Page 373 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 373
เมื่อย สารานุกรมพืชในประเทศไทย โมก
Gnetum montanum Markgr.
ไม้เถาเนื้อแข็ง ยาวกว่า 10 ม. ใบรูปรี รูปขอบขนาน หรือแกมรูปไข่ ยาว 10-25 ซม.
ก้านใบยาว 1-1.5 ซม. ใบแห้งสีด�ำ ช่อดอกเพศผู้ส่วนมำกแยกแขนง ยาว 2.5-6 ซม.
ก้านช่อสั้น ช่อแขนงยาว 2-3 ซม. ส่วนแผ่เป็นวงมี 13-18 วง มีดอกเพศเมียที่เป็นหมัน
ช่อดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นกระจุก ก้านช่อยาว 2-3 ซม. ช่อยาว 2-3 ซม.
ดอกเพศเมียมี 5-8 ดอก ในแต่ละวง เมล็ดรูปรี ยาว 1.2-1.5 ซม. สุกเปลือกหุ้มสีแดง
ก้านหนา ยาว 2-3 มม.
เมื่อยดูก: ช่อดอกเพศเมียออกเดี่ยว ๆ เป็นกระจุกตามล�าต้น ตั้งขึ้น ส่วนที่แผ่เป็นวงมีขนอุยสีน�้าตาลหนาแน่น
พบที่อินเดีย เนปาล ภูฏาน พม่า จีนตอนใต้ และภูมิภาคอินโดจีน ในไทยพบ เมล็ดไร้ก้าน รูปรี (ภาพ: บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ - RP)
ทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ความสูงถึงประมาณ 1800 เมตร
เมื่อยดำ�
Gnetum cuspidatum Blume
ไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ ใบรูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว 10-21 ซม. ก้านใบยาว
0.7-1.5 ซม. ใบแห้งสีน�้ำตำล ช่อดอกไม่แยกแขนง ออกเป็นกระจุกตำมเถำ ห้อยลง
ดอกเพศผู้จ�านวนมากในแต่ละวง มีดอกเพศเมียที่เป็นหมันประมาณ 10 ดอก
ช่อดอกเพศเมียขยายในผล มีขนละเอียด แกนช่อยำวได้ถึง 15 ซม. เมล็ดไร้ก้ำน
มี 5-7 เมล็ดในแต่ละวง รูปรี ยาว 2-3 ซม. เป็นมันวาว
ผักเมี่ยง: ไม้พุ่ม แผ่นใบบาง ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกเดี่ยว ๆ หรือแตกแขนงเดียว ผลรูปขอบขนาน ปลายมีติ่งแหลม
พบที่กัมพูชา เวียดนาม ภูมิภาคมาเลเซีย นิวกินี ในไทยส่วนมากพบทางภาคใต้ (ภาพซ้าย: คลองนาคา ระนอง - SSi; ภาพขวา: ยะลา - RP)
ขึ้นตามป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 700 เมตร
โมก, สกุล
เมื่อยดูก Wrightia R. Br.
Gnetum macrostachyum Hook. f. วงศ์ Apocynaceae
ไม้เถาเนื้อแข็ง ใบรูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 13-16 ซม. ปลายมีติ่งแหลม ไม้พุ่มหรือไม้ต้น น�้ายางสีขาว มักมีขนสั้นนุ่มตามกิ่งอ่อน แผ่นใบด้านล่าง และ
เส้นแขนงใบโค้งจรดกัน ก้านใบยาวประมาณ 1 ซม. ช่อดอกเพศผู้ออกเดี่ยว ๆ ช่อดอก กิ่งแก่ส่วนมำกมีช่องอำกำศ ใบเรียงตรงข้ำม ปลายส่วนมากแหลมยาว
ตามซอกใบ ยาวได้ถึง 5 ซม. ส่วนแผ่เป็นวงมีขนอุยหนำแน่นสีน�้ำตำล ยำวเป็น ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตามปลายกิ่ง กลีบดอกและกลีบเลี้ยงอย่างละ 5 กลีบ
สองเท่ำของแผ่นวง ดอกเพศเมียที่เป็นหมันมีประมาณ 10 ดอก ช่อดอกเพศเมีย โคนกลีบเลี้ยงด้ำนในมีเกล็ดต่อมส่วนมำกแผ่กว้ำง ดอกรูปดอกเข็มหรือรูปกรวย
ออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นกระจุกตามล�าต้น ตั้งขึ้น ยาวได้ถึง 9 ซม. ดอกเพศเมียมีประมาณ กลีบเรียงซ้อนทับด้ำนซ้ำยในตำดอก แผ่นกลีบส่วนมากมีปุ่มขนกระจาย ส่วนมำก
10 ดอกในแต่ละวง มีขนอุยสีน�้ำตำลหนำแน่น ติดทน เมล็ดไร้ก้ำน รูปรี ยาวได้ถึง มีกะบัง แยกเป็นกะบังหน้ำกลีบดอก (antepetalous) ที่มักเชื่อมติดกลีบดอก
2 ซม. สุกเปลือกหุ้มสีแดงคล�้า กะบังระหว่ำงกลีบดอก (alternipetalous) หรือมีกะบังย่อยอยู่ระหว่ำงกะบังทั้ง
พบที่พม่า ลาว กัมพูชา เวียดนาม และภูมิภาคมาเลเซีย ในไทยพบแทบทุกภาค 2 ชั้น (alternate corona lobes) ที่ส่วนมำกออกเดี่ยว ๆ ขนำดเล็ก เกสรเพศผู้
ยกเว้นภาคเหนือ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้นใกล้ล�าธาร ความสูง 100-900 เมตร 5 อัน ติดบนปากหลอดหรือภายในหลอดกลีบดอก ก้ำนชูอับเรณูสั้น อับเรณูรูป
หัวลูกศร ส่วนมำกมีขนสั้นนุ่ม แนบติดยอดเกสรเพศเมีย ไม่มีจำนฐำนดอก
เอกส�รอ้�งอิง รังไข่มี 2 คาร์เพล แยกกันหรือติดกันเรียวยาวเป็นก้านเกสรเพศเมีย ออวุลจ�านวนมาก
Fu, L., Y.F. Yu and M.G. Gilbert. (1999). In Flora of China Vol. 4: 102, 104. ผลเป็นฝักคู่ รูปกระสวย ติดกันหรือแยกกัน เมล็ดรูปแถบ ที่โคนมีกระจุกขน
Phengklai, C. (1975). Gnetaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(3): 204-210. ชี้เข้ำหำโคนฝัก
สกุล Wrightia มีประม�ณ 24 ชนิด พบในแอฟริก� เอเชีย และออสเตรเลีย
ในไทยมีประม�ณ 15 ชนิด และเป็นไม้ต่�งถิ่นประดับหนึ่งชนิด คือ พุดพิชญ�
W. antidysenterica (L.) R. Br. ชื่อสกุลตั้งต�มนักพฤกษศ�สตร์ช�วอังกฤษ
William Wright (1735-1819)
โมก
Wrightia pubescens R. Br.
ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. ใบรูปรี รูปไข่กลับ หรือรูปขอบขนาน ยาว 3-12 ซม.
เมื่อย: ใบเรียงตรงข้าม ช่อดอกแยกแขนง ออกตามล�าต้น (ภาพ: ดอยสุเทพ เชียงใหม่ - VC)
ก้านใบยาว 3-8 มม. ช่อดอกยาว 4-7.5 ซม. ก้านดอกยาว 0.4-1 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่
ยาว 1-5 มม. ดอกสีครีมหรืออมชมพูอ่อน มีกลิ่นหอม หลอดกลีบยาว 3-7 มม.
กลีบรูปขอบขนาน ยาว 0.8-2.7 ซม. กะบัง 2 ชั้น มีขนสั้นนุ่ม กะบังหน้ำกลีบดอก
แนบติดกลีบดอกประมำณกึ่งหนึ่ง จักลึก กะบังระหว่ำงกลีบดอกรูปแถบ สั้นกว่ำ
เล็กน้อย ปลำยแยก 2 แฉก อับเรณูยาว 7-9 มม. รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมีย
ยาว 0.8-1 ซม. รวมยอดเกสร ผลเรียงติดกัน แยกกันเมื่อแตก ผิวไม่มีช่องอำกำศ
มีขนละเอียด ยาว 10-38 ซม. เมล็ดยาว 1-1.6 ซม. กระจุกขนยาว 1-4 ซม.
พบที่จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน ภูมิภาคมาเลเซีย และออสเตรเลีย ในไทย
พบทุกภาค ขึ้นตามชายป่าดิบแล้ง และป่าเบญจพรรณ ความสูงถึงประมาณ 400 เมตร
คล้ายกับโมกมัน W. arborea (Dennst.) Mabb. ที่ฝักมีช่องอากาศชัดเจน และดอก
เมื่อยด�ำ: ช่อดอกออกเดี่ยว ๆ เป็นกระจุกตามล�าต้น ห้อยลง เมล็ดไร้ก้าน มี 5-7 เมล็ดในแต่ละวง เป็นมันวาว
(ภาพ: เขาหลวง นครศรีธรรมราช - SSi) ไม่มีกลิ่นหอม สารสกัดจากรากและเปลือกใช้รักษาวัณโรคต่อมน�้าเหลืองบริเวณคอ
353
59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd 353 3/1/16 6:10 PM