Page 439 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 439

สารภีป่า
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                                                                        กลีบดอกแฉกลึกประมาณกึ่งหนึ่ง ยาว 2-3.5 ซม. กลีบปากบนขนาดเล็กกว่า
                                                                        ปลายกลีบเว้าตื้น กลีบปากล่างจัก 3 พู ด้านในมีจุดสีเข้ม เกสรเพศผู้ 2 อัน ติดที่
                                                                        โคนหลอดกลีบดอก อับเรณูกางออก รังไข่และก้านเกสรเพศเมียมีขนสั้นนุ่ม
                                                                        ผลแห้งแตก ยาวประมาณ 1 ซม. มี 4 เมล็ด
                                                                           มีถิ่นก�าเนิดในเม็กซิโก เป็นไม้ประดับทั่วไปในเขตร้อน มีหลายสายพันธุ์ บางครั้ง
                                                                        ใบประดับสีเหลืองสดหรือสีเหลืองอมเขียว

                                                                           สกุล Justicia L. มีประมาณ 700 ชนิด พบในเขตร้อนและเขตอบอุ่น ในไทย
                                                                           มีกว่า 20 ชนิด และพบเป็นไม้ประดับหลายชนิด เช่น ตรีชวา J. betonica L.
                                                                           ดอกฟลามิงโก J. carnea Lindl. สันพร้ามอญ J. gendarussa Burm. f. และ
                                                                           ราตรีแดง J. plumbaginifolia J. Jacq. เป็นต้น หลายชนิดมีสรรพคุณด้าน
                                                                           สมุนไพร ชื่อสกุลตั้งตามนักพืชสวนชาวสกอตแลนด์ James Justice (1698-1763)
                      สายน�้าผึ้ง: L. japonica ช่อดอกแบบช่อกระจุก ใบประดับคล้ายใบ ดอกสีขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง รูปปากเปิด   เอกสารอ้างอิง
                    แฉกลึก กลีบบน 4 กลีบ กลีบล่าง 1 กลีบ พับงอกลับ (ภาพ: cultivated - RP)  Halik, K.A. and A. Ghafoor. (1988). Acanthaceae. Flora of Pakistan Vol. 188:
                                                                              41. http://www.efloras.org
                                                                           Hu, J.Q. and T.F. Daniel. (2011). Acanthaceae (Justicia). In Flora of China Vol.
                                                                              19: 449.
                                                                           Staples, G.W. and D.R. Herbst. (2005). A tropical garden flora. Bishop Museum
                                                                              Press, Honolulu, Hawai`i.





                      สายน�้าผึ้ง: L. periclymenum (ภาพ: cultivated - RP)







                                                                          สายรุ้ง: มีขนสั้นนุ่มกระจาย ช่อดอกแบบช่อเชิงลด โค้งเล็กน้อย ใบประดับเรียงซ้อนเหลื่อม ดอกรูปปากเปิด
                                                                        กลีบปากบนขนาดเล็กกว่ากลีบปากล่าง เว้าตื้น กลีบปากล่างจัก 3 พู ด้านในมีจุดสีเข้ม (ภาพ: cultivated - RP)
                                                                        สารภีป่า
                                                                        Anneslea fragrans Wall.
                      สายน�้าผึ้งน้อย: ใบเรียงตรงข้ามหรือรอบข้อ มีใบคล้ายวงใบประดับ กลีบดอกแฉกตื้น ๆ เกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย
                    ยื่นพ้นหลอดกลีบดอกเล็กน้อย (ภาพ: เขาใหญ่ ปราจีนบุรี - SSi)  วงศ์ Pentaphylacaceae
                                                                           ไม้ต้น สูงได้ถึง 15 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่นที่ปลายกิ่ง รูปรี รูปขอบขนาน
                                                                        หรือแกมรูปไข่ ยาว 4-16 ซม. ปลายมนหรือกลม โคนรูปลิ่ม แผ่นใบด้านล่างมักมีนวล
                                                                        และต่อมสีน�้าตาลกระจาย ขอบเรียบหรือจักซี่ฟันช่วงปลายใบ ก้านใบยาว 2-3.5 ซม.
                                                                        ช่อดอกแบบช่อเชิงหลั่น ออกตามซอกใบ ก้านดอกยาว 2-7 ซม. ใบประดับย่อย
                                                                        2 ใบ รูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 4 มม. ติดทน ขอบมีต่อม กลีบเลี้ยงสีน�้าตาล
                                                                        อมแดงเรียงซ้อนเหลื่อม มี 5 กลีบ รูปไข่กว้าง ยาว 1-1.5 ซม. ขยายในผล ดอกสีครีม
                                                                        หรือเหลืองอ่อน ๆ ยาวประมาณ 1.5 ซม. เชื่อมติดกันประมาณ 5 มม. ปลายแยก
                                                                        เป็น 5 กลีบ รูปไข่ ปลายแหลม เกสรเพศผู้จ�านวนมาก เรียง 1-2 วง ยาว 1.2-1.5 ซม.
                                                                        ก้านชูอับเรณูเชื่อมติดกันประมาณ 5 มม. อับเรณูเรียวยาว แกนอับเรณูปลาย
                                                                        มีรยางค์ รังไข่กึ่งใต้วงกลีบ เกลี้ยง มี 2-5 ช่อง พลาเซนตาแบบรอบแกนร่วม
                                                                        ก้านเกสรเพศเมียยาว 1.5-2 ซม. ปลายจัก 2-5 พู ผลรูปรีเกือบกลม ยาว 2-3.5 ซม.
                                                                        ผนังแข็ง แตกตามรอยกลีบเลี้ยง แต่ละช่องมี 2-3 เมล็ด รูปไข่กลับ ยาว 0.7-1.2 ซม.
                                                                        มีเยื่อหุ้มสดสีแดง
                      สายน�้าผึ้งหลวง: ดอกสีขาวครีมเปลี่ยนเป็นสีเหลืองอมส้ม ยาว 9-12 ซม. กลีบบน 4 กลีบ ม้วนงอ กลีบคู่ข้างแฉกลึก
                    กว่ากลีบกลาง เกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียยื่นยาวเท่า ๆ หรือสั้นกว่ากลีบดอกเล็กน้อย (ภาพ: แม่วงก์ ก�าแพงเพชร - RP)  พบที่จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และคาบสมุทรมลายู ในไทยพบมาก
                                                                        ทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พบประปรายทางภาคตะวันตกเฉียงใต้
                    สายรุ้ง                                             และภาคใต้ ขึ้นตามป่าเต็งรัง ป่าสนเขา และป่าดิบเขา ความสูง 100-2000 เมตร
                    Justicia brandegeeana Wassh. & L. B. Sm.            ดอกมีสรรพคุณบ�ารุงหัวใจ ใบและกิ่งใช้แก้ไข้มาลาเรีย
                    วงศ์ Acanthaceae
                      ชื่อพ้อง Beloperone guttata Brandegee                สกุล Anneslea Wall. เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Theaceae ปัจจุบันอยู่วงศ์ย่อย
                                                                           Ternstroemieae มีประมาณ 4 ชนิด พบเฉพาะในเอเชีย ในไทยมีชนิดเดียว
                       ไม้พุ่ม สูงได้ถึง 1.5 ม. กิ่งอ่อนมักเป็นเหลี่ยม มีขนสั้นนุ่มตามกิ่ง ก้านใบ แผ่นใบ  ชื่อสกุลตั้งตามขุนนางชาวไอริช George Annesley (1769-1844) ที่เก็บตัวอย่าง
                    ทั้งสองด้าน ใบประดับ กลีบเลี้ยง และกลีบดอกด้านนอก ใบเรียงตรงข้าม รูปไข่  พรรณไม้ในอินเดีย
                    หรือแกมรูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 8 ซม. โคนเรียวสอบ ก้านใบยาว 1-2 ซม. ช่อดอก
                    แบบช่อเชิงลด ออกตามซอกใบหรือปลายกิ่ง มักโค้งลง ยาวได้ถึง 10 ซม. ใบประดับ  เอกสารอ้างอิง
                    สีน�้าตาลแดง เรียงซ้อนเหลื่อม รูปไข่กว้าง ยาว 1-2.5 ซม. โคนเว้าตื้นมีก้านสั้น ๆ   Keng, H. (1972). Theaceae. In Flora of Thailand Vol. 2(2): 157-158.
                                                                           Min, M. and B. Bartholomew. (2007). Theaceae. In Flora of China Vol. 12: 434.
                    กลีบเลี้ยง 5 กลีบ รูปใบหอก ยาว 5-7 มม. ดอกสีขาวอมชมพูแดง รูปปากเปิด

                                                                                                                    419






        59-02-089_399-488_Ency_new1-3_J-Coated.indd   419                                                                 3/1/16   6:28 PM
   434   435   436   437   438   439   440   441   442   443   444