Page 411 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 411
ว่านน�้าทอง
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
ว่านนางแลว Streptolirion ที่เป็นไม้เถา และวงใบประดับมีกระจายตามข้อทุกข้อที่มีช่อดอก
Polygonatum kingianum Collett & Hemsl. ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “spathe” กาบ และ “leirion” ดอกลิลลี่ หมายถึงพืช
คล้ายพวกลิลลี่ มีใบประดับเป็นกาบ
วงศ์ Asparagaceae
ไม้ล้มลุก ทอดเลื้อย ยาวได้ถึง 3 ม. มีเหง้า ล�าต้นมีนวล ใบเรียงรอบข้อ 3-10 ใบ เอกสารอ้างอิง
Hong, D. and R.A. DeFilipps. (2000). Commelinaceae. In Flora of China Vol. 24: 20.
รูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาว 6-25 ซม. ปลายมีมือพัน ไร้ก้าน ช่อดอกคล้ายช่อซี่ร่ม Larsen, K. and S.S. Larsen. (2003). A new species of Spatholirion (Commelinaceae)
ออกสั้น ๆ ตามซอกใบ มี 1-6 ดอก ห้อยลง ใบประดับขนาดเล็ก ดอกสีขาวหรือชมพู from Thailand and further notes on S. ornatum. Thai Forest Bulletin (Botany)
อมแดง กลีบรวมรูปทรงกระบอก ยาว 1.5-2.5 ซม. ปลายแยกเป็น 6 แฉก รูปสามเหลี่ยม 31: 39-43.
ยาว 3-5 มม. เกสรเพศผู้ 6 อัน ติดด้านในวงกลีบเหนือจุดกึ่งกลาง ก้านชูอับเรณู
ยาว 2-5 มม. อับเรณูยาว 4-6 มม. โคนจัก 2 พู รังไข่มี 3 ช่อง ยาวเท่า ๆ อับเรณู
ก้านเกสรเพศเมียยาว 0.8-1.5 ซม. ยอดเกสรแยก 3 แฉก ผลสด จักเป็นพูตื้น ๆ
เส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.5 ซม. มี 7-12 เมล็ด
พบที่จีนตอนใต้ พม่า เวียดนาม และภาคเหนือของไทยที่แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่
เชียงราย ขึ้นตามเขาหินปูน ความสูง 700-2000 เมตร บางครั้งดอกมีสีเหลือง สารสกัด
จากรากมีสรรพคุณลดไขมันในตับ แก้ไอ
สกุล Polygonatum Mill. เคยอยู่ภายใต้วงศ์ Liliaceae, Ruscaceae หรือ
Convallariaceae ปัจจุบันอยู่วงศ์ย่อย Nolinoideae มีประมาณ 60 ชนิด ส่วนใหญ่ ว่านน�้าค้างดอย: ช่อแยกแขนงแบบช่อวงแถวเดี่ยวสั้น ๆ ช่อที่โคนมีใบประดับเป็นดอกสมบูรณ์เพศ ปลายช่อเป็น
พบบริเวณเขตอบอุ่นทางซีกโลกเหนือแถบเอเชียตะวันออก โดยเฉพาะจีนมีกว่า ดอกเพศผู้ ก้านชูอับเรณูมีขนแบบขนแกะหนาแน่น (ภาพ: ชัยภูมิ - PK)
40 ชนิด ในไทยมี 3 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “polys” มาก และ “gony” ว่านน้ำาทอง
ข้อต่อ ตามลักษณะของเหง้า
Anoectochilus geniculatus Ridl.
เอกสารอ้างอิง วงศ์ Orchidaceae
Jeffrey, C. (1980). The genus Polygonatum (Liliaceae) in eastern Asia. Kew
Bulletin 34(3): 463. กล้วยไม้ดิน เหง้าเจริญด้านข้าง ล�าต้นทอดเลื้อย มีรากตามข้อ ใบเรียงเวียน
Maxwell, J.F. (1998). Botanical notes on the flora of northern Thailand: 6. สีน�้าตาลแกมเขียว เส้นใบสีน�้าตาลแดง ใบรูปรีหรือรูปไข่ ยาว 1.8-7 ซม. แผ่นใบหนา
Natural History Bulletin of the Siam Society 46(2): 149-154. ปลายแหลม มน หรือเป็นติ่ง โคนเบี้ยว ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ยอด ตั้งตรง
Xinqi, C. and M.N. Tamura. (2000). Liliaceae (Polygonatum). In Flora of China สูงได้ถึง 17 ซม. มีขนสั้นนุ่มหรือขนต่อมกระจาย แกนช่อยาวประมาณ 1.8 ซม.
Vol. 24: 223, 228.
มี 1-5 ดอก ใบประดับรูปไข่ ยาว 1-1.5 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ดอกสีขาว ก้านดอกสั้น
กลีบเลี้ยงมีขนสั้นนุ่ม กลีบบนรูปใบหอกแกมรูปไข่ ยาว 1-1.2 ซม. กลีบข้างรูปใบหอก
เบี้ยว ยาวประมาณ 1.1 ซม. กลีบดอกรูปใบหอก เบี้ยว ยาวประมาณ 1.2 ซม.
กลีบปาก ยาว 7-9 มม. มีจุดสีชมพู 2 จุด กลางกลีบจักซี่หวี ปลายกลีบปากจัก
2 พู ยาว 5-7 มม. เดือยชี้ไปด้านหลัง ยาวได้ถึง 1.4 ซม. เส้าเกสรตรง ยาว 6-8 มม.
มีปีกจรดโคนเดือย ก้านดอกรวมรังไข่ ยาวประมาณ 1.5 ซม.
พบที่คาบสมุทรมลายู สุมาตรา และบอร์เนียว ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทาง
ภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ปราจีนบุรี และภาคใต้ที่ตรัง นครศรีธรรมราช ขึ้นตาม
ป่าดิบชื้น ความสูง 600-900 เมตร
ว่านนางแลว: ใบเรียงรอบข้อ ปลายใบมีมือพัน ช่อดอกออกสั้น ๆ ตามซอกใบ กลีบรวมรูปทรงกระบอก ปลายแยก
เป็นแฉกเล็ก ๆ ผลจักเป็นพูตื้น ๆ (ภาพ: ดอยตุง เชียงราย - RP) สกุล Anoectochilus Blume อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Orchidoideae เผ่า Cranichideae
พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลียตอนบน และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทย
ว่านน้ำาค้างดอย มี 6 ชนิด ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “anoiktos” เปิด และ “cheilos” กลีบปาก
Spatholirion calcicola K. Larsen & S. S. Larsen ตามลักษณะกลีบปาก
วงศ์ Commelinaceae เอกสารอ้างอิง
ไม้ล้มลุก ไม่มีล�าต้น รากรูปกระสวย ใบเรียงเวียน รูปรีหรือรูปขอบขนาน ยาว Pedersen, H.Æ. (2011). Orchidaceae (Anoectochilus). In Flora of Thailand Vol.
9-20 ซม. โคนแหลม ตัด หรือเว้าตื้น ก้านใบยาวได้ถึง 25 ซม. โคนเป็นร่องลึก 12(1): 10-20.
ช่อแยกแขนงแบบช่อวงแถวเดี่ยวสั้น ๆ ออกตามซอกกาบ ก้านช่อยาว 5-6 ซม.
มีขนคล้ายขนแกะหนาแน่น ช่อที่โคนมีใบประดับ ดอกสมบูรณ์เพศ ปลายช่อเป็น
ดอกเพศผู้ ใบประดับรูปรีกว้าง ยาว 1.5-2 ซม. ปลายเป็นติ่งแหลม ด้านบนมีขน
สั้นนุ่มหนาแน่น ด้านล่างมีขนประปราย แกนช่อดอกมีขนสั้นนุ่ม ดอกสีขาวหรืออมม่วง
ดอกสมบูรณ์เพศมี 1-2 ดอก กลีบรวม 6 กลีบ เรียง 2 วง รูปขอบขนาน ยาว 0.7-1 ซม.
วงในแคบกว่าเล็กน้อย เกสรเพศผู้ 6 อัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 5 มม. มีขนแบบ
ขนแกะหนาแน่น เกสรเพศเมียรวมรังไข่ยาวประมาณ 1 ซม. รังไข่มี 3 ช่อง ดอกเพศผู้
ขนาดเล็กกว่า กลีบรวมยาว 3-4 มม. รังไข่เป็นหมัน ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 4 มม.
ผลแห้งแตกเป็น 3 ซีก เป็นเหลี่ยม รูปขอบขนาน ยาวประมาณ 2 ซม. มี 4-8 เมล็ด
มีเยื่อหุ้มสีส้ม
พืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคเหนือที่เชียงใหม่ น่าน ล�าปาง และภาคตะวันออก
ที่ชัยภูมิ ขึ้นบนเขาหินปูน ความสูง 350-500 เมตร
สกุล Spatholirion Ridl. มี 6 ชนิด พบที่จีน เวียดนาม และคาบสมุทรมลายู ในไทย ว่านน�้าทอง: ใบสีน�้าตาลแกมเขียว เส้นใบสีน�้าตาลแดง ช่อดอกแบบช่อกระจะ กลีบเลี้ยงมีขนสั้นนุ่ม กลีบปากจักซี่หวี
มี 2 ชนิด อีกชนิด S. ornatum Ridl. พบที่นราธิวาส คล้ายกับสกุลผักปลาบเครือ ปลายจัก 2 พู (ภาพซ้ายและภาพขวาบน: เขาหลวง นครศรีธรรมราช - NT; ภาพขวาล่าง เขาพนมเบญจา กระบี่ - RP)
391
59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd 391 3/1/16 6:17 PM