Page 192 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 192
ตาเหิน
ตาเหิน, สกุล สารานุกรมพืชในประเทศไทย
Hedychium J. Koenig
วงศ์ Zingiberaceae
ไม้ล้มลุก บางครั้งขึ้นบนหิน หรืออิงอาศัย มีเหง้า ลิ้นกาบชัดเจน ใบเรียงสลับ
ระนาบเดียว ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ยอด ตั้งขึ้น ใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อม
มีหนึ่งหรือหลายดอก ใบประดับย่อยเป็นหลอด กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด
แยกจรดโคนด้านเดียว ปลายจัก 3 พู กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นหลอดยาว มี 3 กลีบ
กลีบข้างรูปแถบ พับงอกลับ กลีบปากเป็นแผ่นกว้าง ปลายแยก 2 แฉก มีก้านกลีบ
แผ่นเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันด้านข้างใหญ่กว่ากลีบดอก ก้านชูอับเรณูเรียวยาว
อับเรณูติดด้านหลัง โคนกางออก ปลายแกนอับเรณูไม่มีรยางค์ รังไข่มี 3 ช่อง
พลาเซนตารอบแกนร่วม ก้านเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ผลแห้งแตกเป็น 3 ซีก
เมล็ดจ�านวนมาก มีเยื่อหุ้ม ขอบวิ่น
ตาเหินไหว: ดอกเรียงหนาแน่น ใบประดับสั้น ก้านชูอับเรณูยาวกว่ากลีบปาก (ภาพซ้าย: ภูหลวง เลย - MP);
มหาหงส์: ใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อม ก้านชูอับเรณูสั้นกว่ากลีบปาก (ภาพขวา: cultivated - RP)
สกุล Hedychium อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Zingiberoideae มีประมาณ 50 ชนิด พบ
ในมาดากัสการ์ เอเชียเขตร้อนและกึ่งเขตร้อน ในไทยมี 28-30 ชนิด หลายชนิด
พบเป็นไม้ประดับ เช่น ข่าดง H. coccineum Buch.-Ham. ex Sm. ตาเหินไหว
H. ellipticum Buch.-Ham. ex Sm. และมหาหงส์ H. coronarium J. Koenig
เป็นต้น ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “hedys” หอมหวาน และ “chion” หิมะ ตาม
ลักษณะดอกสีขาวในบางชนิด และมีกลิ่นหอม
ตาเหิน
Hedychium spicatum Sm.
ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 1 ม. ลิ้นกาบยาว 1.5-2.5 ซม. มีขน ใบรูปใบหอก ยาว
10-40 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีขนยาวประปรายตามเส้นกลางใบ ไร้ก้านหรือมีก้านสั้น
ช่อดอกยาวได้ถึง 20 ซม. แต่ละใบประดับมีดอกเดียว มีขนสั้นนุ่ม ใบประดับรูป
ขอบขนาน ยาว 2-3 ซม. ใบประดับย่อยยาว 1-2 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยาว 2.5-3.5 ซม.
ดอกสีขาวหรืออมเหลือง หลอดกลีบดอกยาว 6-8 ซม. มักมีปื้นสีม่วงอมแดง กลีบ ตาเหิน: ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ยอด ตั้งขึ้น แต่ละใบประดับมีดอกเดียว ก้านชูอับเรณูสั้นกว่ากลีบปาก
รูปแถบ ยาว 2.5-3.5 ซม. ปลายแยก 2 แฉก กลีบปากยาวเท่า ๆ กลีบดอก หรือ (ภาพ: ดอยเชียงดาว เชียงใหม่ - PR)
ยาวกว่าเล็กน้อย แผ่นเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันรูปแถบ สั้นกว่ากลีบปากเล็กน้อย
ก้านชูอับเรณูสั้นกว่ากลีบปาก อับเรณูยาวประมาณ 1.2 ซม. ผลกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง
1.5-2.5 ซม. เยื่อหุ้มเมล็ดสีขาว
พบที่อินเดีย ภูฏาน เนปาล จีนตอนใต้ พม่า และภาคเหนือของไทยที่ดอยสุเทพ
และดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ความสูง 1500-2000 เมตร บางครั้งแยกเป็น
var. acuminatum (Roscoe) Wall. ที่ดอกไม่หนาแน่น
ตาเหินเชียงดาว
Hedychium tomentosum Sirirugsa & K. Larsen ตาเหินเชียงดาว: หลอดกลีบเลี้ยง ใบประดับ และใบประดับย่อยมีขน กลีบปากแฉกลึก ก้านชูอับเรณูยาวกว่ากลีบปาก
ไม้ล้มลุก สูงประมาณ 60 ซม. ลิ้นกาบยาวประมาณ 1.5 ซม. มีขน ใบรูปขอบขนาน อับเรณูสั้น (ภาพ: ดอยเชียงดาว เชียงใหม่ - VC)
ยาว 15-25 ซม. แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม ไร้ก้านหรือมีก้านสั้น ๆ ก้านช่อดอก ตำาแยเครือ
ยาวประมาณ 7 ซม. แต่ละใบประดับมีดอกเดียว ใบประดับและใบประดับย่อย Cnesmone javanica Blume
มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ใบประดับรูปขอบขนาน ยาวประมาณ 2.5 ซม. ใบประดับย่อย
รูปใบหอก ยาวประมาณ 1 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยาวประมาณ 3 ซม. มีขนยาว วงศ์ Euphorbiaceae
ดอกสีครีมอมเหลือง หลอดกลีบดอกยาว 7-8 ซม. กลีบรูปแถบ ยาวประมาณ 2.5 ซม. ไม้เถา แยกเพศร่วมต้น มีขนแสบคันทั่วไป หูใบรูปสามเหลี่ยม ยาว 5-8 มม.
กลีบปากยาวเท่า ๆ กลีบดอก แฉกลึก แผ่นเกสรเพศผู้ที่เป็นหมันรูปแถบ ยาวเท่า ๆ ติดทน ใบเรียงเวียน รูปไข่หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 6-17 ซม. ปลายแหลมยาว
กลีบปาก ก้านชูอับเรณูยาวกว่ากลีบปาก ยาวประมาณ 2.8 ซม. อับเรณูยาวประมาณ หรือยาวคล้ายหาง โคนรูปหัวใจ ขอบจักฟันเลื่อย เส้นโคนใบข้างละ 1-2 เส้น ช่อดอก
5 มม. รังไข่มีขนหนาแน่น แบบช่อกระจะ ออกตรงข้ามใบหรือปลายกิ่ง ยาว 3-9 ซม. ไม่มีกลีบดอกและจาน
พืชถิ่นเดียวของไทย พบที่ดอยเชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นตามที่โล่งบน ฐานดอก ดอกเพศผู้จ�านวนมากอยู่ปลายช่อ ก้านดอกยาวกว่าในดอกเพศเมีย กลีบเลี้ยง
เขาหินปูน ความสูงประมาณ 2000 เมตร คล้ายกับชนิด H. griffithianum Wall. รูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 5 มม. ติดทน ขยายในผลเล็กน้อย เกสรเพศผู้ 3 อัน
ที่แผ่นใบมีแถบต่อม และแผ่นใบด้านล่างไม่มีขนสั้นนุ่ม และอับเรณูยาวกว่า แยกกัน ก้านเกสรหนา อับเรณูปลายมีรยางค์สั้น ๆ ไม่มีเกสรเพศเมียที่เป็นหมัน
ดอกเพศเมียมี 1-2 ดอก อยู่ด้านล่าง ก้านดอกสั้นมาก กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว
เอกสารอ้างอิง 0.7-1 ซม. รังไข่มีขนหนาแน่น เกสรเพศเมียแยก 3 แฉก ยอดเกสรจักชายครุย ติดทน
Larsen, K. and S.S. Larsen. (2006). Gingers of Thailand. Queen Sirikit Botanic ผลแห้งแตก จัก 3 พู รูปรี ยาวประมาณ 1.5 ซม. คอลิวเมลลาติดทน กว้างด้านบน
Garden. Chiang Mai.
Sabu, M. (2006). Zingiberaceae and Costaceae of South India. Kerala, India. ก้านผลยาวประมาณ 3 มม. มี 3 เมล็ด กลม ๆ
Indian Association for Angiosperm Taxonomy, Calicut University. พบที่อินเดีย ภูฏาน บังกลาเทศ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู สุมาตรา
Sirirugsa, P. (1995). The genus Hedychium (Zingiberaceae) in Thailand. Nordic บอร์เนียว และชวา ในไทยพบทุกภาค ส่วนมากขึ้นตามเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ
Journal of Botany 15(3): 301-304.
Wu, D. and K. Larsen. (2000). Zingiberaceae. In Flora of China Vol. 24: 370-373. 300 เมตร แยกเป็น var. glabriuscula N. P. Balakr. & N. G. Nair พบที่หมู่เกาะ
อันดามันและนิโคบาร์ของอินเดีย
172
59-02-089_113-212_Ency new1-3_J-Coated.indd 172 3/1/16 5:29 PM