว 3-4 มม. มีขนกระจุกสั้นนุ่ม ไม่มี
                กลีบดอก รังไข่มีขน ก้านเกสรเพศเมีย 3 อัน ยาวประมาณ 3 มม. ปลายแยก 2 แฉก
                ผลแห้งแตก มี 3 พู เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-3.5 ซม. มีขนสั้นนุ่มสีเหลืองอมน�้าตาล
                หนาแน่น มี 2-3 เมล็ด รูปรี ยาวประมาณ 2 ซม.
                                                                      ตองหนาม: ปาล์มแตกกอ ใบแบบขนนก ก้านและกาบยาว มีหนามเป็นกระจุกหนาแน่น ช่อดอกคล้ายช่อเชิงลด
                   พบที่อินเดีย พม่า จีนตอนใต้ ลาว เวียดนาม คาบสมุทรมลายู สุมาตรา ชวา   (ภาพ: แม่ฮ่องสอน - MP)
                บอร์เนียว และฟิลิปปินส์ ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และ
                ป่าดิบชื้น โดยเฉพาะที่เป็นหินปูน ความสูงถึงประมาณ 800 เมตร เมล็ดกินได้  ตองอาน
                                                                     Phytocrene bracteata Wall.
                   สกุล Sumbaviopsis J. J. Sm. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Acalyphoideae เผ่า Chro-  วงศ์ Icacinaceae
                   zophoreae และเผ่าย่อย Doryxylinae มีเพียงชนิดเดียว ชื่อสกุลหมายถึงคล้าย
                   กับสกุล Sumbavia ซึ่งเป็นชื่อเกาะในอินโดนีเซีย      ไม้เถาเนื้อแข็ง แยกเพศต่างต้น เถามีตุ่มคล้ายหนามขนาดเล็กประปราย มี
                                                                     ขนตามกิ่งอ่อน และแผ่นใบด้านล่าง ใบเรียงเวียนห่าง ๆ รูปไข่กว้าง หรือจัก 3 พู
                  เอกสารอ้างอิง                                      ยาว 10-20 ซม. ปลายแหลม โคนเว้าตื้น เส้นโคนใบข้างละ 1-3 เส้น ก้านใบยาว
                   van Welzen, P.C. (2007). Euphorbiaceae (Sumbaviopsis). In Flora of Thailand   3-7 ซม. ช่อดอกเพศผู้คล้ายช่อเชิงลดแยกแขนง ยาว 10-20 ซม. ออกตามซอกใบ
                      Vol. 8(2): 562-564.                            หรือล�าต้น มีขนสั้นนุ่ม ช่อย่อยแบบช่อกระจุกแน่น มี 12-15 ดอก ใบประดับรูป
                                                                     เส้นด้าย ยาวได้ถึง 1 ซม. ติดทน ดอกขนาดเล็ก กลีบเลี้ยงมี 3-5 กลีบ กลีบดอก
                                                                     3-4 กลีบ เกสรเพศผู้ส่วนมากมี 3-4 อัน เชื่อมติดกันสั้น ๆ รังไข่เป็นหมันมีขนยาว
                                                                     ช่อดอกเพศเมียแบบช่อกระจุกแน่น ก้านช่อหนา ออกตามซอกใบ 1-3 ช่อ
                                                                     ดอกคล้ายดอกเพศผู้ ก้านเกสรเพศเมียหนา ยอดเกสรจัก 2 พู ผลกลุ่ม ผลย่อย
                                                                     ผนังชั้นในแข็ง เรียงหนาแน่นเป็นกระจุกกลม เส้นผ่านศูนย์กลางยาวได้ถึง 20 ซม.
                                                                     ผลย่อยรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 4.5-8 ซม. มีขนหนาแน่น ผนังชั้นในแข็ง มีรูพรุน
                                                                       พบที่พม่า ภูมิภาคมาเลเซีย และฟิลิปปินส์ ในไทยพบทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
                                                                     ที่ป่าละอู จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ที่ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช
                                                                     ขึ้นตามป่าดิบชื้นที่มีหินปูน ความสูงถึงประมาณ 450 เมตร

                                                                       สกุล Phytocrene Wall. มี 11 ชนิด พบเฉพาะในเอเชีย โดยเฉพาะภูมิภาคมาเลเซีย
                                                                       ในไทยมี 3 ชนิด อีก 2 ชนิด พบเฉพาะทางภาคใต้ตอนล่าง ชื่อสกุลมาจากภาษา
                                                                       กรีก “phyto” พืช และ “crene” น้ำาพุ หมายถึงเถามีน้ำาจำานวนมาก
                  ตองผ้า: โคนใบแบบก้นปิด แผ่นใบด้านล่างมีขนสีขาวหนาแน่น ผลแห้งแตก มี 3 พู มีขนสั้นนุ่มสีเหลืองอมน�้าตาล
                หนาแน่น (ภาพ: แม่สอด ตาก - RP)                        เอกสารอ้างอิง
                                                                       Sleumer, H. (1970). Icacinaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(1): 85-87.
                ตองหนาม
                Salacca griffithii A. J. Hend.
                วงศ์ Arecaceae
                   ปาล์มแตกกอ ล�าต้นสั้นอยู่ใต้ดิน แยกเพศต่างต้น ใบแบบขนนก เรียงเวียน
                มี 10-15 ใบ ก้านและกาบยาวได้ถึง 3 ม. มีหนามเป็นกระจุก 2-10 อัน หนาแน่น
                แกนกลางใบยาวได้ถึง 4.5 ม. ใบย่อยข้างละ 35-42 ใบ เรียงสลับระนาบเดียว รูปแถบ
                ยาว 0.8-1.25 ซม. ไร้ก้าน มีหนามกระจายตามเส้นใบ ใบปลายมักเชื่อมติดกัน
                ช่อดอกคล้ายช่อเชิงลด มีหลายช่อออกชิดกันที่ยอด โคนช่อมีใบลดรูป ใบประดับ
                เรียงซ้อนกัน ใบประดับย่อยด้านล่างมีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ช่อดอกเพศผู้ยาวได้ถึง 1 ม.
                ช่อย่อยยาว 13-24 ซม. ดอกเพศผู้ออกเป็นกระจุกจากในหลุม กลีบเลี้ยงเป็นหลอด
                ปลายแยก 3 แฉก เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดบนปากหลอดกลีบดอก ช่อดอกเพศเมียยาว
                30-40 ซม. ช่อย่อยยาว 8-12 ซม. ดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ หรือออกเป็นคู่กับ
                ดอกเพศผู้ที่เป็นหมัน รังไข่มี 3 ช่อง ยอดเกสรเพศเมีย 3 อัน ผลรูปไข่กลับ กว้าง
                6-8 ซม. ยาว 5-6 ซม. มีเกล็ดเป็นหนามสีแดงหุ้มหนาแน่น มี 1-3 เมล็ด ผนังหนา  ตองอาน: ใบเรียงเวียนห่าง ๆ ช่อดอกเพศผู้คล้ายช่อเชิงลดแยกแขนง ออกตามล�าต้น ใบประดับรูปเส้นด้าย ติดทน
                   พบที่จีนตอนใต้ พม่า และภาคเหนือของไทยที่แม่ฮ่องสอน ขึ้นตามที่โล่งมีน�้าขัง   ผลย่อยเรียงหนาแน่นเป็นกระจุกกลม (ภาพดอก: ป่าละอู ประจวบคีรีขันธ์, ภาพผลและใบ: สุราษฎร์ธานี; - RP)
                หรือริมล�าธารในป่าเบญจพรรณ ความสูงถึงประมาณ 700 เมตร  ต้อยติ่ง

                   สกุล Salacca Reinw. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Calamoideae เผ่า Calameae มี 20 ชนิด   Ruellia tuberosa L.
                   พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ พม่า เวียดนาม และภูมิภาคมาเลเซีย ในไทยมี 4 ชนิด   วงศ์ Acanthaceae
                   รวมถึงระกำา S. wallichiana Mart. ที่เป็นไม้ผล ส่วนสละ S. zalacca (Gaertn.)   ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 50 ซม. มีรากสะสมอาหาร ตามข้อบวม ใบเรียงตรงข้าม รูปรี
                   Voss มีถิ่นกำาเนิดในอินโดนีเซีย ชื่อสกุลมาจากชื่อพื้นเมือง “Salak” ที่ใช้เรียกสละ  รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 4-8 ซม. แผ่นใบมักมีขนสั้นแข็งกระจายทั้ง

                  เอกสารอ้างอิง                                      2 ด้าน ก้านใบยาวได้ถึง 8 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกหรือออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ
                   Pongsattayapipat, R. (2013). Arecaceae (Salacca). In Flora of Thailand Vol.   ใกล้ปลายกิ่ง ก้านช่อยาวได้ถึง 2.5 ซม. ใบประดับเรียงตรงข้าม รูปใบหอก ยาว
                      11(3): 484-490.                                3-9 มม. ก้านดอกยาว 0.6-1 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยาวประมาณ 6 มม. ปลายแยกเป็น


                156






        59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd   156                                                                 3/1/16   5:24 PM
   171   172   173   174   175   176   177   178   179   180   181