Page 328 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 328
พุดป่า
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
พบที่เวียดนำม ลำว กัมพูชำ และคำบสมุทรมลำยู ในไทยพบทุกภำค ขึ้นตำม
ชำยป่ำดิบชื้น ป่ำดิบแล้ง ป่ำเบญจพรรณ ป่ำเต็งรัง ป่ำโกงกำง หรือที่โล่งใกล้แหล่งน�้ำ
ควำมสูงถึงประมำณ 300 เมตร หรือพบเป็นไม้ประดับ เปลือกและรำกมีสรรพคุณ
รักษำโรคบิดและท้องร่วง
เอกสารอ้างอิง
Middleton, D.J. (1999). Apocynaceae. In Flora of Thailand 7(1): 72-75.
พุดป่า: ช่อดอกแบบช่อกระจุก มักแยกแขนง ปำกหลอดกลีบดอกมีสีเหลือง กลำงผลเป็นสันหนำมีจะงอย
(ภำพ: กระบี่; ภำพซ้ำยบน - RP, ภำพซ้ำยล่ำงและภำพขวำ - PK)
พุดทุ่ง: ถิ่นที่อยู่ตำมที่โล่งใกล้แหล่งน�้ำ ใบเรียงตรงข้ำม ช่อดอกออกที่ปลำยกิ่ง ผลแตกแนวเดียวออกเป็นคู่ ตั้งขึ้น
(ภำพถิ่นที่อยู่: บุรีรัมย์ - RP; ภำพดอกและผล: มุกดำหำร - PK)
พุดป่า
Kopsia pauciflora Hook. f.
วงศ์ Apocynaceae
ไม้พุ่มสูงหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. ใบรูปรี รูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำว
5-25 ซม. ปลายแหลมหรือยาวคล้ายหาง โคนกลมหรือรูปลิ่ม แผ่นใบบำงครั้งมี
ขนละเอียดด้ำนล่ำง ก้ำนใบยำวได้ถึง 1 ซม. ช่อดอกยำว 3.5-14 ซม. ส่วนมาก พุดปากเป็ด: ใบรูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ปลำยแหลมยำว ช่อดอกแบบช่อกระจุก ดอกเรียงแน่น ผลออกเป็นคู่
แยกแขนง เกลี้ยงหรือมีขนละเอียด ก้ำนดอกยำว 1-3 มม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ปลายกลม โค้ง ปลำยมีจะงอย (ภำพ: ภูวัว บึงกำฬ; ภำพต้น - MP, ภำพดอกและผล - RP)
ยำวประมำณ 3 มม. ขอบมีขนอุย ดอกสีขำวหรืออมชมพู มีสีเหลืองครีมที่ปาก พุดฝรั่ง, สกุล
หลอดกลีบดอก หลอดกลีบยำว 2.5-4.5 ซม. มีขนบริเวณรอบเกสรเพศผู้ กลีบรูปรี
ถึงรูปใบหอก ยำว 1.1-3.3 ซม. เกสรเพศผู้ติดเหนือกึ่งกลำงดอก อับเรณูยำว 2-3 มม. Tabernaemontana L.
จำนฐำนดอกยำว 1-2 มม. รังไข่มีขนหรือเกลี้ยง ก้ำนเกสรเพศเมียยำว 3-4 มม. วงศ์ Apocynaceae
รวมยอดเกสรเพศเมีย ผลรูปขอบขนำน ยำว 1.4-1.7 ซม. กลางผลเป็นสันหนา ไม้พุ่มหรือไม้ต้น ใบเรียงตรงข้าม บำงครั้งขนำดไม่เท่ำกัน มีแผ่นคล้ายหูใบ
มีจะงอย ยำว 3-5 มม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ พุดชมพู, สกุล) ตามซอกใบ ช่อดอกแบบช่อกระจุก บำงครั้งมีดอกเดียว กลีบเลี้ยง 5 กลีบ โคนด้านใน
พบที่คำบสมุทรมลำยู บอร์เนียว สุมำตรำ ชวำ และภำคใต้ของไทย ขึ้นตำม มีแผ่นเกล็ด กลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนทับด้านซ้ายในตาดอก ดอกบำนรูปดอกเข็ม
ป่ำดิบชื้น ควำมสูงระดับต�่ำ ๆ เป็นไม้ประดับ แยกเป็น var. mitrephora (Sleesen) เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดภำยในหลอดกลีบ ก้ำนชูอับเรณูสั้น โคนอับเรณูเว้ารูปหัวใจ
D. J. Middleton หลอดกลีบดอกสั้นกว่ำ พบเฉพำะที่บอร์เนียว ไม่แนบติดเกสรเพศเมีย ไม่มีจานฐานดอก คำร์เพล 2 อัน แยกกัน ปลำยเชื่อมติดกัน
เป็นก้ำนเกสรเพศเมีย ผลแตกแนวเดียวออกเป็นคู่ เมล็ดมีเยื่อหุ้ม
พุดปากเป็ด สกุล Tabernaemontana มีประมาณ 100 ชนิด พบในเขตร้อน ในไทยมี 9 ชนิด
Kopsia angustipetala Kerr หลายชนิดนิยมปลูกเป็นไม้ประดับ และมีหลายชนิดที่นำาเข้ามาปลูกเป็นประดับ
ไม้พุ่ม สูง 2-5 ม. ใบรูปขอบขนำนหรือรูปใบหอก ยำว 3-15 ซม. ปลายแหลมยาว มีหลากพันธุ์ เช่น พุดเศรษฐี T. pachysiphon Stapf มีถิ่นกำาเนิดในแอฟริกา
หรือเป็นติ่งแหลม เส้นแขนงใบจ�านวนมาก ก้ำนใบยำว 1-7 มม. ช่อดอกยำว พุดดาราราย T. cerifera Pancher & Sebert มีถิ่นกำาเนิดในหมู่เกาะนิวแคลิโดเนีย
2.5-12 ซม. ดอกเรียงแน่น ก้ำนดอกยำว 1-2 มม. กลีบเลี้ยงรูปขอบขนานหรือ ทางตอนใต้ของแปซิฟิก และพุดนวลจันทร์ Tabernaemontana ‘White Moon’
รูปใบหอก ปลายแหลม ยำว 3-5 มม. ด้ำนนอกมีขนสั้นนุ่ม ดอกสีขำว ปากหลอด ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์และสมุนไพรชาวเยอรมัน Jacobus Theodorus
กลีบดอกมีขน หลอดกลีบยำว 1.3-2.5 ซม. กลีบรูปใบหอก ยาว 0.7-1.5 ซม. (1525-1590) ซึ่งถูกเรียกขานว่า Tabernaemontanus เนื่องจากเกิดบนภูเขา
เกสรเพศผู้ติดประมำณกึ่งกลำงหลอด อับเรณูรูปไข่ ยำว 1-2 มม. จำนฐำนดอก
ยำวประมำณ 1 มม. รังไข่มีขนช่วงปลำย ก้ำนเกสรเพศเมียยำว 1-1.3 ซม. รวมยอดเกสร พุดฝรั่ง
ผลออกเป็นคู่ มีขนละเอียด โค้งคล้ำยรูปเคียว ยำว 1.2-2 ซม. ปลายมีจะงอย (ดูข้อมูล Tabernaemontana pandacaqui Lam.
เพิ่มเติมที่ พุดชมพู, สกุล) ไม้พุ่มหรือไม้ต้น อำจสูงได้ถึง 10 ม. กิ่งมีช่องอำกำศและขนสั้นนุ่มประปรำย
พบที่ลำว และภำคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของไทยที่ภูวัว จังหวัดบึงกำฬ ใบรูปรีหรือรูปไข่ ยำว 3-14 ซม. ปลำยเแหลมยำวหรือยำวคล้ำยหำง ก้ำนใบยำว
และน�้ำตกตำดขำม จังหวัดนครพนม ขึ้นกระจำยห่ำงๆ ริมล�ำธำรในป่ำดิบแล้ง 0.3-2 ซม. ช่อดอกยำว 4-10 ซม. ดอกมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ หรือไม่มีกลิ่นหอม ตาดอก
ควำมสูง 100-300 เมตร ปลายมนหรือกลม กลีบเลี้ยงรูปไข่ ปลายมนหรือแหลม ยำว 1.5-3 มม. ขอบมี
ขนอุยหรือไม่มี หลอดกลีบดอกยำว 1-2.3 ซม. มักบิดเวียน ด้ำนในเกลี้ยง กลีบยำว
เอกสารอ้างอิง 1-1.7 ซม. เกสรเพศผู้ติดเหนือกึ่งกลางหลอดกลีบดอก อับเรณูยำวได้ถึง 3 มม.
Middleton, D.J. (1999). Apocynaceae. In Flora of Thailand Vol. 7(1): 60-64.
________. (2004). A revision of Kopsia (Apocynaceae: Rauvolfioideae). Harvard ก้ำนเกสรเพศเมียยำว 1-1.6 มม. รวมยอดเกสร ผลรูปรี เบี้ยว มีสันตามยาว ยำว
Papers in Botany 9(1): 89-142. 2-7 ซม. เมล็ดจ�ำนวนมำก รูปรี ยำว 0.5-1 ซม.
308
59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd 308 3/1/16 6:07 PM