Page 247 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 247

บานบุรีหอม
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                    บานบ่าย, สกุล                                          สกุล Allamanda มีประมาณ 14 ชนิด พบเฉพาะในอเมริกาเขตร้อน ในไทย
                    Operculina Silva Manso                                 พบเป็นไม้ประดับ 3 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวสวิส Frederich
                                                                           Allamand (1736-1803)
                    วงศ์ Convolvulaceae
                       ไม้เถาล้มลุก ใบเรียงเวียน เรียบหรือรูปฝ่ามือ ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตาม  บานบุรีม่วง
                    ซอกใบ ใบประดับคล้ายใบ ร่วงเร็ว กลีบเลี้ยง 5 กลีบ ขยายในผล ดอกรูปแตร   Allamanda blanchetii A. DC.
                    สีขาวหรือเหลือง ปลายแยกเป็นแฉกตื้น ๆ 5 แฉก ปลายแฉกจักดูคล้ายมี 10 กลีบ
                    กลางกลีบเป็นแถบ เกลี้ยงหรือมีขน เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดที่โคนหลอดกลีบ ก้านชูอับเรณู  ไม้พุ่มหรือรอเลื้อย สูงได้ถึง 1.5 ม. มีขนสั้นนุ่มตามกิ่งอ่อน แผ่นใบทั้งสองด้าน
                    บิดเวียน เรณูไม่มีเป็นหนาม จานฐานดอกเป็นวง รังไข่ 2 ช่อง มีออวุล 4 เม็ด   ก้านใบ ช่อดอก ก้านดอก และกลีบเลี้ยง ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 4-12 ซม.
                    ก้านเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ยอดเกสรมี 2 พู กลม ผลแห้งแตกตามขวาง ฝาผนัง  มีขนยาวตามเส้นแขนงใบด้านล่าง ก้านใบสั้นมากหรือไร้ก้าน ช่อดอกส่วนมากออกตาม
                    เชื่อมติดกัน ครึ่งบนบางใสคล้ายฝา ส่วนมากมี 4 เมล็ด   ปลายกิ่ง ก้านดอกหนา ยาว 0.7-1 ซม. กลีบเลี้ยงรูปรี ยาว 1.5-2 ซม. ดอกสีม่วง
                                                                        ยาว 6-9 ซม. หลอดกลีบช่วงล่างยาวประมาณ 1.5 ซม. ช่วงปลายที่บานออกยาว
                       สกุล Operculina มีประมาณ 15 ชนิด พบทั่วไปในเขตร้อน ในไทยมี 3 ชนิด อีก   5-6.5 ซม.
                    2 ชนิด คือ จิงจ้อเหลี่ยม O. turpethum (L.) Silva Manso ดอกสีขาว แถบกลางกลีบเกลี้ยง
                    และจิงจ้อตลับ O. riedeliana (Oliv.) Ooststr. กลีบเลี้ยงกลม ส่วนมากพบทางภาคใต้   มีถิ่นก�าเนิดที่บราซิล เป็นไม้ประดับทั่วไปในเขตร้อน บางครั้งดอกมีสีขาว
                    ชื่อสกุลมาจากภาษาละติน “operculum” ฝา ตามลักษณะของผล  เอกสารอ้างอิง
                                                                           Middleton, D.J. (1999). Apocynaceae. In Flora of Thailand Vol. 7(1): 70-72.
                    บานบ่าย                                                Staples, G.W. and D.R. Herbst. (2005). A tropical garden flora. Bishop Museum
                                                                              Press, Honolulu, Hawai`i.
                    Operculina petaloidea (Choisy) Ooststr.
                      ชื่อพ้อง Ipomoea petaloidea Choisy
                       ไม้เถาล้มลุก ล�าต้นเป็นริ้ว มีขนละเอียดใกล้ข้อ ใบที่โคนรูปไข่ ใบบนกิ่งรูป
                    ขอบขนานถึงรูปแถบ ยาว 5-18 ซม. โคนใบกลมหรือเว้าตื้น ก้านใบมีสันหรือปีก
                    แคบ ๆ ยาว 1.5-2.5 ซม. ก้านช่อดอกยาว 1-2 ซม. มี 1-9 ดอก ใบประดับรูปใบหอก
                    ยาว 0.7-2 ซม. ร่วงเร็ว ก้านดอกหนา ยาว 1-1.8 ซม. กลีบเลี้ยงรูปรี คู่นอกยาว
                    1.3-1.5 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม 3 กลีบในกว้างกว่าเล็กน้อย ดอกสีครีมหรือ
                    เหลืองอ่อน ยาว 3.5-4 ซม. มีแถบขนกลางกลีบด้านนอก ก้านเกสรเพศผู้ยาว   บานบุรีม่วง: ก้านใบสั้นมากหรือไร้ก้าน มีขนสั้นนุ่มทั่วไป ใบเรียงรอบข้อ 3-5 ใบ ดอกสีม่วง (ภาพ: cultivated - RP)
                    1.4-1.8 ซม. มีต่อมที่โคน ก้านเกสรเพศเมียยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้ ผลแห้งแตก
                    เป็นกระเปาะไม่ชัดเจน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 ซม. รูปไข่ สีด�า ยาว 5-6 มม.  บานบุรีหอม
                                                                        Odontadenia macrantha (Roem. & Schult.) Markgr.
                       พบที่อินเดีย พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทางภาคเหนือ
                    และภาคตะวันตกเฉียงใต้ ขึ้นตามชายป่าหรือริมล�าธาร ความสูง 200-1200 เมตร   วงศ์ Apocynaceae
                                                                          ชื่อพ้อง Odontadenia speciosa Benth., Echites macranthus Roem. & Schult.
                      เอกสารอ้างอิง
                       Staples, G. (2010). Convolvulaceae. In Flora of Thailand Vol. 10(3): 451-453.  ไม้เถา ใบเรียงตรงข้าม รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 7-35 ซม. ก้านใบยาว 1-3 ซม.
                                                                        ช่อดอกแบบช่อกระจุกซ้อน ก้านช่อยาว 1.8-11 ซม. ใบประดับรูปสามเหลี่ยม
                                                                        ขนาดเล็ก ดอกจ�านวนมาก ก้านดอกยาว 0.8-2.7 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว 3-7 มม.
                                                                        มีเกล็ดต่อมด้านใน ดอกรูปแตร สีครีมอมเหลือง มีปื้นสีส้มอ่อนแซม กลิ่นหอมแรง
                                                                        ยาว 3-6 ซม. หลอดกลีบดอกช่วงโคนยาว 0.4-1 ซม. ช่วงบนยาว 0.8-1.6 ซม. มี
                                                                        5 กลีบ รูปไข่กลับ เบี้ยว ยาว 2-4.5 ซม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดใกล้โคนหลอดกลีบดอก
                                                                        ไม่ยื่นพ้นปากหลอดกลีบ รังไข่เกลี้ยง ผลเป็นฝักคู่ รูปทรงกระบอก กว้างได้ถึง 6 ซม.
                                                                        ยาว 20-26 ซม. เมล็ดจ�านวนมาก รูปกระสวย ยาว 3-4 ซม. ขนกระจุกจ�านวนมาก
                                                                        ยาว 5.5-7 ซม.

                                                                           มีถิ่นก�าเนิดในอเมริกากลางและอเมริกาใต้แถบประเทศบราซิล ยางขาวมีพิษ
                                                                        ท�าให้ผิวหนังปวดแสบปวดร้อนได้

                                                                           สกุล Odontadenia Benth. มีประมาณ 20 ชนิด พบเฉพาะในอเมริกากลางและ
                                                                           บราซิล ในไทยพบเป็นไม้ประดับชนิดเดียว คล้ายกับสกุล Mandevilla ซึ่งใน
                      บานบ่าย: ช่อดอกแบบช่อกระจุก กลีบเลี้ยงขนาดไม่เท่ากัน ดอกรูปแตร ปลายแยกเป็นแฉกตื้น ๆ ปลายแฉกจักดูคล้าย  ไทยพบเป็นไม้ประดับ 2-3 ชนิด เช่น อมรเบิกฟ้า Mandevilla × amabilis (hort.
                    มี 10 กลีบ แถบด้านนอกมีขนยาว ผลมีกระเปาะไม่ชัดเจน (ภาพดอก: กาญจนบุรี - TP; ภาพดอกตูมและผล: ตาก - RP)  Backhouse) Dress ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “odontos” แหลม และ “aden”
                    บานบุรี, สกุล                                          ต่อม หมายถึงลักษณะยอดเกสรเพศเมีย
                    Allamanda L.                                          เอกสารอ้างอิง
                    วงศ์ Apocynaceae                                       Morales, J.F. (1999). A synopsis of the genus Odontadenia (Apocynaceae). Bulletin
                                                                              du Jardin Botanique National de Belgique 67: 392-395.
                       ไม้พุ่มหรือไม้เถา ใบเรียงเวียนรอบข้อ 3-5 ใบ มีต่อมตามซอกใบ เส้นแขนงใบ
                    เรียงจรดกันเป็นเส้นขอบใน ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง
                    ใบประดับรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนด้านในมีเกล็ดหรือไม่มี
                    กลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนทับด้านซ้ายในตาดอก ดอกบานรูปแตร โคนเรียวแคบ
                    รูปทรงกระบอก เกสรเพศผู้ติดภายในหลอดกลีบช่วงบานออก ก้านชูอับเรณูสั้น
                    อับเรณูแนบติดยอดเกสรเพศเมีย โคนเว้ารูปเงี่ยงลูกศร จานฐานดอกเป็นวงหรือ
                    จักมน รังไข่เชื่อมติดกันเป็นช่องเดียว ก้านเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ยอดเกสรมี
                    รอยต่อ ผลแห้งแตกมีหนาม มีหลายเมล็ด รูปไข่ มีปีกบาง ๆ   บานบุรีหอม: ดอกสีครีมอมเหลือง (ภาพซ้าย: cultivated - RP); อมรเบิกฟ้า: ดอกสีชมพู (ภาพขวา: cultivated - RP)

                                                                                                                    227






        58-02-089_213-292_Ency_new1-3_J-Coated.indd   227                                                                 3/1/16   5:47 PM
   242   243   244   245   246   247   248   249   250   251   252