Page 245 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 245

บัวเผื่อน: ใบเรียงเวียน กลีบเลี้ยงยาวกว่ากลีบดอก ดอกสีขาวหรือม่วง กลีบดอกเรียงซ้อนกันหลายวง ปลายแกน  สารานุกรมพืชในประเทศไทย  บัวหลวง
                    อับเรณูมีรยางค์ (ภาพ: cultivated - MP)
                    บัวสวรรค์
                    Gustavia superba (Kunth) O. Berg
                    วงศ์ Lecythidaceae
                      ชื่อพ้อง Pirigara superba Kunth                     บัวสาย: แผ่นใบลอยบนผิวน�้า ขอบจักแหลม ดอกบานชูพ้นน�้า (ภาพ: cultivated - RP)
                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่นที่ปลายกิ่ง รูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ
                    อาจยาวได้ถึง 1 ม. ขอบจักฟันเลื่อย ก้านใบยาวได้ถึง 11 ซม. ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น  บัวหลวง
                    สั้น ๆ ออกตามซอกใบ ก้านดอกยาวได้ถึง 8 ซม. กลีบเลี้ยงรูปถ้วยแบนขอบเรียบ   Nelumbo nucifera Gaertn.
                    กว้างประมาณ 2.5 ซม. กลีบดอกสีขาวอมม่วงอ่อน มี 6-8 กลีบ รูปใบพาย ยาว  วงศ์ Nelumbonaceae
                    ไม่เท่ากัน ยาวได้ถึง 7 ซม. เกสรเพศผู้จ�านวนมาก โคนเชื่อมติดกันประมาณ
                    หนึ่งในสาม โค้งเข้า ยาวประมาณ 4 ซม. รังไข่ใต้วงกลีบ ก้านเกสรเพศเมียสั้น   ไม้น�้าล้มลุก มีรากสะสมอาหาร เหง้าแยกแขนง (ไหลบัว) ใบแตกตามข้อ
                    ผลแห้งแตกแบบมีฝาปิด (pyxidia) กลม ปลายแบน กว้าง 7-10 ซม. ยาวได้ถึง   ใบแก่อยู่เหนือผิวน�้า กลม เส้นผ่านศูนย์กลาง 25-90 ซม. ขอบเรียบ ผิวใบด้านบน
                    8 ซม. ผิวมีช่องอากาศกระจาย เมล็ดรูปร่างไม่แน่นอน ยาวประมาณ 6 ซม.   มีไขเคลือบ เส้นแขนงใบออกจากโคน 25-30 เส้น ก้านใบกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง
                                                                        1-1.5 ซม. ยาว 1-2 ม. ด้านในมีเส้นใยสีขาว ด้านนอกมีตุ่มกระจายหรือเกลี้ยง
                       มีถิ่นก�าเนิดในแถบประเทศคอสตาริกา โคลัมเบีย และปานามา เป็นไม้ประดับ  ปลายก้านใบติดกับแผ่นใบแบบก้นปิดที่กลางใบ ดอกออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ
                    ทั่วไปในเขตร้อน                                     ดอกตูมรูปไข่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-8 ซม. ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 17-30 ซม.
                                                                        ดอกบานช่วงกลางวัน สีขาวหรือชมพู ก้านดอกยาวกว่าก้านใบ กลีบรวมจ�านวนมาก
                       สกุล Gustavia L. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Lecythidoideae มีประมาณ 40 ชนิด พบ  วงนอกลดรูป รูปรีหรือรูปไข่กลับ ยาว 5-10 ซม. ฐานดอกรูปลูกข่าง เส้นผ่านศูนย์กลาง
                       เฉพาะในทวีปอเมริกา ในไทยพบเป็นไม้ประดับ อีกชนิด คือ G. gracillima Miers   5-10 ซม. สีเขียวอ่อน เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ติดที่โคนฐานดอก อับเรณูสีเหลือง
                       ใบเรียวแคบ กว้างไม่เกิน 3.5 ซม. ชื่อสกุลตั้งตาม Gustav ที่ 3 กษัตริย์ของ  รูปแถบ ยาว 1-2 ซม. แกนอับเรณูปลายมีรยางค์รูปกระบอง ยาวได้ถึง 7 มม. อันที่
                       สวีเดน ที่ปกครองสวีเดนช่วงปี ค.ศ. 1771-1792      เป็นหมันคล้ายกลีบดอก รังไข่จ�านวนมากฝังในฐานดอก มีช่องเดียว ก้านเกสรเพศเมีย

                      เอกสารอ้างอิง                                     สั้น ยอดเกสรเพศเมียเป็นตุ่ม สีเหลือง ผลกลุ่ม ผลย่อยคล้ายผลแบบเปลือกแข็ง
                       Croat, T.B. (1978). Gustavia superba. In Flora of Barro Colorado Island by   แห้งไม่แตก รูปไข่หรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 1-2 ซม.
                          Smithsonian Institution. http://biogeodb.stri.si.edu/bioinformatics/croat/  พบในเอเชียเขตร้อน และออสเตรเลีย ขึ้นตามแหล่งน�้าที่โล่ง ความสูงระดับต�่า ๆ
                          specie/Gustavia superba,e,n
                                                                        มีหลากสายพันธุ์ เรียกชื่อต่างกันไปตามลักษณะและสีของดอก เช่น บุณฑริก ดอกสีขาว
                                                                        กลีบดอกลา พบมากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สัตตบุษย์ ดอกสีขาว กลีบดอกซ้อน
                                                                        ปทุม ดอกสีชมพู ดอกตูมปลายเรียวแหลม กลีบดอกลา พบมากทางภาคกลาง
                                                                        และภาคใต้ สัตตบงกช ดอกสีชมพู ดอกตูมรูปไข่กว้าง ปลายแหลม กลีบดอกลา
                                                                        เป็นต้น ปลูกเป็นไม้ประดับหรือไม้ตัดดอก ฝัก เมล็ด รากบัว และไหลบัว กินได้
                                                                        น�้าคั้นจากใบแก้บิด ท้องเสีย ฆ่าพยาธิ

                                                                           สกุล Nelumbo Adans. เป็นสกุลเดียวของวงศ์ มี 2 ชนิด N. lutea (Willd.) Pers.
                      บัวสวรรค์: ใบเรียงเวียนหนาแน่นที่ปลายกิ่ง รูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ กลีบดอกมี 6-8 กลีบ ยาวไม่เท่ากัน เกสรเพศผู้  พบในอเมริกาเหนือ ชื่อสกุลมาจากภาษาสิงหล “nelumbu” ที่ใช้เรียกบัวหลวง
                    จ�านวนมาก โคนเชื่อมติดกัน โค้งเข้า ผลแห้งแตกแบบมีฝาปิด ผิวมีช่องอากาศ (ภาพ: cultivated - RP)  ในศรีลังกา
                    บัวสาย                                                เอกสารอ้างอิง
                    Nymphaea pubescens Willd.                              สุชาดา ศรีเพ็ญ. 2542. พรรณไม้น้ำาในประเทศไทย. อมรินทร์พริ้นติ้งแอนด์พับลิชชิ่ง.
                                                                              กรุงเทพมหานคร.
                    วงศ์ Nymphaeaceae                                      Fu, D. and J.H. Wiersema. (2001). Nelumbonaceae. In Flora of China Vol. 6: 114.
                      ชื่อพ้อง Nymphaea lotus L. var. pubescens (Willd.) Hook. f. & Thomson, N. rubra
                        Roxb. ex Salisb.
                       ไม้น�้าล้มลุก เหง้ามีก้านใบแห้งหุ้มหนาแน่น ใบรูปรีกว้างหรือกลม ยาว 14-28 ซม.
                    ขอบจักแหลม แผ่นใบด้านล่างมักมีสีม่วงอมแดง มีขนหนาแน่น ด้านบนมีขน
                    ประปราย ก้านใบยาวได้ถึง 1 ม. ดอกบานเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-20 ซม. บานตอน
                    กลางคืน ชูพ้นน�้า กลีบเลี้ยงรูปขอบขนานยาว 3.5-8 ซม. ติดทน เส้นกลีบ 5-7 เส้น
                    ดอกสีขาว ชมพู แดง หรือสีม่วงมีลายสีแดง ส่วนมากมี 12-14 กลีบ รูปขอบขนาน
                    หรือแกมรูปไข่ ยาว 4-9 ซม. ปลายแกนอับเรณูไม่มีรยางค์ ปลายคาร์เพลมีรยางค์
                    รูปเส้นด้าย ผลรูปรีกว้าง ยาว 3.5-5 ซม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ บัวเผื่อน, สกุล)
                       พบที่ปากีสถาน อินเดีย บังกลาเทศ ศรีลังกา จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน
                    และมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ นิวกินี และออสเตรเลีย ก้านหรือสายบัวใช้ปรุงอาหาร
                      เอกสารอ้างอิง
                       Fu, D., J.H. Wiersema and D. Padgett. (2001). Nymphaeaceae. In Flora of   บัวหลวง: หลากสายพันธุ์ ทั้งดอกสีชมพู ขาว หรือดอกซ้อน (ภาพซ้าย ปทุม: บึงบอระเพ็ด นครสวรรค์, ภาพขวาบน
                          China Vol. 6: 117.                            สัตตบงกช: cultivated, ภาพขวาล่าง สัตตบุษย์: cultivated; - MP)

                                                                                                                    225






        58-02-089_213-292_Ency_new1-3_J-Coated.indd   225                                                                 3/1/16   5:47 PM
   240   241   242   243   244   245   246   247   248   249   250