Page 356 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 356

มะเค็ด
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                   สกุล Gardneria Wall. มี 7 ชนิด พบในเอเชียตะวันออกและตะวันออกเฉียงใต้    มะจอเต๊ะ
                   ในไทยมีชนิดเดียว ชื่อสกุลตั้งต�ม Edward Gardner ช�วอังกฤษที่เคยส่ง   Ficus deltoidea Jack
                   ตัวอย่�งพรรณไม้ให้กับ William Hooker และ Nathaniel Wallich หรืออ�จเป็น
                   นักพฤกษศ�สตร์ช�วอังกฤษ George Gardner (1812-1849)  วงศ์ Moraceae
                                                                       ไม้พุ่ม หรืออิงอาศัย สูง 3-5 ม. มีรากอากาศ ล�าต้นและกิ่งเกลี้ยง เรียงซิกแซ็ก
                  เอกส�รอ้�งอิง                                      ใบรูปไข่กลับหรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 1-8 ซม. ปลำยกลม โคนมน แหลม หรือ
                   Griffin, O. and J. Parnell. (1997). Loganiaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(3):
                      206-208.                                       เรียวสอบ แผ่นใบหนา ด้ำนล่ำงมักมีสีน�้ำตำลแดงหรืออมเขียว เส้นกลำงใบแยก
                                                                     2 แฉก มีต่อมสีด�ำที่โคนใบ โคนเส้นแขนงใบ และระหว่ำงเส้นกลำงใบที่แยก 2 แฉก
                                                                     ก้านใบยาว 0.5-3 ซม. มีขนสั้น ๆ ดอกอยู่ภายในฐานดอกที่ขยายออกเดี่ยวๆ หรือ
                                                                     เป็นคู่ตามซอกใบ เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. สีเขียว เหลือง ชมพู หรือแดงอมม่วง
                                                                     ก้านยาวได้ถึง 1 ซม. มีขนสั้น รูเปิดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5 มม. มีขน
                                                                     ด้ำนในประปรำย ใบประดับ 3 อัน รูปสามเหลี่ยม ยาว 1-2 มม. มีขนครุย (ดู
                                                                     ข้อมูลเพิ่มเติมที่ ไทร, สกุล)
                                                                       พบที่คาบสมุทรมลายู สุมาตรา ชวา บอร์เนียว และภาคใต้ของไทย ขึ้นตาม
                                                                     ป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 1000 เมตร เป็นไม้ประดับ มีสรรพคุณใช้รักษาอาการ
                                                                     ตกเลือดหลังคลอด ช่วยเลือดลมไหลเวียน ลดคลอเรสเตอรอลและความดันโลหิต
                                                                     บ�ารุงก�าลัง และเชื่อว่าสามารถเพิ่มความก�าหนัดทางเพศ รู้จักกันในชื่อ ‘Mas Cotek’
                  มะเค็ด: ใบเรียงตรงข้าม ช่อดอกแบบช่อกระจุกหรือแยกแขนงสั้น ๆ ตามซอกใบ ดอกรูปกงล้อ กลีบดอก 4 กลีบ
                หนา บานออก ปลายมีติ่งแหลม อับเรณูเชื่อมติดกัน (ภาพ: ทุ่งใหญ่นเรศวรตะวันออก ตาก - PK)   ในมาเลเซีย อยู่ภายใต้สกุลย่อย Ficus แยกเป็น subsp. motleyana (Miq.) C. C.
                                                                     Berg พบที่บอร์เนียว ส่วน subsp. deltoidea แบ่งออกเป็น var. angustifolia
                มะเค็ด                                               (Miq.) Corner ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ เส้นกลางใบแยกเหนือกึ่งกลางใบ และ
                Gelsemium elegans (Gardner & Champ.) Benth.          var. kunstleri (King) Corner ใบรูปไข่กลับกว้าง เส้นกลางใบแยกใต้กึ่งกลางใบ
                วงศ์ Gelsemiaceae                                     เอกส�รอ้�งอิง
                  ชื่อพ้อง Medicia elegans Gardner & Champ.            Berg, C.C., N. Pattharahirantricin and B. Chantarasuwan. (2011). Moraceae. In
                                                                          Flora of Thailand Vol. 10(4): 513-515.
                   ไม้เถา ใบเรียงตรงข้ำม รูปไข่แกมรูปใบหอก ยาว 5-14 ซม. ปลายแหลมยาว   Corner, E.J.H. (1960). Taxonomic notes on Ficus Linn., Asia and Australia.
                ก้านใบยาว 1-1.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ออกหนาแน่นที่ปลายกิ่ง ยาว  Gardens’ Bulletin Singapore 17: 420-425.
                ได้ถึง 12 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบขนาดเล็ก เรียงซ้อนเหลื่อม ขอบมีขนครุย ติดทน
                ดอกรูปล�ำโพงสีเหลือง มีจุดสีแดงด้ำนใน ยาว 1.2-2 ซม. กลีบแฉกลึกประมาณกึ่งหนึ่ง
                ปลำยกลีบพับงอกลับ เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดประมาณกึ่งกลางหลอดกลีบดอก
                ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 4 มม. ยื่นพ้นปากหลอด รังไข่มี 2 ช่อง ก้านเกสรเพศเมีย
                ยาว 0.8-1.2 ซม. ยอดเกสรแยก 2 แฉก แต่ละแฉกจัก 2 พู ผลแห้งแตกเป็น 2 ซีก
                รูปรีหรือรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 ซม. มี 8-10 เมล็ดในแต่ละซีก รูปรี แบน ยาว 4-5 มม.
                กลำงเมล็ดมีขน มีปีกรอบ จักชำยครุย
                   พบที่อินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ ไต้หวัน พม่า ลาว เวียดนาม คาบสมุทรมลายู
                บอร์เนียว ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบเขา และป่าดิบชื้นที่เป็น
                หินปูน ความสูง 600-1500 เมตร น�้ายางมีสารแอลคาลอยด์หลายชนิดที่เป็นพิษ
                มีฤทธิ์กระตุ้นให้หลั่งน�้าลาย สับสน สั่นหรือชัก ท�าให้หยุดหายใจได้ ใช้ในปริมาณที่
                เหมาะสมมีสรรพคุณใช้รักษาโรคเนื้องอกในโพรงจมูก และเนื้องอกที่ผิวหนังบางชนิด

                   สกุล Gelsemium Juss. เคยอยู่ภ�ยใต้วงศ์ Loganiaceae มี 3 ชนิด พบใน
                   อเมริก�เหนือ และเอเชีย ในไทยมีชนิดเดียว ชื่อสกุลม�จ�กภ�ษ�อิต�ลี “gelsomino”
                   ที่ใช้เรียกพืชพวกมะลิ
                                                                      มะจอเต๊ะ: var. kunstleri ใบรูปไข่กลับกว้าง เส้นกลางใบแยกใต้กึ่งกลางใบ (ภาพบน: cultivated - RP); มะจอเต๊ะ:
                  เอกส�รอ้�งอิง                                      var. angustifolia ใบรูปขอบขนานแกมรูปไข่ เส้นกลางใบแยกเหนือกึ่งกลางใบ (ภาพล่าง: cultivated - RP)
                   Griffin, O. and J. Parnell. (1997). Loganiaceae. In Flora of Thailand Vol. 6(3):
                      205-206.                                       มะดูก
                                                                     Siphonodon celastrineus Griff.
                                                                     วงศ์ Celastraceae
                                                                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. หูใบขนาดเล็ก ใบเรียงเวียน รูปรี รูปขอบขนาน หรือแกม
                                                                     รูปไข่ ยาว 6.5-20 ซม. ปลายแหลมหรือแหลมยาว ขอบจักซี่ฟันหรือจักมนตื้น ๆ
                                                                     ก้านใบยาว 0.5-1.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกสั้น ๆ ตามซอกใบ บำงครั้ง
                                                                     ลดรูปมีดอกเดียว ก้านดอกยาว 0.3-1 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปกลม เส้นผ่านศูนย์กลาง
                                                                     1-2 มม. กลีบดอก 5 กลีบ เรียงซ้อนเหลื่อมที่โคน รูปไข่ปลายมน ยาว 2.5-3.5 มม.
                                                                     เกสรเพศผู้ 5 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 1 มม. แบนๆ เชื่อมติดกันที่โคน แกน
                                                                     อับเรณูแผ่กว้ำงแยกอับเรณู วงเกสรเพศเมียแนบติดจำนฐำนดอก ปลำยเว้ำลึก
                                                                     เกสรเพศเมียเป็นแท่งสั้น ๆ ติดที่โคน รังไข่มีหลำยช่องกระจัดกระจำย แต่ละช่อง
                                                                     มีออวุลเม็ดเดียว ผลคล้ายผลผนังชั้นในแข็ง รูปรีหรือรูปไข่กลับ ยาว 3-5 ซม. ผิวขรุขระ
                                                                     มีหลายไพรีน แข็ง เมล็ดรูปรี แบน ยาวประมาณ 8 มม.

                  มะเค็ด: ใบเรียงตรงข้าม ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ดอกสีเหลืองมีจุดสีแดงด้านใน เกสรเพศผู้ยื่นพ้นปาก  พบที่อินเดีย พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และนิวกินี ขึ้นใน
                หลอดกลีบดอก ผลแห้งแตก (ภาพซ้ายบน: ยูนนาน จีน - RP; ภาพซ้ายล่างและภาพขวา: แก่งกระจาน เพชรบุรี - PK)  ป่าผลัดใบและไม่ผลัดใบ ชายป่า หรือเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 1000 เมตร

                336






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   336                                                                 3/1/16   6:06 PM
   351   352   353   354   355   356   357   358   359   360   361