Page 323 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 323

พิศชมพู
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                                                                        ยื่นพ้นปากหลอดกลีบ ผลแห้งแตกตำมรอยประสำนจำกด้ำนบน รูปไข่กลับ ยำว
                                                                        1-1.5 ซม. เมล็ดจ�ำนวนมำก ยำวประมำณ 2 มม. รวมปีกแบนที่ปลำยทั้งสองข้ำง
                                                                           พบที่เนปำล อินเดีย จีนตอนใต้ เวียดนำมตอนบน และภำคเหนือของไทยที่
                                                                        ดอยเชียงดำว จังหวัดเชียงใหม่ และดอยภูคำ จังหวัดน่ำน ขึ้นตำมที่โล่งบนเขำ
                                                                        หินปูน ควำมสูง 1700-2200 เมตร

                                                                           สกุล Luculia Sweet อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Cinchonoideae มี 5 ชนิด พบที่ภูฏาน
                                                                           อินเดีย เนปาล จีน พม่า เวียดนาม และภาคเหนือของไทย ในไทยมีชนิดเดียว
                                                                           ชื่อสกุลมาจากภาษาเนปาล “Luculi swa” ที่ใช้เรียกพืชชนิดนี้
                      พันรู: ล�ำต้นกลวงหรือแยกออกจำกกันหลำยส่วน ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่น ออกเดี่ยว ๆ ตำมซอกใบ ก้ำนเกสร
                    เพศเมียยื่นพ้นปำกกลีบดอก (ภำพ: นรำธิวำส - MP)         เอกสารอ้างอิง
                    พิกุลป่า                                               Chen, T. and C.M. Taylor. (2011). Rubiaceae (Luculia). In Flora of China Vol.
                                                                              19: 214.
                    Adinandra integerrima T. Anderson ex Dyer
                    วงศ์ Pentaphylacaceae
                       ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูง 5-15 ม. มีขนยาวคล้ายไหมตามกิ่งอ่อน ตา แผ่นใบด้านล่าง
                    ก้านดอก ใบประดับ กลีบเลี้ยงด้านนอก อับเรณู ผล รังไข่ และก้านเกสรเพศเมีย
                    ใบเรียงสลับระนำบเดียว รูปรีหรือรูปขอบขนำน ยำว 5-15 ซม. บำงครั้งเกลี้ยง
                    ขอบเรียบหรือจักฟันเลื่อย ก้ำนใบยำวได้ถึง 1 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่
                    ตามซอกใบ ก้านดอกยาว 2-5 ซม. ใบประดับคล้ายใบ 2 อันติดใต้กลีบเลี้ยง
                    รูปไข่ ยำวประมำณกึ่งหนึ่งของกลีบเลี้ยง กลีบเลี้ยงและกลีบดอกอย่างละ 5 กลีบ
                    เรียงซ้อนเหลื่อม กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยำว 0.7-1 ซม. ติดทน ดอกสีขำวอมชมพู เชื่อม
                    ติดกันที่โคน กลีบรูปใบหอก ยำว 1-1.5 ซม. เกสรเพศผู้จ�ำนวนมำก ติดที่โคนกลีบดอก
                    ก้ำนชูอับเรณูยำวประมำณ 2 มม. อับเรณูติดที่ฐำน ยำว 3-4 มม. มีรยางค์เป็น
                    ติ่งแหลม ก้ำนเกสรเพศเมียยำว 3-5 มม. ติดทน ผลสดมีหลำยเมล็ด รูปรีกว้ำง
                    ยำวได้ถึง 2 ซม. สุกสีด�ำ เมล็ดแบน รูปคล้ำยไต
                       พบที่ พม่ำ จีนตอนใต้ ภูมิภำคอินโดจีน และคำบสมุทรมลำยู ขึ้นตำมป่ำโปร่ง   พิมพ์ใจ: ช่อดอกแบบช่อกระจุกเรียงแบบช่อเชิงหลั่น ดอกสีชมพูหรือขำว ยอดเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก รูปคล้ำยกระบอง
                    ป่ำดิบชื้น และป่ำดิบเขำ ควำมสูงถึงประมำณ 1500 เมตร  ผลแห้งแตกตำมรอยประสำน (ภำพ: ดอยเชียงดำว เชียงใหม่; ภำพดอกสีชมพู - RP, ภำพดอกสีขำวและผล - SSi)

                       สกุล Adinandra Jack เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Theaceae ปัจจุบันอยู่ภายใต้วงศ์ย่อย   พิศชมพู
                       Freziereae มีประมาณ 80 ชนิด พบในแอฟริกาและเอเชียเขตร้อน ในไทยมี 4 ชนิด   Aeschynanthus gracilis Parish ex C. B. Clarke
                       ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “adinos” หนาแน่น และ “andros” เกสรเพศผู้ หมายถึง  วงศ์ Gesneriaceae
                       พืชที่มีเกสรเพศผู้หนาแน่น
                                                                           ไม้พุ่มอิงอำศัย ห้อยลง ยำวได้ถึง 30 ซม. ส่วนต่าง ๆ มีขนยาวหนาแน่น ใบเรียง
                      เอกสารอ้างอิง                                     ตรงข้ำมหรือเรียงรอบข้อ 3 ใบ รูปรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนำน ยำวได้ถึง 3.5 ซม.
                       Keng, H. (1972). Theaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(2): 151.  ปลำยแหลมหรือเป็นติ่งแหลม โคนรูปลิ่ม มน หรือกลม ก้ำนใบสั้น ช่อดอกมีดอกเดียว
                       Min, T. and B. Bartholomew. (2007). Theaceae. In Flora of China Vol. 12: 438.  ก้ำนดอกยำวประมำณ 1 ซม. กลีบเลี้ยงแยกจรดโคน รูปใบหอก ยำว 3-5.5 มม.
                                                                        ดอกสีชมพู หลอดกลีบดอกยำว 2-3 ซม. กลีบบนยำว 3-5 มม. กลีบล่างพับงอกลับ
                                                                        กลีบข้ำงรูปสำมเหลี่ยมกว้ำง ยำว 2-4 มม. กลีบกลำงรูปขอบขนำน ยำว 0.5-1 ซม.
                                                                        เกสรเพศผู้ติดเหนือโคนกลีบ คู่หลังยำวประมำณ 2 ซม. คู่หน้ำยำวประมำณ 1.5 ซม.
                                                                        ผลยำว 9-15 ซม. เมล็ดยำวประมำณ 1 มม. ขนยาวประมาณ 2 ซม. (ดูข้อมูล
                                                                        เพิ่มเติมที่ ไก่แดง, สกุล)
                                                                           พบที่อินเดีย เนปำล ภูฏำน บังกลำเทศ จีนตอนใต้ พม่ำ และเวียดนำมตอนบน
                                                                        ในไทยพบทำงภำคตะวันตกเฉียงใต้ที่กำญจนบุรี ขึ้นตำมป่ำเบญจพรรณ และ
                                                                        ป่ำดิบแล้ง ควำมสูงถึงประมำณ 200 เมตร

                      พิกุลป่า: ส่วนต่ำง ๆ มีขนยำวคล้ำยไหม ดอกออกเดี่ยว ๆ ตำมซอกใบ ก้ำนดอกยำว ใบประดับติดใต้กลีบเลี้ยง   เอกสารอ้างอิง
                    กลีบเลี้ยงและเกสรเพศเมียติดทน (ภำพดอก: กำญจนบุรี - SSi; ภำพผล: ภูกระดึง เลย - PK)  Middleton, D.J. (2007). A revision of Aschynanthus (Gesneriaceae) in Thailand.
                                                                              Edinburgh Journal of Botany 64: 388-389.
                    พิมพ์ใจ                                                Wang, W., K.Y. Pan, Z.Y. Li, A.L. Weitzman and L.E. Skog. (1998). Gesneriaceae.
                    Luculia gratissima (Wall.) Sweet                          In Flora of China Vol. 18: 382.
                    วงศ์ Rubiaceae
                      ชื่อพ้อง Cinchona gratissima Wall.
                       ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. กิ่งมีช่องอำกำศ หูใบร่วมปลายเป็นติ่งแหลม
                    ร่วงเร็ว ใบเรียงตรงข้ำม รูปรีถึงรูปใบหอก ยำว 4-12.5 ซม. แผ่นใบด้ำนล่ำงมีขน
                    ตำมเส้นใบ ก้ำนใบยำวได้ถึง 1.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกเรียงแบบช่อเชิงหลั่น
                    ออกตามปลายกิ่ง ดอกมีกลิ่นหอม กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอก ยำว 0.8-1.5 ซม.
                    ดอกรูปดอกเข็ม สีชมพูหรือขำว หลอดกลีบสีแดงอมม่วง ยาว 2.5-4 ซม. ปลำยแยก
                    5 กลีบ รูปรีกว้ำงเกือบกลม ยำว 0.8-1.3 ซม. เรียงซ้อนเหลื่อม เกสรเพศผู้ติด
                    เหนือกึ่งกลางหลอดกลีบ อับเรณูยำวประมำณ 3 มม. ยื่นพ้นปำกหลอดกลีบดอก  พิศชมพู: ไม้อิงอำศัย ห้อยลง ส่วนต่ำง ๆ มีขนยำวหนำแน่น ช่อดอกมีดอกเดียว กลีบเลี้ยงแยกจรดโคน ดอกสีชมพู
                    ในต้นที่มีก้ำนเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก รูปคล้ายกระบอง  กลีบล่ำงพับงอกลับ เกสรเพศผู้ยื่นเลยพ้นปำกหลอดกลีบ (ภำพ: ทุ่งใหญ่นเรศวร กำญจนบุรี - PK)

                                                                                                                    303






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   303                                                                 3/1/16   6:05 PM
   318   319   320   321   322   323   324   325   326   327   328