Page 397 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 397
ละหุ่งเครือ
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
แรดหนุนหิน สกุล Porana Burm. f. มีหลายชนิดถูกแยกเป็นสกุลอื่น ๆ เช่น Dinetus, Poranopsis,
Loeseneriella pauciflora (DC.) A. C. Sm. และ Tridynamia ปัจจุบันมี 2 ชนิด พบในเอเชียและเม็กซิโกอย่างละ 1 ชนิด ชื่อสกุล
มาจากภาษากรีก “poreno” ท่องเที่ยว หมายถึงเป็นไม้เถาที่เลื้อยไปตามที่ต่าง ๆ
วงศ์ Celastraceae
ชื่อพ้อง Hippocratea pauciflora DC. เอกสารอ้างอิง
Staples, G. (2010). Convolvulaceae. In Flora of Thailand Vol. 10(3): 453-454.
ไม้เถาเนื้อแข็งหรือไม้พุ่มทอดเลื้อย หูใบร่วมรูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ใบเรียง
ตรงข้ามสลับตั้งฉาก รูปรีถึงรูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาว 3.5-16 ซม. ปลายแหลม
หรือแหลมยาว ขอบจักมนหรือเรียบ ก้านใบยาว 3-7 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก
ยาว 1-4 ซม. มีขนสีน�้าตาลแดงหนาแน่น ก้านช่อยาว 1-2 ซม. ใบประดับขนาดเล็ก
ก้านดอกยาว 2-5 มม. กลีบเลี้ยงมี 5 กลีบ รูปสามเหลี่ยมขนาดเล็ก ดอกสีเหลือง
อมเขียว ด้านนอกมีขน มี 5 กลีบ รูปไข่แกมรูปขอบขนาน ยาว 3-5 มม. เกสรเพศผู้
3 อัน ติดที่โคนเกสรเพศเมีย ยาวประมาณ 2 มม. จานฐานดอกกลม รังไข่มี 3 ช่อง
ติดบนจานฐานดอก ผลแห้งแตก มี 3 ฝัก กางออก รูปไข่กลับหรือแกมรูปขอบขนาน
ยาว 2.5-8 ซม. แต่ละฝักมี 5-8 เมล็ด รูปไข่แกมรูปขอบขนาน ยาว 1-2 ซม. โคนมีปีก
ยาว 2-4 ซม.
ลดาวัลย์: ไม้เถา ช่อดอกแบบช่อกระจุกแยกแขนง ดอกรูประฆัง สีขาว (ภาพ: cultivated - RP)
พบในภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย นิวกินี และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยพบ
กระจายห่าง ๆ ทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น หรือบนเขาหินปูน ความสูง ละหุ่ง
ถึงประมาณ 1000 เมตร Ricinus communis L.
วงศ์ Euphorbiaceae
สกุล Loeseneriella A. C. Sm. มี 26 ชนิด พบในแอฟริกาและเอเชีียเขตร้อน
ในไทยมี 3 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน Ludwig Eduard ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 5 ม. แยกเพศร่วมต้น มีต่อมน�้าต้อยกระจายตามขอบหูใบ
Theodor Loesener (1865-1941) โคนก้านใบ โคนแผ่นใบ และโคนใบประดับ หูใบเชื่อมติดกันรูปสามเหลี่ยม ยาวได้ถึง
1.5 ซม. โอบรอบกิ่ง ร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน รูปฝ่ามือ 6-11 แฉก เส้นผ่านศูนย์กลาง
เอกสารอ้างอิง 10-20 ซม. โคนแบบก้นปิด ขอบจักฟันเลื่อยไม่เท่ากัน ปลายจักเป็นต่อม ช่อดอกแบบ
Hou, D., I.A. Savinov and P.C. van Welzen. (2010). Celastraceae. In Flora of ช่อกระจะ หรือแยกแขนงสั้น ๆ ดอกเพศผู้อยู่ช่วงล่าง ดอกเพศเมียอยู่ช่วงบน
Thailand Vol. 10(2): 397-400. ไม่มีกลีบดอกและจานฐานดอก กลีบเลี้ยง 5 กลีบ แยกจรดโคน รูปสามเหลี่ยม
ยาวได้ถึง 1 ซม. ในดอกเพศเมียคล้ายเกล็ด เกสรเพศผู้เชื่อมติดกันเป็นมัด แยก
สองแฉกหลายหน รังไข่ 3 ช่อง แต่ละช่องมีออวุลเม็ดเดียว มีเกล็ดคล้ายหนาม
ก้านเกสร 3 อัน ยาวเท่า ๆ กลีบเลี้ยง ปลายแฉกลึก ติดทน ผลแห้งแตก รูปรี ยาว
ประมาณ 1.5 ซม. จัก 3 พู มีขนคล้ายหนาม เมล็ดผิวมีปื้นสีน�้าตาล จุกขั้วจัก 2 พู
มีถิ่นก�าเนิดในแอฟริกา ปลูกเป็นพืชเศรษฐกิจ เมล็ดให้น�้ามัน castor oil และ
wonder oil ใช้ในอุตสาหกรรมเคลือบเงา ท�าสี เคลือบหนัง หมึกพิมพ์ สบู่ น�้ามัน
หล่อลื่น และมีสรรพคุณแก้พิษต่าง ๆ เมล็ดมีพิษร้ายแรงถึงชีวิต
สกุล Ricinus L. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Acalyphoideae เผ่า Acalypheae มีชนิดเดียว
มีความผันแปรสูงเนื่องจากมีการเพาะปลูกมายาวนานตั้งแต่สมัยอียิปต์โบราณ
ทำาให้มีการจำาแนกเป็นหลายพันธุ์ ชื่อสกุลเป็นภาษาละติน “ricinus” หมัด
ตามลักษณะของเมล็ดที่มีรอยปื้นสีน้ำาตาลคล้ายตัวหมัด
เอกสารอ้างอิง
แรดหนุนหิน: ใบเรียงตรงข้ามสลับฉากตั้งฉาก ดอกสีเหลืองอมเขียว เกสรเพศผู้ 3 อัน ผลมี 3 ฝัก กางออก แห้งแตก van Welzen, P.C. (2007). Euphorbiaceae (Ricinus). In Flora of Thailand Vol. 8(2):
(ภาพซ้าย: เกาะสุรินทร์ พังงา - SSi; ภาพขวา: ภูวัว บึงกาฬ - MT) 517-520.
ลดาวัลย์
Porana volubilis Burm. f.
วงศ์ Convolvulaceae
ไม้เถา กิ่งมีช่องอากาศ ใบเรียงเวียน รูปไข่หรือเกือบกลม ยาว 5-10.5 ซม.
ปลายแหลมยาวหรือยาวคล้ายหาง ปลายมีติ่งแหลม โคนกลม ตัด หรือเว้าตื้น
มักมีขนประปรายตามเส้นแขนงใบด้านล่าง ก้านใบยาว 1-3 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจุก
แยกแขนง ออกตามซอกใบ ยาว 10-25 ซม. ช่อที่ปลายกิ่งสั้น ใบประดับคล้ายใบ
ยาว 2-4.5 ซม. ติดทน ก้านดอกยาว 3-5 มม. ใบประดับย่อย 2 ใบ คล้ายเกล็ด
ละหุ่ง: ใบรูปฝ่ามือ หูใบเชื่อมติดกันรูปสามเหลี่ยม โอบรอบกิ่ง ช่อดอกแบบช่อกระจะ ดอกเพศผู้อยู่ช่วงล่าง ดอกเพศเมีย
กลีบเลี้ยงกลีบนอก 2 กลีบ กลีบใน 3 กลีบ รูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 4-5 มม. อยู่ช่วงบน ผลมี 3 พู ผิวมีขนคล้ายหนาม (ภาพ: cultivated - RP)
ดอกรูประฆัง สีขาว ยาว 7-8 มม. มี 5 กลีบ รูปรีหรือรูปขอบขนาน ด้านนอกมี
ขนประปราย เกสรเพศผู้ 5 อัน ยาว 5-6 มม. อับเรณูไม่เป็นหนาม รังไข่ส่วนมาก ละหุ่งเครือ
มีช่องเดียว ออวุล 4 เม็ด ก้านเกสรเพศเมีย 2 แฉกไม่เท่ากัน เหนือจุดกึ่งกลาง Byttneria andamanensis Kurz
ยอดเกสรจัก 2 พู ผลเป็นกระเปาะ รูปไข่หรือจัก 2-3 พู เส้นผ่านศูนย์กลาง 2-4 มม. วงศ์ Malvaceae
กลีบเลี้ยงเป็นแผ่นบาง พับงอ ยาวประมาณ 1 ซม. ส่วนมากมีเมล็ดเดียว
ไม้เถา กิ่งเกลี้ยง มีริ้ว ใบรูปหัวใจ มี 3-5 พู พูข้างปลายแหลม พูกลางปลาย
เส้นผ่านศูนย์กลาง 1.5-3 มม. แหลมยาวหรือยาวคล้ายหาง โคนรูปหัวใจ ขอบจักซี่ฟันหรือจักฟันเลื่อยสองชั้น
มีถิ่นก�าเนิดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แต่ในไทยไม่พบกระจายพันธุ์ตาม เส้นโคนใบข้างละ 2-3 เส้น ก้านใบยาว 4-13 ซม. ช่อดอกยาวได้ถึง 15 ซม. มีขนกระจุก
ธรรมชาติ เป็นไม้ประดับ ดอกมีกลิ่นหอม ไม่ติดผล กระจาย ก้านดอกยาว 0.3-1 ซม. กลีบเลี้ยงรูปใบหอก ยาวประมาณ 3 มม. มีขน
377
59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd 377 3/1/16 6:13 PM