Page 338 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 338

ฟ้าขาวใบสั้น
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                ยาว 0.8-1.2 ซม. กลีบยำว 2-4 มม. เกสรเพศผู้ยื่นพ้นปำกหลอดกลีบในดอกที่  ปลายแยกเป็นแฉกตื้น ๆ 5 แฉก สีน�้าตาลแดง ดอกรูปดอกเข็ม สีน�้าเงินอมม่วง
                ก้ำนเกสรเพศเมียสั้น ยอดเกสรเพศเมียแยก 3 แฉก ยื่นพ้นปำกหลอดกลีบใน  หลอดกลีบดอกยำวเท่ำ ๆ กลีบดอก กลีบดอกรูปไข่กลับ ยำว 1-1.5 ซม. ปลายแฉกลึก
                ดอกที่ก้ำนเกสรเพศเมียยำว ผลยำว 5-7 มม. มี 3 เมล็ด ยำวประมำณ 3 มม.   เกสรเพศผู้ 5 อัน ยื่นพ้นปำกหลอดกลีบดอกเล็กน้อย รังไข่มีช่องเดียว มี 5 สัน
                   พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคเหนือที่ดอยเชียงดำว จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นบน  ปลายก้านเกสรเพศเมียแยก 5 แฉก เรียวยาว ยอดเกสรอยู่ด้านในแฉก มีต่อม
                เขำหินปูนที่เปิดโล่ง ควำมสูง 1500-2100 เมตร          ผลแห้งแตกมีกลีบเลี้ยงหุ้ม มีเมล็ดเดียว
                                                                       พืชถิ่นเดียวของไทย พบทำงภำคเหนือที่ดอยเชียงดำว จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นตำม
                ฟ้าขาวใบสั้น                                         หินปูนที่โล่ง ควำมสูง 1500-2200 เมตร
                Leptodermis crassifolia Collett & Hemsl.               สกุล Ceratostigma Bunge มี 8 ชนิด พบในแอฟริกาและเอเชีย ในไทยมีชนิดเดียว
                   ไม้พุ่มสูงประมำณ 1 ม. หูใบร่วมขนำดเล็ก ใบรูปใบหอกแกมรูปไข่ ยำว 0.8-1 ซม.   ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “keras” หรือ “kerato” เขา หมายถึงยอดเกสรเพศเมีย
                ใบบนกิ่งสั้นขนำดเล็กค่อนข้ำงกลม ก้ำนใบสั้นมำก ยำวประมำณ 1 มม. กลีบเลี้ยง  ขยายออกคล้ายเขา
                รูปสำมเหลี่ยม ยำวประมำณ 1 มม. ดอกสีขาว ด้ำนนอกมีขน หลอดกลีบดอกยาว   เอกสารอ้างอิง
                5-7 มม. กลีบยำวประมำณ 2 มม. ปลำยกลีบมีขนกระจุกยำว ยอดเกสรเพศเมียแยก   Hosseus, C.C. (1911). Die botanichen ergebnisse meiner expedition nach
                5 แฉก ยื่นพ้นปำกหลอดกลีบในดอกที่ก้ำนเกสรเพศเมียยำว ผลยำวประมำณ 4 มม.   Siam. Beihefte zum Botanischen Centralblatt xxviii. II. 423.
                มี 5 เมล็ด ยำวประมำณ 3 มม.                             Pen, T.H. and R.V. Kamelin. (1996). Plumbaginaceae. In Flora of China Vol.
                                                                          15: 192.
                   พบที่พม่ำตอนบน และภำคเหนือตอนล่ำงของไทยที่ดอยหัวหมด จังหวัดตำก
                ขึ้นบนเขำหินปูนที่เปิดโล่ง ควำมสูง 900-1000 เมตร
                  เอกสารอ้างอิง
                   Chen, T. (2011). Rubiaceae (Leptodermis). In Flora of China Vol. 19: 198.
                   Puff, C., K. Chayamarit and V. Chamchumroon. (2005). Rubiaceae of Thailand.
                      Forest Herbarium. Bangkok.





                                                                      ฟ้าคราม: ใบประดับและกลีบเลี้ยงสีน�้ำตำลแดง กลีบดอกรูปไข่กลับ ปลำยแฉกลึก ปลำยก้ำนเกสรเพศเมียแยก 5 แฉก
                                                                     เรียวยำว (ภำพ: ดอยเชียงดำว เชียงใหม่ - SSi)
                                                                     เฟินก้านดำา, สกุล
                                                                     Adiantum L.
                                                                     วงศ์ Pteridaceae
                                                                       เฟินขึ้นบนดินหรือหิน เหง้ำสั้น ตั้งขึ้นหรือทอดเลื้อย ใบมีแบบเดียว ส่วนมาก
                                                                     เป็นใบประกอบ 1-3 ชั้น เส้นแขนงใบบำงครั้งแยกแขนงสองง่ำม เห็นชัดเจนทั้ง
                                                                     สองด้ำน กลุ่มอับสปอร์เรียงบนเส้นแขนงใบที่ขอบใบ อับสปอร์รูปกลม มีก้ำน
                                                                     และกลุ่มเซลล์ผนังหนำจ�ำนวนมำก สปอร์มีรอยเชื่อม 3 แฉก
                  ฟ้าขาว: ดอกออกเป็นกระจุกตำมซอกใบบนกิ่งสั้น ใบเกือบไร้ก้ำน ปลำยมีติ่งหนำม (ภำพ: ดอยเชียงดำว เชียงใหม่ - TP)
                                                                       สกุล Adiantum อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Vittarioideae มีมากกว่า 200 ชนิด ส่วนมาก
                                                                       พบในอเมริกาใต้ ในไทยมี 18 ชนิด หลายชนิดมีศักยภาพเป็นไม้ประดับ ชื่อสกุล
                                                                       มาจากภาษากรีก “adiantos” ไม่มี หมายถึงพืชที่ไม่เปียกน้ำาตามลักษณะของใบ
                                                                       ที่ไม่ซับน้ำา

                                                                     เฟินก้านดำา
                                                                     Adiantum flabellulatum L.
                                                                       เฟินมีเหง้ำสั้น ๆ บำงครั้งเกำะเลื้อย เกล็ดสีน�้ำตำล รูปแถบ ยำว 4-8 มม. ใบ
                                                                     จ�ำนวนมำก รูปคล้ายตีนเป็ดหรือแบบขนนกสามชั้น ยำวได้ถึง 20 ซม. ก้ำนใบ
                                                                     สีน�้ำตำลเข้ม ส่วนมำกยำว 10-40 ซม. แกนด้ำนบนเป็นร่อง มีขน ใบประกอบย่อย
                                                                     เรียงสลับระนำบเดียว ยำวได้ถึง 10 ซม. ใบย่อยเรียงสลับระนำบเดียว มีมำกกว่ำ
                                                                     ข้ำงละ 10 ใบ ใบย่อยรูปพัด มีก้ำนชัดเจน แผ่นใบกว้ำงได้ถึง 1.5 ซม. ช่วงปลายขอบ
                                                                     จักฟันเลื่อย กลุ่มอับสปอร์เรียงตามขอบใบ ห่าง ๆ กัน รูปรีหรือกลม ยำวได้ถึง 5 มม.
                  ฟ้าขาวใบสั้น: ใบขนำดเล็ก ดอกออกเป็นช่อสั้น ๆ ตำมข้อ ด้ำนนอกมีขน ปลำยกลีบมีขนกระจุกยำว
                (ภำพ: ดอยหัวหมด ตำก - PK)                              พบที่อินเดีย พม่ำ จีนตอนใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ภูมิภำคอินโดจีนและมำเลเซีย ในไทย
                                                                     พบทุกภำค ภำคใต้ถึงชุมพร ขึ้นตำมที่โล่งในป่ำดิบแล้ง ป่ำดิบเขำ และป่ำดิบชื้น
                ฟ้าคราม                                              ควำมสูงถึงประมำณ 1200 เมตร
                Ceratostigma stapfianum Hosseus
                วงศ์ Plumbaginaceae                                  เฟินก้านดำา
                   ไม้พุ่ม สูงได้เกือบ 1 ม. ใบรูปไข่กว้ำง รูปหัวใจ หรือคล้ำยไต ยำว 2-6 ซม.   Adiantum latifolium Lam.
                โคนเรียวสอบเป็นก้ำนใบ ยำวได้ถึง 2 ซม. ช่อดอกออกตำมปลำยกิ่งหรือซอกใบ  เฟินขึ้นบนดิน เหง้าทอดนอน เส้นผ่ำนศูนย์กลำง 2-3 มม. เกล็ดสีน�้ำตำลรูปแถบ
                ใกล้ปลำยกิ่ง คล้ายช่อกระจุกแน่นแยกแขนงแบบช่อเชิงลด ช่อย่อยมีดอกเดียว   ยำว 2-3 มม. ใบประกอบ 2 ชั้น รูปสำมเหลี่ยมแกมรูปไข่ ยำว 20-40 ซม. ก้ำนใบ
                ใบประดับด้านบนสีน�้าตาลแดง ด้ำนล่ำงสีอ่อน ยำว 5-6 มม. บำง ขอบมีขน   ยำว 25-50 ซม. โคนมีเกล็ด ด้ำนบนและแกนกลำงเป็นร่อง ใบประกอบย่อยมี
                ใบประดับย่อย 2 อัน กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยำว 0.7-1.2 ซม. มี 5 สัน   1-4 คู่ ใบช่วงปลายเป็นใบประกอบชั้นเดียว รูปสำมเหลี่ยมแกมรูปขอบขนำน ยำว


                318






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   318                                                                 3/1/16   6:11 PM
   333   334   335   336   337   338   339   340   341   342   343