Page 380 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 380

ยอย่าน


                ยอย่�น              สารานุกรมพืชในประเทศไทย
                Morinda umbellata L.
                   ไม้เถำ มีขนสั้นนุ่มทั่วไป หูใบเชื่อมติดกันเป็นหลอด ยาว 2-6 มม. มีขนแข็ง
                2 เส้น ยาวประมาณ 1 มม. ใบรูปรีถึงรูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาว 6-9 ซม.
                ปลายแหลมยาวหรือเป็นติ่งแหลม โคนแหลมหรือเรียวสอบ มักมีตุ่มใบเป็นขนยาว
                ก้านใบยาว 4-6 มม. ก้านช่อยาว 1-1.5 ซม. ช่อดอกย่อยมี 3-11 ช่อ ติดแบบช่อซี่ร่ม
                ก้านช่อย่อยยาว 0.4-1.2 ซม. ใบประดับรูปเส้นด้ายขนาดเล็ก ช่อกระจุกกลมหรือแป้น   ยอย่ำน: ช่อผลย่อยติดแบบช่อซี่ร่ม มีขนสั้นนุ่ม ผลสุกสีส้มอมแดง (ภาพ: เบตง ยะลา - RP)
                เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 ซม. มีดอกย่อย 6-12 ดอก ดอกรูประฆัง หลอดกลีบดอก  ย�แก้
                ยาวประมาณ 2 มม. ด้านในมีขนยาว มี 4-5 กลีบ รูปใบหอก ยาวประมาณ 3 มม.
                ปลำยกลีบหนำเป็นตะขอสั้น ๆ ผลรวมเส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7-1.2 ซม. ผลย่อยยาว   Leucomeris decora Kurz
                4-5 มม. เชื่อมติดกัน สุกสีส้มอมแดง                   วงศ์ Asteraceae
                   พบที่อินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ ไต้หวัน ญี่ปุ่น ภูมิภาคมาเลเซีย ฟิลิปปินส์   ไม้พุ่มหรือไม้ต้น ผลัดใบ สูงได้ถึง 10 ม. ใบเรียงเวียน รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว
                และออสเตรเลีย ในไทยพบแทบทุกภาค ยกเว้นภาคเหนือ ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบชื้น   6-26 ซม. โคนเบี้ยว ขอบจักคล้ำยหนำมห่ำง ๆ แผ่นใบด้านล่างมีขนสั้นนุ่ม ด้านบน
                หรือเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 1400 เมตร ในอินเดียผลดิบใช้ปรุงอาหาร ล�าต้น  มีขนประปราย ก้านใบยาว 1.5-4 ซม. ใบช่วงปลายกิ่งขนาดเล็ก ก้านใบสั้น ช่อดอกแบบ
                ใช้ท�าเชือก ใบและรากใช้ฆ่าพยาธิ มีฤทธิ์เป็นยาสมาน แก้โรคท้องร่วง  ช่อกระจุกแน่น ออกเป็นกระจุกตำมปลำยกิ่ง 6-15 ช่อ ช่อไร้ก้ำน วงใบประดับ
                                                                     ติดกันเป็นหลอดแคบ ๆ ยาว 1.4-1.7 ซม. วงใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อม 6-8 วง
                  เอกส�รอ้�งอิง                                      วงนอกรูปไข่ ยาว 1.5-4 มม. วงในรูปขอบขนานและรูปแถบ ยาวประมาณ 6 มม.
                   Chen, T. and C.M. Taylor. (2011). Rubiaceae (Morinda). In Flora of China Vol.   และ 1.3-1.5 ซม. ตามล�าดับ มีขนคล้ำยขนแกะประปรำย ดอกย่อยมี 5-7 ดอก
                      19: 220, 223, 229.
                   Das, S.C. and M.A. Rahman. (2011). Taxonomic revision of the genus Morinda   สีขาวครีม ยาว 1.7-1.8 ซม. ปลายแยกเป็น 5 แฉก รูปแถบ ยาว 0.7-1 ซม.
                      L. (Rubiaceae) in Bangladesh. Bangladesh Jornal of Botany 40(2): 113-120.  ม้วนงอกลับ เกสรเพศผู้ 5 อัน ติดภายในหลอดกลีบดอก โคนอับเรณูมีหางยาว
                   Kesonbua, W. and P. Chantaranothai. (2013). The genus Morinda (Rubiaceae)   ประมาณ 3 มม. ปลายมีรยางค์สั้น ๆ ก้านเกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย แยก 2 แฉก
                      in Thailand. ScienceAsia 39: 331-339.          ปลายแฉกสั้น ๆ ผลแห้งเมล็ดล่อน เรียว ยาว 0.8-1.2 ซม. มีขนคล้ำยไหมสีน�้ำตำล
                                                                     หนำแน่น แพปพัสเป็นขนแข็ง ติดทน ยาวประมาณ 1 ซม.
                                                                       พบที่พม่า จีนตอนใต้ และเวียดนาม ในไทยพบทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ ตาก
                                                                     และทางภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี ขึ้นตามสันเขาในป่าดิบเขาและป่าสน
                                                                     ความสูง 600-1800 เมตร

                                                                       สกุล Leucomeris D. Don อยู่ภ�ยใต้วงศ์ย่อย Gochnatioideae มีเพียง 2 ชนิด
                                                                       พบที่อินเดีย ป�กีสถ�น เนป�ล พม่� จีนตอนใต้ และเวียดน�ม ในไทยมีชนิดเดียว
                                                                       ชื่อสกุลม�จ�กภ�ษ�กรีก “leukos” สีข�ว ต�มสีของดอก
                                                                      เอกส�รอ้�งอิง
                  ยอ: ดอกไร้ก้าน รังไข่เชื่ิอมติดกัน เกสรเพศเมียแบบยาว ยอดเกสรมี 2 อัน รูปแถบ ผลรวมเชื่อมติดกัน    Gao, T. and D.J. Nicholas Hind. (2011). Asteraceae (Leucomeris). In Flora of
                (ภาพ: cultivated - RP)
                                                                          China Vol. 20-21: 10.









                  ยอน�้ำ: มักมีสีน�้าตาลแดงตามกิ่ง ก้านช่อดอกสั้น ดอกรูปดอกเข็ม (ภาพ: เสนา พระนครศรีอยุธยา - RP)


                                                                      ยำแก้: โคนใบเบี้ยว ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นออกเป็นกระจุกตามปลายกิ่ง ไร้ก้าน วงใบประดับเรียงหลายวง
                                                                     มีขนคล้ายขนแกะ กลีบดอกรูปแถบ ม้วนงอกลับ (ภาพ: ดอยเชียงดาว เชียงใหม่ - MT)
                                                                     ย�ง, สกุล
                                                                     Dipterocarpus C. F. Gaertn.
                                                                     วงศ์ Dipterocarpaceae
                  ยอป่ำ: แผ่นใบมีขนสั้นนุ่มหรือเกลี้ยง ก้านช่อดอกยาว ดอกรูปดอกเข็ม (ภาพดอก: ตาก, ภาพผล: อุบลราชธานี; - RP)
                                                                       ไม้ต้น ส่วนมากสูง 30-40 ม. โคนมีพูพอนในชนิดที่ไม่ผลัดใบ เปลือกแตก
                                                                     เป็นสะเก็ด หรือแตกเป็นร่องลึกในชนิดที่ผลัดใบ ส่วนมำกมีขนรูปดำวสั้นนุ่ม
                                                                     ตำมกิ่ง หูใบ แผ่นใบด้ำนล่ำง ก้ำนใบ และช่อดอก หูใบหุ้มตำยอด ร่วงเร็ว ทิ้งรอย
                                                                     ชัดเจน ใบเรียงเวียน พับจีบ เส้นแขนงใบเรียงขนำนกัน ส่วนมากตรงจรดขอบใบ
                                                                     เส้นใบย่อยแบบขั้นบันได ช่อดอกแบบช่อกระจะออกตามกิ่งหรือซอกใบ ดอกเรียง
                                                                     สลับไปมำ ใบประดับขนาดเล็ก กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด กลีบยาว 2 กลีบ
                                                                     กลีบสั้น 3 กลีบ รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก เรียงจรดกัน ดอกสีขำวมีปื้นสีชมพู
                                                                     มี 5 กลีบ รูปขอบขนานหรือรูปใบหอก บิดเวียน ร่วงติดกัน เกสรเพศผู้ส่วนมากมี
                                                                     15-30 อัน ก้านชูอับเรณูสั้น แผ่กว้างช่วงโคน อับเรณูมี 4 ช่อง รูปแถบ แกนอับเรณู
                                                                     ยื่นเลยอับเรณูเล็กน้อยหรือยำวเท่ำ ๆ อับเรณู รังไข่ส่วนมากมีขนสั้นนุ่มจรดโคน
                  ยอพญำไม้: ไม้พุ่มหรือรอเลื้อย ใบขนาดเล็ก ก้านใบสั้น (ภาพ: แม่น�้าสงคราม นครพนม - PK)  ก้านเกสรเพศเมีย ยอดเกสรเพศเมียจักเป็นพูไม่ชัดเจน ผลเปลือกแข็งเมล็ดเดียว กลม

                360






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   360                                                                 3/1/16   6:13 PM
   375   376   377   378   379   380   381   382   383   384   385