Page 237 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 237

นิมมานรดี
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                       เป็นวัชพืชในเอเชียและแอฟริกา ไม่ทราบถิ่นก�าเนิด ขึ้นตามชายป่า ที่รกร้าง   พบที่อินเดีย บังกลาเทศ พม่า กัมพูชา คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว ฟิลิปปินส์
                    ท้องนา และพื้นที่โล่ง ความสูงถึงประมาณ 800 เมตร ทั้งต้นมีสรรพคุณฆ่าพยาธิ   และภาคใต้ของไทยตามชายฝั่งทะเลอันดามันที่ระนอง กระบี่ ขึ้นตามป่าโกงกาง
                    แก้ท้องร่วง รักษาแผลสด
                                                                          เอกสารอ้างอิง
                      เอกสารอ้างอิง                                        Phengklai, C. (1993). Tiliaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(1): 11-14.
                       Esser, H.-J. (2005). Euphorbiaceae (Euphorbia). In Flora of Thailand Vol. 8(1):
                          263-292.
                       Ma, J.S. and M.G. Gilbert. (2008). Euphorbiaceae (Euphorbia). In Flora of
                          China Vol. 11: 288, 293, 296.














                                                                          น�้านอง: ใบรูปใบหอก ใบอ่อนสีน�้าตาลแดง ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง มีเกล็ดรูปโล่สีน�้าตาลกระจาย ดอกสีชมพูอ่อน
                                                                        พับงอกลับ เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ผลจัก 2 พู (ภาพ: ถ�้าพระขยางค์ ระนอง - RP)
                                                                        นิมมานรดี
                      น�้านมราชสีห์: ใบเรียงตรงข้าม เบี้ยว ขอบจักฟันเลื่อย เส้นโคนใบข้างละ 1 เส้น ดอกรูปถ้วยติดบนวงใบประดับ
                    ดอกเรียงแน่นแบบช่อกระจุกซ้อน ผลจัก 3 พู (ภาพซ้ายและภาพขวาบน: กรุงเทพฯ, ภาพขวาล่าง: ตาก; - RP)  Pinalia amica (Rchb. f.) Kuntze
                                                                        วงศ์ Orchidaceae
                                                                          ชื่อพ้อง Eria amica Rchb. f.
                                                                           กล้วยไม้อิงอาศัย ล�าลูกกล้วยรูปทรงกระบอก ยาว 3.5-14 ซม. ใบรูปขอบขนาน
                                                                        ถึงรูปแถบ ยาว 10-20 ซม. ก้านใบสั้นหรือยาวได้ถึง 1 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ
                                                                        ออกตรงข้ามใบ ยาว 7-12 ซม. มีขนสั้นนุ่มหนาแน่น ก้านช่อยาวประมาณ 2 ซม.
                                                                        ใบประดับรูปขอบขนาน ยาว 0.8-1.3 ซม. มี 6-12 ดอก ก้านดอกยาว 1.5-2 ซม.
                                                                        รวมรังไข่ ดอกสีขาวอมเขียวปนเหลืองอ่อน มีเส้นกลีบสีน�้าตาลแดง กลีบเลี้ยง
                      น�้านมราชสีห์เล็ก: ล�าต้นทอดเลื้อยแผ่เป็นวง มีขนยาว ใบเรียงตรงข้าม โคนเบี้ยว ช่อดอกออกสั้น ๆ มีช่อย่อย 1-3 ช่อ   3 กลีบ มีขนสีน�้าตาล กลีบบนรูปใบหอก ยาวประมาณ 1 ซม. กลีบข้างรูปไข่ ยาว
                    (ภาพ: กรุงเทพฯ - RP)
                                                                        เท่า ๆ กลีบบน กลีบดอกรูปไข่กลับแกมรูปใบหอก ยาว 8-9 มม. กลีบปากรูปไข่กลับ
                    น้ำานอง, สกุล                                       ยาวประมาณ 8 มม. ปลายแยกเป็น 3 พู รูปไข่ ยาว 3-4 มม. สีเหลืองเข้ม โคนกลีบ
                    Brownlowia Roxb.                                    ด้านในสีน�้าตาลแดงเข้ม มีครีบหนาที่โคน เส้าเกสรยาวประมาณ 4 มม. โคนยาว
                    วงศ์ Malvaceae                                      ประมาณ 3 มม. ผลแห้งแตก รูปทรงกระบอก ยาวประมาณ 3 ซม. มีขนสีน�้าตาลแดง
                                                                        หนาแน่น
                       ไม้พุ่มหรือไม้ต้น กิ่งอ่อนมีเกล็ดรูปโล่และขนรูปดาว ใบเรียงเวียน ขอบเรียบ
                    ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงและกลีบดอก  พบที่อินเดีย เนปาล ภูฏาน พม่า จีนตอนใต้ ไต้หวัน และภูมิภาคอินโดจีน ใน
                    จ�านวนอย่างละ 5 กลีบ กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันที่โคน กลีบดอกแยกจรดโคน เกสรเพศผู้  ไทยพบทางภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงใต้ ขึ้น
                    จ�านวนมาก แยกกันหรือเชื่อมติดกัน 5 มัด อับเรณูติดที่โคน เกสรเพศผู้ที่เป็นหมัน  ตามคบไม้ในป่าดิบเขา ความสูง 1000-2000 เมตร เป็นหนึ่งในพรรณไม้ที่สมเด็จ
                    มี 5 อัน รังไข่มี 5 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด ก้านเกสรเพศเมียรูปลิ่มแคบ ยอดเกสร  พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานชื่อไทย
                    ขนาดเล็ก ผลแห้งไม่แตก จัก 2 พู                         สกุล Pinalia Lindl. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Epidendroideae เผ่า Podochileae มี
                                                                           ประมาณ 160 ชนิด พบในเอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมี
                       สกุล Brownlowia เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Tiliaceae ปัจจุบันอยู่ภายใต้วงศ์ย่อย
                       Brownlowioideae มีประมาณ 25 ชนิด พบเฉพาะในเอเชีย ในไทยมีประมาณ 4   มากกว่า 25 ชนิด รวมที่ย้ายมาจากสกุล Eria
                       ชนิด ชื่อสกุลตั้งเป็นเกียรติแก่ท่านผู้หญิง Brownlow ชาวอังกฤษ บุตรสาวของ   เอกสารอ้างอิง
                       Sir Abraham Hume ผู้สนับสนุนงานพฤกษศาสตร์ช่วงศตวรรษที่ 19  Chen, X., Y.B. Luo and J.J. Wood. (2009). Orchidaceae (Pinalia). In Flora of
                                                                              China Vol. 25: 357.
                    น้ำานอง                                                Seidenfaden, G. (1982). Orchid Genera in Thailand X. Trichotosia Bl. and Eria
                                                                              Lindl. (Eria amica). Opera Botanica 62: 115-119.
                    Brownlowia tersa (L.) Kosterm.
                      ชื่อพ้อง Glabraria tersa L.
                       ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. แตกกิ่งหนาแน่น มีเกล็ดรูปโล่สีน�้าตาล
                    กระจายตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง ช่อดอก และผล ใบรูปใบหอก ยาว 10-21 ซม.
                    ปลายแหลมหรือแหลมยาว โคนมนหรือกลม เส้นแขนงใบเรียงจรดกันใกล้ขอบใบ
                    ก้านใบยาว 0.5-1 ซม. ใบอ่อนสีน�้าตาลแดง ช่อดอกยาว 3-7 ซม. ก้านดอกยาว
                    2-3 มม. กลีบเลี้ยงรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ปลายแยกเป็น 3-5 แฉก ยาวประมาณ
                    กึ่งหนึ่งของกลีบดอก ด้านนอกมีขนสั้นนุ่ม ดอกสีชมพูอ่อน กลีบรูปขอบขนาน
                    ยาว 4-5 มม. พับงอกลับ เกสรเพศผู้แยกกัน ยาวเท่า ๆ กลีบดอก เกลี้ยง อับเรณู
                    สีเหลือง รังไข่มีขนสั้นนุ่ม เกสรเพศเมียยาวกว่าเกสรเพศผู้เล็กน้อย ผลจัก 2 พู รูปรี   นิมมานรดี: ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกตรงข้ามใบ กลีบเลี้ยงและกลีบดอกสีขาวอมเขียวปนเหลืองอ่อน มีเส้นกลีบ
                    ยาว 1.5-2 ซม.                                       สีน�้าตาลแดง กลีบปากปลายแยก 3 พู สีเหลืองเข้ม โคนกลีบด้านในสีน�้าตาลแดงเข้ม (ภาพ: ภูหลวง เลย - MT)

                                                                                                                    217






        58-02-089_213-292_Ency_new1-3_J-Coated.indd   217                                                                 3/1/16   5:45 PM
   232   233   234   235   236   237   238   239   240   241   242