Page 277 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 277
พบที่หมู่เกาะอันดามันและนิโคบาร์ คาบสมุทรมลายู สุมาตรา และภาคใต้ ปาล์มบังสูรย์ สารานุกรมพืชในประเทศไทย ปาหนันช้าง
ของไทย ขึ้นตามที่โล่ง หรือบนเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 1200 เมตร แยกเป็น Johannesteijsmannia altifrons (Rchb. f. & Zoll.) H. E. Moore
var. parvifolia (Pierre ex Gagnep.) W. J. de Wilde ฐานดอกแคบกว่า ปลาย
แกนอับเรณูสั้นกว่า ก้านชูเกสรเพศเมียในผลสั้นมาก เมล็ดขนาดเล็กกว่า วงศ์ Arecaceae
ชื่อพ้อง Teysmannia altifrons Rchb. f. & Zoll.
เอกสารอ้างอิง ปาล์มล�าต้นสั้น ไม่แตกกอ ใบติดรอบล�าต้น รูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ยาวได้ถึง
de Wilde, W.J.J.O. and B.E.E. Duyfjes. (2010). Passifloraceae. In Flora of
Thailand Vol. 10(2): 238-241. 3.5 ม. พับจีบมีได้กว่า 20 จีบ ในแต่ละข้าง ขอบจักฟันเลื่อยคล้ายหนาม ก้านใบ
ยาวได้ถึง 2.5 ม. มีหนามขนาดเล็ก กาบเป็นหลอด ขอบมีเส้นใย ช่อดอกออกระหว่างใบ
มีหลายช่อ ตั้งขึ้น โค้งลง ยาว 50-100 ซม. กาบรูปหลอด สีครีมเปลี่ยนเป็นสีน�้าตาล
ก้านช่ออวบหนา ยาว 30-50 ซม. แยกแขนง 2-3 ครั้ง แตกแขนงย่อยจ�านวนมาก
ยาว 5-20 ซม. มีขนสั้นหนานุ่ม ดอกออกเป็นกระจุก 2-4 ดอก สีครีม ยาว 4-5 มม.
กลีบเลี้ยงและกลีบดอกจ�านวนอย่างละ 3 กลีบ กลีบดอกเชื่อมติดกันที่โคน เกสรเพศผู้
6 อัน โคนเชื่อมติดกัน ผลกลม สีน�้าตาล เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-5 ซม. ผนังหนาเป็นคอร์ก
ผิวเป็นปุ่มจ�านวนมาก
พบที่คาบสมุทรมลายู สุมาตรา บอร์เนียว และภาคใต้ตอนล่างของไทยที่ยะลา
และนราธิวาส ขึ้นตามสันเขาในป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 800 เมตร
สกุล Johannesteijsmannia H. E. Moore อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Coryphoideae
เผ่า Corypheae มี 4 ชนิด พบที่คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว และสุมาตรา ในไทย
มีชนิดเดียว ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวดัตช์ Johannes Elias Teijsmann
ปากกา: ใบรูปรีหรือรูปแถบ ดอกเพศผู้รูประฆัง ผลแห้งแตก สุกสีแดง กลีบเลี้ยงและก้านชูเกสรเพศเมียติดทน (1809-1882)
(ภาพดอกและภาพผลสุก ใบรูปรี: ชุมพร, ภาพผลอ่อน ใบรูปแถบ: สุราษฎร์ธานี; - RP)
เอกสารอ้างอิง
ปาล์มเจ้าเมืองตรัง Barfod, A.S. and J. Dransfield. (2013). Arecaceae. In Flora of Thailand Vol. 11(3):
Licuala peltata Roxb. ex Buch.-Ham. var. sumawongii Saw 420-422.
วงศ์ Arecaceae
ปาล์มต้นเดี่ยว สูงได้ถึง 6 ม. ใบรูปใบพัด พับจีบ ไม่แยกเป็นส่วน เส้นผ่านศูนย์กลาง
1-1.8 ม. ปลายแฉกตื้น ๆ แผ่นใบเป็นมันวาวทั้งสองด้าน ก้านใบยาวได้ถึง 2.7 ม.
มีหนามตลอดความยาว ปลายหนามสีด�า กาบใบยาว 50-60 ซม. ช่อดอกออก
ระหว่างใบ มี 2-3 ช่อ โค้งลง ยาวได้ถึง 3.5 ม. มีขนสีน�้าตาลแดง ก้านช่อยาว
0.8-1.2 ม. ใบที่ลดรูปคล้ายใบประดับ (prophyll) ยาว 35-40 ซม. ช่อดอกย่อยแบบ
ช่อเชิงลด มี 3-7 ช่อ ห้อยลง ใบประดับเป็นหลอด ยาว 33-36 ซม. แฉกไม่เป็นระเบียบ
ขอบมีเส้นใย ช่อย่อยยาว 35-55 ซม. ช่วงโคนยาวได้ถึง 15 ซม. ดอกจ�านวนมาก
ออกเดี่ยว ๆ ใบประดับย่อยขนาดเล็ก ก้านดอกยาวประมาณ 2 มม. กลีบเลี้ยง
ปาล์มบังสูรย์: ล�าต้นเดี่ยวขึ้นเป็นกลุ่มใหญ่ตามสันเขา ใบรูปสี่เหลี่ยมข้าวหลามตัด ติดรอบล�าต้น ช่อผลที่โคนต้น
รูประฆัง ยาว 6-7 มม. ปลายจักตื้น ๆ 3 แฉก กลีบดอก 3 กลีบ ยาว 1-1.2 ซม. ผลกลม สีน�้าตาล ผนังหนาเป็นคอร์ก ผิวมีปุ่มจ�านวนมาก (ภาพ: เขาฉลองชัย ยะลา - RP)
มีขนหนาแน่น เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดที่โคนกลีบดอก ยาว 8-9 มม. รังไข่เกลี้ยง
ก้านเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ยาว 7-8 มม. ผลรูปรี ยาว 1.2-2 ซม. สุกสีแดงอมส้ม ปาหนัน, สกุล
พืชถิ่นเดียวของไทย พบเฉพาะทางภาคใต้ที่ตรัง พบน้อยมากในป่าธรรมชาติ Goniothalamus (Blume) Hook. f. & Thomson
ลักษณะคล้ายกับ var. peltata แต่ใบไม่แยกเป็นส่วน ดอกขนาดเล็กกว่า เคยรู้จัก วงศ์ Annonaceae
ในชื่อ L. elegans Blume ซึ่งเป็นชื่อพ้องของ L. pumila Blume ที่พบในชวา
และสุมาตรา ค�าระบุ var. ตั้งตามนายวัฒนา สุมาวงศ์ ผู้น�าไปปลูกไว้ที่สวนส่วนตัว ไม้พุ่มหรือไม้ต้น ใบเรียงเวียนหรือเรียงสลับระนาบเดียว ช่อดอกแบบช่อกระจุก
และเก็บตัวอย่างให้กับสวนพฤกษศาสตร์คิว มีดอกเดียวหรือหลายดอกตามซอกใบ กิ่ง หรือล�าต้น ใบประดับขนาดเล็ก กลีบเลี้ยง
3 กลีบ กลีบดอก 6 กลีบ เรียง 2 วง เรียงจรดกัน วงนอกหนา วงในขนาดเล็ก
สกุล Licuala Wurmb อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Coryphoideae เผ่า Corypheae มี มีก้านสั้น ๆ ปลายมักติดกันรูปกรวย เกสรเพศผู้จ�านวนมาก อับเรณูรูปขอบขนาน
ประมาณ 135 ชนิด พบในเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมี 13 ชนิด ชื่อสกุล หรือรูปแถบ หันออก ปลายมีรยางค์ มีหลายคาร์เพล แยกกัน แต่ละคาร์เพลมีออวุล
มาจากภาษาพื้นเมืองหมู่เกาะโมลุกกะ ของมาเลเซีย “leko wala” 1-10 เม็ด ยอดเกสรเพศเมียเรียบหรือจัก 2 พู ผลกลุ่ม ผลย่อยรูปรีหรือรูปขอบขนาน
ไร้ก้านหรือมีก้านสั้น ๆ
เอกสารอ้างอิง
Barfod, A.S. and J. Dransfield. (2013). Arecaceae. In Flora of Thailand Vol. สกุล Goniothalamus เดิมอยู่ภายใต้สกุล Polyalthia sect. Goniothalamus
11(3): 437-439. Blume มี 130-140 ชนิด พบเฉพาะในเอเชียเขตร้อน ในไทยมีประมาณ 25 ชนิด
และส่วนใหญ่พบทางภาคใต้ ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “gonia” เหลี่ยมหรือมุม
และ “thalamos” โคนดอก หมายถึงโคนดอกหรือฐานดอกมักเป็นเหลี่ยม
ปาหนันช้าง
Goniothalamus giganteus Hook. f. & Thomson
ไม้ต้น สูง 10-20 ม. ใบเรียงเวียน รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 15-25 ซม.
แผ่นใบด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างเขียวนวล ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม.
ดอกออกเดี่ยว ๆ ตามกิ่งที่ซอกใบที่ร่วง ก้านดอกยาว 2.5-4.5 ซม. กลีบเลี้ยง
รูปไข่แกมสามเหลี่ยมยาวได้ถึง 1 ซม. ด้านนอกมีขน กลีบดอกหนาสีเขียวอมเหลือง
ปาล์มเจ้าเมืองตรัง: ใบรูปใบพัด พับจีบ ไม่แยกเป็นส่วน ๆ ปลายแฉกตื้น ๆ ช่อดอกย่อยแบบช่อเชิงลด ห้อยลง
(ภาพ: cultivated - PK) วงนอกรูปไข่หรือแกมขอบขนาน ยาว 8-15 ซม. วงในรูปสามเหลี่ยมยาว 1.5-2 ซม.
257
58-02-089_213-292_Ency_new1-3_J-Coated.indd 257 3/1/16 5:49 PM