Page 435 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 435

ส้านเห็บ
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย















                                                                          ส้านใบเล็ก: ใบขนาดเล็ก ดอกเดี่ยว ๆ ที่ปลายกิ่ง ผลสดไม่แตก (ภาพ: อุบลราชธานี; ภาพดอก - PK, ภาพผล - RP)



                      ส้านเต่า: ใบเรียงเวียน ขอบจักฟันเลื่อยถี่ ดอกรูปแตร ด้านล่างมีปื้นสีเหลือง 2 แนว (ภาพ: ธารโต ยะลา - MP)
                    ส้านใบเล็ก
                    Dillenia ovata Wall. ex Hook. f. & Thomson
                    วงศ์ Dilleniaceae                                     ส้านมลายู: ช่อดอกแบบช่อกระจะ ดอกสีเหลืองนวล มี 9-10 คาร์เพล (ภาพ: แว้ง นราธิวาส - MP)
                       ไม้ต้น ไม่ผลัดใบ สูงได้ถึง 30 ม. ใบรูปรีหรือรูปไข่ ยาว 10-20 ซม. ปลายกลม
                    หรือมน โคนแหลมหรืิอมน ขอบจักซี่ฟันห่าง ๆ เส้นแขนงใบข้างละ 18-25 เส้น ก้านใบ
                    ยาว 3-4.5 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ ที่ปลายกิ่ง ก้านดอกยาวประมาณ 1 ซม. ขยายในผล
                    กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว 2.5-3 ซม. ดอกสีเหลือง กลีบบาง รูปรี ยาวประมาณ 6-7 ซม.
                    เกสรเพศผู้วงนอกยาว 1.5-2 ซม. วงในยาวประมาณ 2.5 ซม. มี 8-12 คาร์เพล
                    ยาว 6-7 มม. ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 2 ซม. ผลสดไม่แตก เส้นผ่านศูนย์กลาง
                    5-6 ซม. รวมกลีบเลี้ยง เมล็ดไม่มีเยื่อหุ้ม (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ ส้าน, สกุล)
                                                                          ส้านหิ่ง: ช่อดอกมี 2-4 ดอก ออกตามกิ่งก่อนผลิใบหรือพร้อมใบ กลีบดอกรูปใบพาย มี 5-8 คาร์เพล (ภาพ: แม่วาง
                       พบที่ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู และสุมาตรา ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตาม  เชียงใหม่ - RP)
                    ป่าเต็งรัง ป่าเบญจพรรณ ป่าดิบแล้ง และป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 1200 เมตร
                                                                        ส้านเห็บ
                    ส้านมลายู                                           Saurauia roxburghii Wall.
                    Dillenia reticulata King                            วงศ์ Actinidiaceae
                       ไม้ต้น ผลัดใบ สูงได้ถึง 40 ม. มีรากค�้ายัน ใบรูปรี รูปขอบขนานหรือรูปไข่กลับ   ไม้พุ่ม อาจสูงได้ถึง 8 ม. มีขนสีน�้าตาลและเกล็ดเล็ก ๆ รูปสามเหลี่ยมประปราย
                    ยาว 15-30 ซม. ปลายกลม เว้าตื้น ๆ โคนมน กลม หรือเว้าตื้น ขอบเรียบหรือจักซี่ฟัน  ตามกิ่งอ่อน ก้านใบ แผ่นใบด้านล่าง และกลีบเลี้ยงด้านนอก ใบเรียงเวียน รูปรี
                    เล็กน้อย เส้นแขนงใบข้างละ 25-35 เส้น ก้านใบยาว 4-10 ซม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ  ถึงรูปขอบขนาน ยาว 15-35 ซม. ปลายแหลม โคนรูปลิ่ม ขอบจักฟันเลื่อยหรือจักมน
                    ออกที่ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงรูปรีกว้าง ยาว 2-2.5 ซม. ดอกสีเหลืองนวล กลีบบาง   ก้านใบยาว 2-7 ซม. ช่อดอกออกเป็นกระจุกสั้น ๆ ตามกิ่ง หรือซอกใบที่หลุดร่วง
                    รูปใบพาย ยาวประมาณ 3.5 ซม. เกสรเพศผู้วงนอกยาวประมาณ 1 ซม. วงในยาว   กลีบเลี้ยงรูปไข่หรือกลม ยาว 3-4 มม. ดอกสีขาวอมชมพู กลีบรูปไข่ ยาว 4-6 มม.
                    5-9 มม. มี 9-10 คาร์เพล ยาวประมาณ 6 มม. ก้านเกสรเพศเมียยาว 5-6 มม.   เกสรเพศผู้จ�านวนมาก ก้านเกสรเพศเมีย 5 อัน เชื่อมติดกันที่โคน ผลกลม เกลี้ยง
                    ผลสดไม่แตก เส้นผ่านศูนย์กลาง 3.5-4.5 ซม. รวมกลีบเลี้ยง แต่ละคาร์เพลมี 1-3 เมล็ด   เส้นผ่านศูนย์กลาง 0.7-1 ซม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ ช้าส้าน, สกุล)
                    เมล็ดมีเยื่อหุ้ม (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ ส้าน, สกุล)     พบที่อินเดียตะวันออก พม่า กัมพูชา และเวียดนาม ในไทยพบทางภาคเหนือ
                       พบที่คาบสมุทรมลายู บอร์เนียว สุมาตรา และภาคใต้ตอนล่างของไทยที่  ภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่จันทบุรี และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี ขึ้นริมล�าธาร
                    นราธิวาส ขึ้นตามป่าดิบชื้น ความสูงระดับต�่า ๆ       ชายป่าดิบแล้งและป่าดิบเขา ความสูงถึงประมาณ 1700 เมตร
                                                                          เอกสารอ้างอิง
                    ส้านหิ่ง                                               Hoogland, R.D. (1989). Actinidiaceae. In Tree Flora of Malaya Vol. 4: 7.
                    Dillenia parviflora Griff.                             Keng, H. (1972). Saurauiaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(2): 111.
                       ไม้ต้น ผลัดใบ สูงได้ถึง 40 ม. ใบรูปไข่กลับหรือแกมรูปขอบขนาน ยาว 15-25 ซม.
                    ปลายกลมหรือมน โคนแหลมหรือมน ขอบจักซี่ฟัน แผ่นใบด้านล่างมีขนสาก
                    เส้นแขนงใบข้างละ 25-35 เส้น ก้านใบยาว 1.5-3.5 ซม. ช่อดอกมี 2-4 ดอก
                    ออกตามกิ่งก่อนผลิใบหรือพร้อมใบ โคนมีใบประดับขนาดเล็กจ�านวนมาก ก้านดอก
                    หนา ยาว 0.5-3 ซม. กลีบเลี้ยงรูปไข่ ยาว 1.2-1.8 ซม. ด้านนอกมีขนสาก ดอกสีเหลือง
                    กลีบบาง รูปใบพาย ยาว 2.5-3.5 ซม. เกสรเพศผู้วงนอกยาว 5-7 มม. โค้งออก
                    วงในยาว 1.2-1.5 ซม. พับงอกลับ มี 5-8 คาร์เพล ยาว 5-6 มม. ก้านเกสรเพศเมีย
                    ยาวประมาณ 7 มม. ผลสดไม่แตก เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 ซม. รวมกลีบเลี้ยง
                    สุกสีส้ม เมล็ดไม่มีเยื่อหุ้ม (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ ส้าน, สกุล)
                       พบที่พม่า ในไทยพบทางภาคเหนือ และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่อุทัยธานี กาญจนบุรี
                    ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ และป่าเต็งรัง ความสูง 250-1100 เมตร
                      เอกสารอ้างอิง
                       Hoogland, R.D. (1949). Dilleniaceae. In Flora Malesiana Vol. 4: 168.  ส้านเห็บ: ใบเรียงเวียน ขอบจักฟันเลื่อย ช่อดอกออกเป็นกระจุกสั้น ๆ ตามกิ่ง เกสรเพศเมีย 5 อัน เชื่อมติดกันที่โคน
                       ________. (1972). Dilleniaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(2): 98-100.  ผลเกลี้ยง (ภาพ: ตาก; ภาพใบและผล - SSi, ภาพดอก - RP)

                                                                                                                    415






        59-02-089_399-488_Ency_new1-3_J-Coated.indd   415                                                                 3/1/16   6:27 PM
   430   431   432   433   434   435   436   437   438   439   440