Page 336 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 336
โพสามหาง
เอกสารอ้างอิง สารานุกรมพืชในประเทศไทย โพอาศัย
ลาลูแบร์, ซิมอน เดอ. (2548). จดหมายเหตุ ลาลูแบร์ ราชอาณาจักรสยาม แปลโดย
สันต์ ท. โกมลบุตร. สำานักพิมพ์ศรีปัญญา. นนทบุรี. Neohymenopogon parasiticus (Wall.) Bennet
ส. พลายน้อย. (2531). พฤกษนิยาย. สำานักพิมพ์บำารุงสาส์น. กรุงเทพฯ. วงศ์ Rubiaceae
สังข์ พัธโนทัย. (2515). ปทานุกรม พรรณไม้ในตำานานเมือง ศูนย์การพิมพ์ พระนคร.
Berg, C.C., N. Pattharahirantricin and B. Chantarasuwan. (2011). Moraceae. In ชื่อพ้อง Hymenopogon parasiticus Wall.
Flora of Thailand Vol. 10(4): 637. ไม้พุ่ม ส่วนมากอิงอาศัย สูงได้ถึง 2 ม. ทิ้งใบช่วงติดผล หูใบรูปสำมเหลี่ยม
ยำว 0.5-1 ซม. ร่วงพร้อมใบ ใบเรียงตรงข้ำม รูปไข่หรือไข่กลับแกมรูปขอบขนำน
ยำว 8-21 ซม. โคนเรียวแคบจรดก้ำนใบ แผ่นใบมีขนละเอียด เส้นแขนงใบข้ำงละ
15-28 เส้น ก้ำนใบยำว 0.5-2 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนงคล้ายช่อเชิงหลั่น
ออกตำมปลำยกิ่ง ช่อกระจุกมี 2-5 ดอก ใบประดับขนาดใหญ่รูปไข่แกมรูปใบหอก
สีขาวครีม ยำว 6-7.5 ซม. ขยำยยำวได้ถึง 9 ซม. ในผล ก้ำนยำว 1.5-4.5 ซม.
ใบประดับย่อยเล็กกว่ำ ก้ำนดอกยำว 0.8-2 ซม. ดอกรูปดอกเข็ม มีขนยาว กลีบเลี้ยง
5 กลีบ รูปแถบ ยำว 0.8-1.5 ซม. ติดทน หลอดกลีบดอกยำว 3-5.5 ซม. ปลำย
แยกเป็น 5 กลีบ รูปไข่กว้ำง ยำว 0.5-1 ซม. รังไข่มีขน พลาเซนตารูปจานแบบ
ก้นปิด ยอดเกสรเพศเมียแยก 2 แฉก ผลแห้งแตก รูปโคนหัวกลับ ยำว 1.5-2 ซม.
โพศรีมหาโพธิ: ไทรกึ่งอิงอำศัย ปลำยใบยำวคล้ำยหำง โคนตัดหรือรูปหัวใจ (ภำพซ้ำย: สวนลุมพินีวัน เนปำล, ด้านบนมีฝาเปิด 2 ฝา เมล็ดจ�ำนวนมำก รูปแถบ ยำว 5-7 มม. รวมปีก
ภำพขวำ: กรุงเทพฯ; - RP)
พบที่อินเดีย ภูฏำน เนปำล พม่ำ จีนตอนใต้ และเวียดนำมตอนบน ในไทย
โพสามหาง พบทำงภำคเหนือและภำคตะวันออกเฉียงเหนือ ขึ้นตำมคบไม้ที่มีมอสหนำแน่น
Exbucklandia populnea (R. Br. ex Griff.) R. W. Br. หรือที่โล่งตำมซอกหินปูนหรือหินทรำย ควำมสูง 1200-2500 เมตร
วงศ์ Hamamelidaceae สกุล Neohymenopogon Bennet อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Rubioideae เผ่า
ชื่อพ้อง Bucklandia populnea R. Br. ex Griff., Symingtonia populnea (R. Br. Argostemmateae มี 3 ชนิด พบแถบหิมาลัยตะวันออก จีนตอนใต้ พม่า และ
ex Griff.) Steenis เวียดนามตอนบน ในไทยมีเพียงชนิดเดียว ชื่อสกุลเดิมชื่อ Hymenopogon แต่
ไม้ต้นสูง 15-30 ม. หูใบรูปไข่กลับ ยำว 1.5-2.5 ซม. ร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน รูปไข่ พบว่าซ้ำากับชื่อสกุลของมอส
หรือรูปฝ่ามือ 3-5 แฉก ยำว 5-16 ซม. ปลำยแหลมยำว โคนกลมหรือเว้าตื้น เอกสารอ้างอิง
แผ่นใบหนำ เป็นมันวำว เส้นโคนใบข้ำงละ 1-2 เส้น ก้ำนใบยำว 2-6 ซม. ช่อดอก Chen, T. and C.M. Taylor. (2011). Rubiaceae (Neohymenopogon). In Flora of
แบบช่อกระจุกแน่น เส้นผ่ำนศูนย์กลำงประมำณ 1.5 ซม. ไม่มีกลีบเลี้ยง กลีบดอกมี China Vol. 19: 253-254
2-7 กลีบ รูปแถบ ยำว 2-3 มม. เกสรเพศผู้ 10-14 อัน รังไข่กึ่งใต้วงกลีบ มีขน
ก้ำนเกสรเพศเมีย 2 อัน ผลแห้งแตกติดกันเป็นช่อกระจุกแน่น แข็ง เส้นผ่านศูนย์กลาง
2-2.5 ซม. มี 7-11 ผล ก้ำนช่อยำว 1.5-2.5 ซม. เมล็ดรูปรี มีปีก เมล็ดที่ฝ่อไม่มีปีก
พบที่อินเดีย เนปำล ภูฏำน จีนตอนใต้ พม่ำ เวียดนำม คำบสมุทรมลำยู และ
บอร์เนียว ในไทยพบทำงภำคเหนือที่ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ และภำคใต้
ที่บันนังสตำ จังหวัดยะลำ เป็นไม้เบิกน�ำ ขึ้นตำมสันเขำที่โล่ง หรือชำยป่ำดิบเขำ
ควำมสูง 1400-2200 เมตร
สกุล Exbucklandia R. W. Br. มี 3-4 ชนิด ในไทยมีชนิดเดียว เดิมชื่อสกุล
Bucklandia แต่พบว่าซ้ำากับชื่อฟอสซิลของปรง ส่วนชื่อสกุล Symingtonia ที่มีี
การตั้งชื่อในปี ค.ศ. 1952 ซึ่งเป็นชื่อที่ตั้งหลังชื่อ Exbucklandia ที่ตั้งในปี ค.ศ.
1946 จึงกลายเป็นชื่อพ้อง ชื่อสกุลตั้งตามนักธรณีวิทยาและนักบรรพชีวินวิทยา
ชาวอังกฤษ William Buckland (1784-1856)
เอกสารอ้างอิง
Phengklai, C. (2001). Hamamelidaceae (Symingtonia populnea). In Flora of โพอาศัย: ไม้พุ่มอิงอำศัย ช่อแยกแขนงคล้ำยช่อเชิงหลั่น ใบประดับขยำยในผล ดอกรูปดอกเข็มมีขนยำว (ภำพบนและ
Thailand Vol. 7(3): 408-410. ภำพล่ำงซ้ำย: ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่, ภำพบน - RP, ภำพล่ำงซ้ำย - SSi; ภำพล่ำงขวำ: ดอยเชียงดำว เชียงใหม่ - PR)
Zhang, Z.Y., H. Zhang and P.K. Endress. (2003). Hamamelidaceae. In Flora of
China Vol. 9: 23-24. ฟองสมุทร
Duranta erecta L.
วงศ์ Verbenaceae
ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 5 ม. กิ่งมีช่องอำกำศ มักมีหนามตามซอกใบ ใบเรียงตรงข้าม
สลับตั้งฉาก รูปไข่หรือแกมรูปขอบขนำน ยำว 2-7 ซม. ปลำยแหลม โคนเรียวสอบ
ขอบจักฟันเลื่อยช่วงปลายใบ ก้ำนใบสั้น ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกตำมซอกใบ
หรือปลำยกิ่ง ห้อยลง ยำวได้ถึง 15 ซม. ใบประดับขนำดเล็ก กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกัน
เป็นหลอด คล้ายรูปปากเปิด ยำว 4-5 มม. กลีบบน 3 กลีบ ยำวกว่ำกลีบคู่ล่ำง
เล็กน้อย ติดทน ดอกรูปดอกเข็ม สีม่วงหรือขำว หลอดกลีบดอกยำวประมำณ 6 มม.
แยกเป็น 5 กลีบ รูปรีกว้ำง ยำวประมำณ 6 มม. เกสรเพศผู้ 4 อัน ติดเหนือ
กึ่งกลางหลอดกลีบ ไม่ยื่นพ้นปากหลอด มี 4 คำร์เพล แต่ละคำร์เพลมี 2 ช่อง
แต่ละช่องมีออวุลเม็ดเดียว ก้ำนเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเป็นตุ่ม ผลผนังชั้นในแข็ง
เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 0.5-1.5 ซม. มีกลีบเลี้ยงหุ้ม สดหนา สุกสีเหลือง
มีถิ่นก�ำเนิดในเม็กซิโกถึงอำร์เจนตินำ เป็นไม้ประดับทั่วไป ส่วนต่ำง ๆ มีพิษ
โพสามหาง: ใบรูปฝ่ำมือ ปลำยแหลมยำว โคนกลมหรือเว้ำตื้น หูใบรูปไข่กลับ ผลแห้งแตกติดกันเป็นช่อกระจุกแน่น ต่อสัตว์เลี้ยงและมนุษย์ ผลใช้ท�ำยำฆ่ำแมลง แต่มีสรรพคุณรักษำโรคผิวหนัง
(ภำพ: ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ - RP)
316
59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd 316 3/1/16 6:10 PM