Page 443 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 443
สิงโตหนวดยาว
สารานุกรมพืชในประเทศไทย
พบในเอเชียใต้ เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ขึ้น ช่อซี่ร่ม แผ่ในแนวรัศมีครึ่งวงกลม ก้านช่อยาวประมาณ 10 ซม. มีประมาณ 10 ดอก
ตามชายฝั่งทะเล และป่าชายหาด ความสูงไม่เกิน 200 เมตร ใบ ผล และเมล็ดมี ใบประดับรูปแถบ ดอกสีส้มอมเหลือง ก้านดอกยาวประมาณ 1 ซม. กลีบเลี้ยงบน
สรรพคุณแก้อาการอาหารเป็นพิษ โดยเฉพาะจากอาหารทะเล รูปไข่ ยาวประมาณ 5 มม. มีเส้นตามขวางสีม่วงแดง กลีบคู่ข้างยาว 1.2-1.5 ซม.
กลีบดอกรูปขอบขนาน ขอบกลีบเชื่อมติดกันตามยาว กลีบปากขนาดเล็ก รูปไข่
สกุล Volkameria L. เคยถูกยุบรวมภายใต้สกุล Clerodendrum ที่ช่อดอกส่วนมาก แกมรูปขอบขนาน ปลายแหลม โค้งลง เส้าเกสรสั้น ปลายมีรยางค์ยื่นยาว ก้านดอก
ออกตามปลายกิ่ง และกลีบเลี้ยงขยายในผล มี 25-30 ชนิด ส่วนมากพบใน และรังไข่คล้ายรูปกรวย โคนก้านสีม่วงแดง
อเมริกาเขตร้อน แอฟริกา และมาดากัสการ์ พบในเอเชียเพียงชนิดเดียว ชื่อสกุล
ตั้งตามนักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน Johann George Volckamer (1662-1744) พบที่ภูมิภาคมาเลเซีย และภาคใต้ของไทยที่เขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช
ขึ้นตามป่าดิบเขา ความสูงถึงประมาณ 1800 เมตร
เอกสารอ้างอิง
Chen, S.L. and M.G. Gilbert. (1994). Verbenaceae (Clerodendrum inerme). In สิงโตพู่ทอง
Flora of China Vol. 17: 42.
Leeratiwong, C., P. Chantaranothai and A. Paton. (2011). A synopsis of the Bulbophyllum ovatum Seidenf.
genus Clerodendrum L. (Lamiaceae) in Thailand. Tropical Natural History
11(2): 177-211. กล้วยไม้อิงอาศัย ล�าลูกกล้วยรูปไข่แกมรูปขอบขนาน เรียงห่าง ๆ กัน ใบรูปไข่
แกมรูปขอบขนาน ยาว 5-6 ซม. ปลายมน โคนเรียวสอบ ช่อดอกออกเป็นกระจุก
ที่ปลายช่อ เรียงในแนวรัศมี โค้งลงเล็กน้อย ช่อยาว 3-4.5 ซม. มี 3-6 ดอก ใบประดับ
รูปแถบ ดอกสีขาวแกมเหลืองหรือสีเหลืองแกมส้ม กลีบเลี้ยงรูปใบหอกแกมรูปไข่
ปลายแหลม ยาวเท่า ๆ กัน ยาว 0.7-1 ซม. กลีบดอกรูปไข่กว้าง ยาว 2.5-3.5 มม.
ปลายแหลม กลีบปากรูปไข่ ยาวประมาณ 1.5 มม. อวบหนา ปลายมนโค้งลง
เส้าเกสรสั้น ปลายมีรยางค์คล้ายเขา ก้านดอกและรังไข่เรียวแคบ สั้น ๆ
พืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคใต้ที่เขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ขึ้นตาม
ส�ามะงา: ใบเรียงตรงข้าม ดอกรูปคล้ายดอกเข็ม หลอดกลีบเรียวแคบ เกสรเพศผู้ ยื่นพ้นปากหลอดกลีบดอก ป่าดิบเขา ความสูง 1300-1500 เมตร
ผลรูปไข่กลับ กลีบเลี้ยงขยายในผล (ภาพ: บางสะพาน ประจวบคีรีขันธ์ - RP)
สิงโต, สกุล สิงโตสยาม
Bulbophyllum Thouars Bulbophyllum lobbii Lindl.
วงศ์ Orchidaceae ชื่อพ้อง Bulbophyllum siamense Rchb. f.
กล้วยไม้อิงอาศัย มีเหง้ายาว ล�าลูกกล้วยมักเรียงแถวเดียว ส่วนมากมีใบเดียว กล้วยไม้อิงอาศัย ล�าลูกกล้วยรูปไข่ ยาว 3-5 ซม. เรียงห่างๆ กัน ใบรูปขอบขนาน
และออกที่ปลายล�าลูกกล้วย ใบพับจีบ ช่อดอกออกที่โคนล�าลูกกล้วยหรือเหง้า หรือรูปใบหอก ยาว 15-20 ซม. ปลายแหลม โคนเรียวสอบ แผ่นใบหนา ช่อดอกออก
ช่อดอกแบบช่อกระจะหรือช่อซี่ร่ม มีหนึ่งหรือหลายดอก ใบประดับขนาดเล็ก ตามข้อของเหง้า มีดอกเดียว ก้านดอกยาวได้ถึง 10 ซม. ดอกสีเหลืองครีม มี
กลีบเลี้ยง 3 กลีบ ขนาดเท่า ๆ กัน หรือกลีบคู่ข้างขนาดใหญ่กว่ากลีบบน กลีบคู่ข้าง เส้นสีม่วงแดงตามยาว กลีบเลี้ยงบนรูปใบหอก ยาวได้ถึง 5 ซม. กลีบคู่ข้างขนาด
แยกหรือเชื่อมติดกัน โคนเชื่อมติดโคนเส้าเกสรเป็นรูปคางสั้น ๆ กลีบดอกแยกกัน เท่า ๆ กลีบบน โคนหยักเว้า ปลายกลีบชี้ลง กลีบดอกกลีบข้างแคบและสั้นกว่า
ส่วนมากมีขนาดเล็กกว่ากลีบเลี้ยง กลีบปากติดที่ปลายโคนเส้าเกสร พับงอกลับ กลีบเลี้ยงเล็กน้อย กางออก กลีบปากสีเหลืองรูปสามเหลี่ยม ยาวประมาณ 1 ซม.
เส้าเกสรมีปีกคล้ายเขา อับเรณูส่วนมากมี 2 ช่อง กลุ่มอับเรณูมี 4 กลุ่ม ไม่มีรยางค์ มีจุดประสีม่วงแดงกระจาย กลีบม้วน ปลายแหลมชี้ลง โคนกลีบมีแต้มสีเหลืองเข้ม
ฝักแห้งแตก เส้าเกสรแผ่กว้าง สีเหลือง มีเส้นสีม่วงแดงตามยาว
พบที่อินเดีย พม่า ภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู สุมาตรา ชวา บอร์เนียว
สกุล Bulbophyllum วงศ์ย่อย Epidendroideae เผ่า Podochileae มีประมาณ และฟิลิปปินส์ ในไทยพบทุกภาค ขึ้นตามคบไม้ในป่าดิบเขาและป่าดิบชื้น ความสูง
1900 ชนิด ส่วนใหญ่พบในเขตร้อน ในไทยมีมากกว่า 165 ชนิด ชื่อสกุลมาจาก ถึงประมาณ 1400 เมตร
ภาษากรีก “bolbos” หัว และ “phyllon” ใบ ตามลักษณะลำาลูกกล้วยที่ช่อดอก
และใบออกจากโคนหรือปลายลำาลูกกล้วย
สิงโตหนวดยาว
สิงโตขยุกขยุย Bulbophyllum vaginatum (Lindl.) Rchb. f.
Bulbophyllum dayanum Rchb. f. ชื่อพ้อง Cirrhopetalum vaginatum Lindl.
กล้วยไม้อิงอาศัย ล�าลูกกล้วยรูปไข่ ใบรูปรี ยาว 4-5 ซม. แผ่นใบหนา ปลาย
กล้วยไม้อิงอาศัย ล�าลูกกล้วยรูปไข่ ยาวประมาณ 3 ซม. เรียงห่าง ๆ ใบรูปไข่ เว้าตื้น โคนมน ช่อดอกยาวได้ถึง 15 ซม. ดอกออกแน่นที่ปลายช่อ ใบประดับรูปใบหอก
ยาวได้ถึง 10 ซม.ปลายแหลมมน เว้าตื้น โคนรูปลิ่ม แผ่นใบหนา สีเขียวอมน�้าตาลม่วง ดอกสีเหลืองอ่อนถึงอมส้ม กลีบเลี้ยงยาว 5-6 ซม. กลีบบนรูปขอบขนานแกมรูปไข่
ช่อดอกสั้น ออกจากเหง้า มี 2-5 ดอก ก้านดอกหนา ยาว 1.5-2 ซม. กลีบเลี้ยง ปลายแหลม กลีบคู่ข้างคล้ายหนวดยื่นยาวกว่า 5 ซม. ขอบมีขน กลีบดอกรูปรีกว้าง
สีเขียวอมน�้าตาลแดงหรือม่วง ขอบมีขนครุยสีเหลือง ยาวประมาณ 5 มม. กลีบเลี้ยง ยาวประมาณ 2 มม. ขอบมีขน กลีบปากรูปไข่ ยาวเท่า ๆ กลีบดอก อวบหนา
ขนาดเท่า ๆ กัน รูปรี ยาวประมาณ 2 ซม. กลีบดอกรูปขอบขนาน แคบและสั้นกว่า ขอบมีขน ปลายมน โค้งลง เส้าเกสรสั้น ปลายมีรยางค์ยาว ก้านดอกและรังไข่รูป
กลีบเลี้ยง สีเข้มกว่า ยาว 0.7-1 ซม. กลีบปากรูปรี ยาวเท่า ๆ กลีบดอก สีอ่อนกว่า ทรงกระบอกโค้ง
ขอบจักซี่ฟันตื้น ๆ มีติ่งที่โคน โค้งงอ แผ่นกลีบมีปุ่มกระจาย มีสันยาว 2 สัน เส้าเกสร
สีเหลือง พบที่คาบสมุทรมลายู สุมาตรา ชวา บอร์เนียว และภาคใต้ของไทยที่ชุมพร
พบที่พม่า และกัมพูชา ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทางภาคเหนือที่พิษณุโลก สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช สตูล และนราธิวาส ขึ้นตามที่โล่งหรือที่มีแสงร�าไร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่เลย ภาคตะวันออกเฉียงใต้ที่ตราด และภาคใต้ที่ระนอง ในป่าดิบชื้น ความสูงถึงประมาณ 600 เมตร
กระบี่ ขึ้นตามคบไม้ในป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ความสูง 500-1300 เมตร เอกสารอ้างอิง
Chen, X. and J.J. Vermeulen. (2009). Orchidaceae (Bulbophyllum). In Flora of
สิงโตพัดสีทอง Seidenfaden, G. (1979). Orchid genera in Thailand VIII. Bulbophyllum Thou.
China Vol. 25: 404.
Bulbophyllum skeatianum Ridl. Dansk Botanisk Arkiv 33(3): 1-228.
Seidenfaden, G., J.J. Wood and R.E. Holttum. (1992). The orchids of peninsular
กล้วยไม้อิงอาศัย ล�าลูกกล้วยรูปหยดน�้า ยาว 1-1.5 ซม. เรียงห่างกันประมาณ Malaysia and Singapore. Fredensborg, Published in association with the Royal
1 ซม. ใบรูปแถบ ยาว 5-6 ซม. ปลายมน โคนเรียวสอบ แผ่นใบบาง ช่อดอกคล้าย Botanic Gardens, Kew & Botanic Gardens, Singapore (by) Olsen & Olsen.
423
59-02-089_399-488_Ency_new1-3_J-Coated.indd 423 3/1/16 6:28 PM