Page 416 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 416

สตีต้น
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                    เศวตสอดสี                                              พบที่อินเดีย พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ในไทยพบทุกภาค
                    Thunia alba (Lindl.) Rchb. f.                       ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ทุ่งหญ้า และท้องไร่ท้องนา ความสูงถึงประมาณ 400 เมตร
                    วงศ์ Orchidaceae                                      เอกสารอ้างอิง
                      ชื่อพ้อง Phaius albus Lindl.                         Nanakorn, W. (1985). The genus Terminalia (Combretaceae) in Thailand. Thai
                                                                              Forest Bulletin (Botany) 15: 83-85.
                       กล้วยไม้ขึ้นบนพื้นดินหรืออิงอาศัย เหง้าสั้น ล�าต้นกลม หนา ใบเรียงสลับระนาบ
                    เดียว ยาว 15-40 ซม. ใบช่วงล่างสั้น รูปรี รูปไข่ หรือรูปขอบขนาน ใบช่วงบน
                    รูปใบหอกหรือรูปแถบ แผ่นใบด้านล่างมีนวล โคนเรียวยาวเป็นกาบ ช่อดอกแบบ
                    ช่อกระจะออกที่ปลายกิ่ง ห้อยลงเล็กน้อย ยาว 12-15 ซม. แกนช่อยาว 3-6 ซม.
                    มี 5-7 ดอก ใบประดับก้านช่อรูปขอบขนานแกมรูปไข่ ยาว 2.5-3.5 ซม. บนแกนช่อ
                    ยาว 4.5-5.5 ซม. ดอกสีขาว กลีบเลี้ยงคล้ายกลีบดอก รูปใบหอก ยาว 6-8.5 ซม.
                    กลีบดอกเรียวแคบกว่าเล็กน้อย กลีบปากมีปื้นสีเหลือง กลีบรูปรีหรือแกมรูปไข่
                    ยาว 4.5-5.5 ซม. มีแผงขนครุย 5 หรือหลายแผง สีเหลืองอมส้ม ขอบกลีบย่น
                    โคนมีเดือย ยาว 1.5-1.8 ซม. ปลายจัก 2 พู เส้าเกสรยาวประมาณ 2 ซม. ปลายมีปีก
                    กลุ่มเกสรเพศผู้ 4 กลุ่ม แต่ละกลุ่มจัก 2 พู รังไข่รวมก้านดอกยาว 1.5-4.5 ซม.
                    ผลแห้งแตก รูปขอบขนาน ยาว 3.5-4.5 ซม.                  สกุณี: ช่อดอกแบบช่อเชิงลด ออกที่ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ผลมีปีก 2 ปีก (ภาพ: นครนายก - SR)
                       พบที่อินเดีย ภูฏาน เนปาล จีนตอนใต้ พม่า เวียดนาม และคาบสมุทรมลายู ในไทย  สตีต้น, สกุล
                    ส่วนมากพบทางภาคเหนือ กระจายห่าง ๆ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่จันทบุรี และ
                    ภาคใต้ที่สตูล ขึ้นตามป่าดิบเขา ความสูง 1000-1800 เมตร แยกเป็น var. bracteata   Sloanea L.
                    (Roxb.) N. Pearce & P. J. Cribb พบที่อินเดีย เนปาล ภูฏาน พม่า ในไทยพบทาง  วงศ์ Elaeocarpaceae
                    ภาคเหนือที่เชียงใหม่ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลย กลีบปากมีปื้นสีม่วงอมชมพู  ไม้ต้น หูใบขนาดเล็ก ร่วงเร็ว ใบเรียงเวียน ดอกส่วนมากออกเดี่ยว ๆ ตามซอกใบ
                                                                        กลีบดอกและกลีบเลี้ยงจ�านวนอย่างละ 4-5 กลีบ ปลายกลีบดอกมักจักซี่ฟัน
                       สกุล Thunia Rchb. f. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Epidendroideae เผ่า Arethuseae มี
                       4 ชนิด พบเฉพาะในเอเชีย ในไทยมี 3 ชนิด ชื่อสกุลตั้งเป็นเกียรติแก่เจ้าชาย  เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ติดบนจานรองดอก อับเรณูติดที่ฐาน รูปแถบ แกนมี
                                                                        รยางค์แข็ง รังไข่มีขน มี 3-7 ช่อง แต่ละช่องมีออวุลหลายเม็ด ก้านเกสรเพศเมีย
                       แห่งเชโกสโลวะเกีย Franz Anton von Thun und Hohenstein (1786-1873)
                                                                        รูปลิ่มแคบ แยกหรือเชื่อมติดกันที่โคน ยอดเกสรแหลม ผลแห้งแตก ผนังชั้นนอกแข็ง
                      เอกสารอ้างอิง                                     มีหนามยาวหรือสั้น ๆ แตกเป็น 3-5 ส่วน เมล็ดสีด�า มีเยื่อหุ้มประมาณกึ่งหนึ่ง
                       Seidenfaden, G. (1986). Orchid genera in Thailand VI: Thunia Rchb. f. Opera
                          Botanica 89: 10-15.                              สกุล Sloanea มีประมาณ 150 ชนิด พบในอเมริกาเขตร้อน เอเชีย และออสเตรเลีย
                       Suddee, S. (2014). Orchidaceae (Thunia). In Flora of Thailand Vol. 12(2): 654-658.  ในไทยมี 2 ชนิด ชื่อสกุลตั้งตามนักธรรมชาติวิทยาชาวไอร์แลนด์เหนือ Sir
                                                                           Hans Sloane (1660-1753)

                                                                        สตีขน
                                                                        Sloanea tomentosa (Benth.) Rehd. & E. H. Wilson
                                                                          ชื่อพ้อง Echinocarpus tomentosa Benth.
                                                                           ไม้ต้น สูงได้ประมาณ 30 ม. มีขนสั้นสีน�้าตาลแดงตามกิ่ง แผ่นใบด้านล่าง
                                                                        ก้านใบ ก้านดอก กลีบเลี้ยง กลีบดอก และรังไข่ ใบรูปรีหรือรูปไข่ ยาว 11-20 ซม.
                                                                        ปลายกลมหรือเป็นติ่งแหลมสั้น ๆ โคนกลมหรือมน มักเบี้ยวเล็กน้อย ก้านใบยาว
                                                                        2.5-3.5 ซม. ก้านดอกยาว 1-3 ซม. กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปไข่ ยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้
                                                                        ดอกสีเหลืองอ่อน มี 5 กลีบ รูปไข่หรือรูปไข่กลับ สั้นกว่ากลีบเลี้ยง ปลายจักซี่ฟันลึก
                                                                        เกสรเพศผู้ยาวประมาณ 6 มม. รวมรยางค์ ก้านเกสรเพศเมียเกลี้ยงช่วงปลาย ผล
                                                                        เส้นผ่านศูนย์กลาง 4-5 ซม. มีหนามสั้นๆ คล้ายขนหนาแน่น ยาว 1-2 มม. ก้าน
                                                                        ผลยาว 2-3 ซม.
                      เศวตสอดสี: ช่อดอกออกที่ปลายกิ่ง กลีบปากมีแผงขนครุย มีปื้นสีเหลือง (ภาพซ้าย: ภูหินร่องกล้า พิษณุโลก - CK;   พบที่อินเดีย ภูฏาน เนปาล จีนตอนใต้ พม่า เวียดนามตอนบน และภาคเหนือ
                    ภาพขวาบน: ดอยภูคา น่าน - RP); เศวตสอดสี: var. bracteata กลีบปากมีปื้นสีม่วงอมชมพู (ภาพขวาล่าง: ภูหลวง เลย - CK)
                                                                        ของไทยที่ดอยอินทนนท์ และดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ ขึ้นริมล�าธารในป่าดิบแล้ง
                    สกุณี                                               และป่าดิบเขา ความสูง 800-1400 เมตร
                    Terminalia calamansanai (Blanco) Rolfe              สตีต้น
                    วงศ์ Combretaceae
                      ชื่อพ้อง Gimbernatia calamansanai Blanco          Sloanea sigun (Blume) K. Schum.
                                                                          ชื่อพ้อง Echinocarpus sigun Blume
                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 25 ม. เปลือกแตกล่อนเป็นสะเก็ดหรือเป็นร่องตื้น มีขนสั้น
                    นุ่มประปรายตามกิ่งอ่อน ก้านใบ แกนช่อดอก ใบประดับ กลีบเลี้ยงด้านนอก   ไม้ต้น สูงได้ถึง 30 ม. กิ่งเกลี้ยง ใบรูปรี รูปไข่ รูปไข่กลับหรือรูปขอบขนาน
                    จานฐานดอก และผล ใบรูปไข่กลับหรือแกมรูปใบหอก ยาว 6-13 ซม. แผ่นใบ  ยาว 5-22 ซม. ปลายแหลมหรือเป็นติ่งแหลม โคนกลมหรือรูปลิ่ม แผนใบมีขนประปราย
                    ค่อนข้างเหนียว ด้านล่างมีนวลสีน�้าตาลเทา เส้นกลางใบนูนด้านบน เส้นใบย่อย  ตามเส้นแขนงใบด้านล่าง ก้านใบยาว 1-5 ซม. ก้านดอกยาวได้ถึง 6 ซม. กลีบเลี้ยง
                    แบบขั้นบันได ก้านใบยาว 1-4 ซม. มีต่อมนูนหนึ่งคู่เหนือกึ่งกลางก้านใบ ช่อดอก  4 กลีบ รูปไข่ ยาวประมาณกึ่งหนึ่งของกลีบดอก มีขนสั้นนุ่มทั้งสองด้าน ดอกสี
                    แบบช่อเชิงลด ยาว 8-16 ซม. มีกลิ่นเหม็น ใบประดับรูปเส้นด้ายขนาดเล็ก ร่วงเร็ว   เหลืองอ่อน มี 4 กลีบ รูปไข่หรือรูปไข่กลับ ยาวเท่า ๆ เกสรเพศผู้ ปลายจัก แผ่นกลีบ
                    หลอดกลีบเลี้ยงยาว 0.5-0.8 มม. ไม่มีสันตามยาว กลีบยาว 1-1.5 มม. ด้านในมี  มีขนกระจายทั้งสองด้าน เกสรเพศผู้ยาว 5-7 มม. รวมรยางค์ รังไข่รูปไข่ มีขน
                    ขนยาวประปราย ปลายกลีบโค้งเข้า เกสรเพศผู้ยาว 3-4 มม. จานฐานดอกจักเป็นพู   ก้านเกสรเพศเมียเกลี้ยง ผลเส้นผ่านศูนย์กลาง 4-6 ซม. รวมหนามที่ยาว 1-1.5 ซม.
                    ก้านยอดเกสรเพศเมียยาว 3.5-4 มม. มีขน ผลผนังชั้นในแข็ง รูปรีหรือรูปขอบขนาน  ก้านผลยาว 1-7 ซม.
                    แกมสามเหลี่ยม มี 2 ปีก กว้าง 2.5-5 ซม. ยาว 3.5-5 ซม. รวมปีก ด้านล่างมีสัน   พบที่อินเดีย จีนตอนใต้ พม่า กัมพูชา คาบสมุทรมลายู สุมาตรา และชวา ในไทย
                    (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ สมอ, สกุล)                    พบทุกภาค ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ป่าดิบเขา และป่าดิบชื้น ความสูง 450-1500 เมตร


                                                                                                                    397






        59-02-089_293-398_Ency new1-3_J-Coated.indd   397                                                                 3/1/16   6:18 PM
   411   412   413   414   415   416   417   418   419   420   421