Page 378 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 378

ไมยราบขาว
                                    สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                มี 12-25 คู่ รูปขอบขนานหรือรูปเคียว ยาว 0.5-1 ซม. ก้านช่อดอกยาว 2.5-4 ซม.   ยมดอย
                ดอกไร้ก้าน รูประฆังแคบ ยาวประมาณ 2 มม. กลีบดอกมนกลม ยาว 0.5-0.8 มม.   Sarcotheca laxa (Ridl.) R. Knuth
                เกสรเพศผู้ 4 อัน รังไข่เกลี้ยง ฝักรูปขอบขนาน ยาว 1.5-1.8 ซม. ขอบมีขนแข็ง  วงศ์ Oxalidaceae
                   มีถิ่นก�าเนิดในอเมริกาใต้ น�าเข้าโดยกรมทางหลวงเพื่อช่วยคลุมหน้าดิน แยกเป็น   ขื่อพ้อง Connaropsis laxa Ridl., Sarcotheca glabra (Ridl.) R. Knuth
                var. hispida Brenan กลีบดอกมีขน และ var. unijuga (Duchass. & Walp.)
                Griseb. กลีบดอกเกลี้ยง                                 ไม้พุ่มหรือไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ใบเรียงเวียน รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก
                                                                     ยาว 5-23 ซม. ปลำยแหลมยำวหรือยำวคล้ำยหำง ก้านใบยาว 0.5-2.5 ซม. ช่อดอก
                ไมยร�บข�ว                                            แบบช่อแยกแขนง ยาวได้ถึง 30 ซม. ช่อย่อยแบบช่อกระจุกสั้น ๆ ก้านดอกยาว
                                                                     0.5-1 มม. ใบประดับขนาดเล็ก ร่วงเร็ว กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันที่โคน รูปขอบขนาน
                Mimosa diplotricha C. Wright ex Sauvalle             ยาว 1-2 มม. ติดทน กลีบดอก 5 กลีบ รูปใบหอกแกมรูปไข่กลับ ยาว 4-7 มม. มี
                  ชื่อพ้อง Mimosa invisa Mart. ex Colla              ก้านกลีบสั้น ๆ เกสรเพศผู้อันสั้น 5 อัน อันยำว 5 อัน เชื่อมติดกันที่โคน ในดอก
                   ไม้พุ่มทอดเลื้อยหนาแน่น สูงได้ถึง 1 ม. ล�ำต้นเป็นสี่เหลี่ยม สันเหลี่ยมมี  ที่ก้านเกสรเพศเมียสั้น ยาว 1-2.5 มม. และ 2-3.5 มม. ในดอกที่ก้านเกสรเพศเมีย
                หนำมโค้งเป็นแถว มีขนหยำบและหนำมโค้งประปรำยตำมแกนก้ำนใบ แผ่นใบ   ยาว ยาว 0.5-1 มม. และ 1-1.7 มม. รังไข่มี 5 ช่อง เชื่อมติดกัน ก้ำนเกสรเพศเมีย
                และช่อดอก แกนกลางใบประกอบยาว 6-11 ซม. ก้านยาว 3-5 ซม. ใบประกอบย่อย  5 อัน แบบสั้น ยาวประมาณ 0.5 มม. แบบยาว ยาว 2-3 มม. ผลสด รูปรี ยาว
                มี 4-7 คู่ ยาว 1-4.5 ซม. ใบย่อยมี 12-21 คู่ รูปขอบขนาน ยาว 2-7 มม. ก้านช่อดอก  0.6-1.3 ซม. สุกสีแดง มี 1-3 เมล็ด รูปขอบขนาน ยาว 5-9 มม.
                ยาว 0.5-6 ซม. ดอกรูปกรวยแคบ ยาวประมาณ 2 มม. กลีบดอกยาวประมาณ 1 มม.   พบที่คาบสมุทรมลายู สุมาตรา และภาคใต้ตอนล่างของไทย ที่นราธิวาส ขึ้น
                ปลายมน เกสรเพศผู้ 8 อัน รังไข่มีขนละเอียด ฝักรูปขอบขนาน ยาว 1.5-3.5 ซม.   ตามป่าดิบชื้น ความสูงระดับต�่า ๆ มีความผันแปรสูง แยกออกเป็นหลาย varities
                ขอบมีขนแข็ง                                          ตามลักษณะของสิ่งปกคลุม
                   มีถิ่นก�าเนิดในอเมริกาใต้ เป็นวัชพืชทั่วไปในเขตร้อน น�าเข้าโดยกรมวิชาการเกษตร
                เพื่อใช้ควบคุมวัชพืช                                   สกุล Sarcotheca Blume มี 11 ชนิด พบเฉพ�ะในภูมิภ�คม�เลเซีย ในไทยมี
                                                                       ชนิดเดียว ชื่อสกุลม�จ�กภ�ษ�กรีก “sarkos” สด และ “theke” กล่อง หม�ยถึง
                                                                       ผลสดกินได้
                ไมยร�บต้น
                Mimosa pigra L.                                       เอกส�รอ้�งอิง
                                                                       Veldkamp, J.F. (1967). A revision of Sarcotheca Bl. and Dapania Korth.
                   ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 4 ม. แตกกิ่งหนาแน่น มีหนำมโค้งบนแกนใบประกอบระหว่ำง  (Oxalidaceae). Blumea 15: 533.
                รอยต่อใบประกอบย่อย มีขนหยำบตำมกิ่ง แกนก้ำนใบ ขอบใบ และช่อดอก
                แกนกลางใบประกอบยาว 11-17 ซม. เป็นเหลี่ยม ก้านใบประกอบยาว 0.8-2.8 ซม.
                ใบประกอบย่อยมี 10-14 คู่ ยาว 3.5-4.5 ซม. ใบย่อยมีประมำณ 45 คู่ รูปแถบ
                แกมขอบขนาน ยาว 5-9 มม. ก้านช่อยาวประมาณ 2 ซม. กลีบเลี้ยงบำงและแห้ง
                ดอกรูปแตร ยาวประมาณ 3 มม. กลีบดอกรูปไข่ปลายแหลม ยาวประมาณ 1.2 มม.
                เกสรเพศผู้ 8 อัน รังไข่มีขนก�ำมะหยี่หนำแน่น ฝักรูปขอบขนานถึงรูปแถบ ยาวได้ถึง
                6 ซม. ปลายมีจะงอย มีขนสากหนาแน่น
                   มีถิ่นก�าเนิดในอเมริกาใต้ ขึ้นเป็นวัชพืชทั่วไปในเขตร้อน
                  เอกส�รอ้�งอิง
                   Nielsen, I.C. (1985). Leguminosae-Mimosoideae. In Flora of Thailand Vol. 4(2):   ยมดอย: ใบเรียงเวียน ปลายแหลมยาว ช่อดอกออกเป็นกระจุกสั้น ๆ บนช่อแบบแยกแขนง ผลสด สุกสีแดง
                      151-155.                                       (ภาพ: แว้ง นราธิวาส - MT)
                                                                     ยมหอม
                                                                     Toona ciliata M. Roem.
                                                                     วงศ์ Meliaceae
                                                                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 40 ม. แยกเพศร่วมต้น กิ่งมีช่องอำกำศ ใบประกอบเรียงเวียน
                                                                     มีใบย่อย 8-15 คู่ ก้านใบยาว 5-20 ซม. ใบย่อยรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 7-16 ซม.
                                                                     ปลายแหลมยาว โคนเบี้ยว ก้านใบย่อยยาว 0.5-1.5 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก
                  ไมยรำบ: ใบประกอบย่อยเรียงชิดกันคล้ายรูปฝ่ามือ ฝักรูปขอบขนาน ขอบมีขนแข็ง (ภาพ: ประจวบคีรีขันธ์ - RP)  แยกแขนง ยำวได้ถึง 50 ซม. ก้านดอกยาว 0.5-1 มม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปรีขนาดเล็ก
                                                                     ขอบมีขนครุย ดอกสีขาว มี 5 กลีบ รูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ยาว 4-5 มม.
                                                                     ขอบมีขนครุย ก้ำนชูเกสรร่วมยำว 3-5 มม. เกสรเพศผู้ 5 อัน ก้านชูอับเรณูยาว
                                                                     1.5-3 มม. จำนฐำนดอกคล้ำยนวมสีส้มแดง มีขนยำวหนำแน่น รังไข่มีขนยำว
                                                                     มี 5 ช่อง แต่ละช่องมีออวุล 8 เม็ด ก้ำนเกสรเพศเมียเกลี้ยง ยาว 1.5-3 มม.
                                                                     ยอดเกสรแบน ผลแห้งแตกเป็น 5 ซีก รูปรี ยาว 2-4 ซม. แกนกลำงมีห้ำเหลี่ยม
                                                                     ผิวมีช่องอำกำศ เมล็ดมีปีกทั้งสองด้ำน ยาว 1.5-2 ซม. รวมปีก
                                                                       พบที่อินเดีย ปากีสถาน บังกลาเทศ เนปาล ศรีลังกา ภูฏาน จีนตอนใต้ พม่า
                  ไมยรำบขำว: ล�าต้นเป็นสี่เหลี่ยม มีหนามโค้งตามสันเหลี่ยมเป็นแถว มีขนหยาบตามแกนก้านใบ (ภาพ: ตาก - RP)  ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ปาปัวนิวกินี ออสเตรเลีย และหมู่เกาะ
                                                                     แปซิฟิก ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น ความสูง
                                                                     ถึงประมาณ 1300 เมตร นิยมปลูกเป็นไม้สวนป่าในหลายประเทศ ส่วนต่าง ๆ มี
                                                                     สรรพคุณด้านสมุนไพรหลายอย่าง ดอกมีกลิ่นหอม ให้สีย้อมสีแดงหรือเหลือง

                                                                       สกุล Toona (Endl.) M. Roem. มี 5 ชนิด พบในเอเชียและออสเตรเลีย ในไทยมี
                                                                       3 ชนิด ชื่อสกุลม�จ�กภ�ษ�สันสกฤต “toon” หรือ “tunna” ที่ใช้เรียก ยมหอม

                                                                      เอกส�รอ้�งอิง
                  ไมยรำบต้น: มีหนามโค้งบนแกนระหว่างรอยต่อใบประกอบย่อย ใบย่อยจ�านวนมาก (ภาพ: เชียงใหม่ - RP)  Peng, H. and J.M. Edmonds. (2008). Meliaceae. In Flora of China Vol. 11: 114.

                358






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   358                                                                 3/1/16   6:11 PM
   373   374   375   376   377   378   379   380   381   382   383