Page 436 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 436

สาบแฮ้ง

                  สาบแฮ้ง            สารานุกรมพืชในประเทศไทย
                  Dichrocephala integrifolia (L. f.) Kuntze
                  วงศ์ Asteraceae
                   ชื่อพ้อง Hippia integrifolia L. f.
                    ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 50 ซม. มีขนสั้นนุ่มหรือขนสากตามล�าต้น กิ่ง และแผ่นใบ
                  ใบเรียงเป็นกระจุกที่โคน เรียงเวียนบนต้น รูปรี รูปไข่ รูปไข่กลับ หรือแกมรูปขอบขนาน
                  ใบช่วงโคนมักจักเป็นพูตื้น ๆ หรือลึก 1-2 คู่ ยาว 1-12 ซม. โคนเรียวสอบ ขอบจัก
                  ฟันเลื่อย ก้านใบยาว 1-3.5 ซม. เป็นปีกแคบ ๆ ใบช่วงปลายกิ่งขนาดเล็ก ก้านสั้น
                  ช่อดอกแบบช่อกระจุกแน่นแยกแขนง ช่อกระจุกเส้นผ่านศูนย์กลาง 3-5 มม.
                  ก้านช่อยาวได้ถึง 3 ซม. ใบประดับเรียง 2 วง รูปขอบขนาน ยาว 1-1.5 มม. ปลายแหลม
                  ขอบจักชายครุย ฐานช่อดอกรูปกลมแป้น ดอกวงนอกเพศเมีย สีขาวเรียงหลายชั้น
                  หลอดกลีบดอกยาวประมาณ 0.5 มม. ปลายจัก 2 พู มีต่อมกระจาย ดอกวงใน
                  สมบูรณ์เพศ สีเขียวอมเหลือง หลอดกลีบสั้น ปลายแยกเป็น 4 แฉก เรียวแคบ
                                                                        สามพันปี: ใบอ่อนขนาดเล็กคล้ายเข็ม ใบช่วงปลายลดรูปคล้ายเกล็ด โคนเพศผู้ออกเดี่ยว ๆ โคนเมล็ดมีกาบประดับ
                  มีต่อมกระจาย ผลแห้งเมล็ดล่อน รูปขอบขนาน โคนเรียวแคบ ขอบเป็นสัน ยาวประมาณ   เจริญอวบน�้า หุ้มเมล็ดไม่เกินกึ่งหนึ่ง (ภาพใบและโคนเพศผู้: เขาใหญ่ ปราจีนบุรี - RP; ภาพโคนเมล็ด: ภูหลวง เลย - TP)
                  1 มม. มีต่อมกระจาย ไม่มีแพปพัสหรือมีขนแข็งสั้น ๆ 1-3 อัน
                    พบในแอฟริกา เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยพบกระจาย  สามยอด, สกุล
                  แทบทุกภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ ขึ้นตามป่าดิบเขา ชายป่า   Canscora Lam.
                  หรือทุ่งหญ้า ความสูง 500-2500 เมตร มีสรรพคุณแก้ไข้ แก้อักเสบ แก้อาเจียน  วงศ์ Gentianaceae

                    สกุล Dichrocephala L’Hér. ex DC. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Asteroideae เผ่า Astereae   ไม้ล้มลุก ล�าต้นมักเป็นเหลี่ยม ใบเรียงตรงข้าม ช่อดอกแบบช่อกระจุก ออกตาม
                    มีประมาณ 4 ชนิด พบในแอฟริกา มาดากัสการ์ เอเชีย ออสเตรเลีย และหมู่เกาะ  ซอกใบใกล้ปลายกิ่ง กลีบเลี้ยงเชื่อมติดกันเป็นหลอด มี 4 กลีบ ดอกรูปแตร มี 4 กลีบ
                    แปซิฟิก ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “dichroos” สองสี และ “kephale” ช่อกระจุกแน่น   กลีบเล็ก 2 กลีบ กลีบใหญ่ 2 กลีบ เกสรเพศผู้ 4 อัน 2 อัน ติดบนหลอดกลีบ
                    ตามลักษณะของช่อกระจุกแน่นที่ดอกมีสองสี            ด้านกลีบดอกขนาดเล็ก อีก 2 อัน ติดบนด้านกลีบดอกที่ใหญ่กว่า ต�่ากว่าเล็กน้อย
                                                                      มี 2 คาร์เพล พลาเซนตาตามแนวตะเข็บ เกสรเพศเมียรูปเส้นด้าย ยอดเกสรจัก
                   เอกสารอ้างอิง                                      2 พู ผลแห้งแตกตามแนวประสาน เมล็ดจ�านวนมาก
                    Chen, Y. and L. Brouillet. (2011). Asteraceae (Dichrocephala). In Flora of China
                       Vol. 20-21: 550-551.                             สกุล Canscora มี 9 ชนิด พบในแอฟริกา เอเชียเขตร้อน และออสเตรเลีย
                                                                        ในไทยมี 2 ชนิด อีกชนิดคือ ผักปังแป C. diffusa (Vahl) R. Br. ex Roem. &
                                                                        Schult. หลายชนิดถูกย้ายไปอยู่สกุล Phyllocyclus, Cracosna และ Schinziella
                                                                        ชื่อสกุลมาจากภาษามาลายาลัม ในอินเดีย “Cansjan-cora” ที่ใช้เรียกชนิด C.
                                                                        perfoliata Lam.

                                                                      สามยอด
                                                                      Canscora andrographioides Griff. ex C. B. Clarke
                                                                        ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 80 ซม. ใบรูปรีถึงรูปใบหอก ยาว 2-6 ซม. ปลายแหลม
                                                                      โคนรูปลิ่ม เส้นโคนใบข้างละ 1 เส้น ก้านใบยาวได้ถึง 1 ซม. ช่อกระจุก มี 1-7 ดอก
                   สาบแฮ้ง: ใบช่วงปลายกิ่งขนาดเล็ก ช่อกระจุกแน่นแยกแขนง ดอกวงนอกสีขาว ดอกวงในสีเขียวอมเหลือง    ใบประดับรูปใบหอกหรือรูปแถบ ยาวได้ถึง 2 ซม. ดอกไร้ก้านหรือมีก้านยาวได้ถึง
                  (ภาพ: ดอยอินทนนท์ เชียงใหม่ - RP)
                                                                      2 ซม. หลอดกลีบเลี้ยงยาวประมาณ 1 ซม. มี 8 สัน กลีบเป็นติ่งแหลม ยาว 1-2 มม.
                  สามพันปี                                            ดอกสีขาว หลอดกลีบดอกยาว 1-1.5 ซม. กลีบใหญ่ 2 กลีบ รูปรีกว้าง ยาว 4-7.5 มม.
                  Dacrydium elatum (Roxb.) Wall. ex Hook.             กลีบเล็ก 2 กลีบ รูปรีแคบ ติดกัน ยาว 3-4.5 มม. ก้านชูอับเรณูยาวประมาณ 1 มม.
                                                                      รังไข่รูปรี ยาว 0.5-1 ซม. ก้านเกสรเพศเมียยาวประมาณ 1 ซม. ผลรูปทรงกระบอก
                  วงศ์ Podocarpaceae                                  มีริ้วเป็นสัน ยาวประมาณ 1 ซม.
                   ชื่อพ้อง Juniperus elata Roxb.
                                                                        พบในเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทุกภาค
                    ไม้ต้น สูงได้ถึง 40 ม. แยกเพศต่างต้น กิ่งมักลู่ลง เปลือกสีน�้าตาลลอกเป็นแผ่น   ขึ้นตามป่าดิบชื้น และป่าดิบเขา ความสูงถึงประมาณ 2300 เมตร
                  ใบอ่อนขนาดเล็กคล้ายเข็มเรียงขนานกับกิ่ง โค้งเล็กน้อย มีสัน ใบยาว 1-1.5 ซม.
                  ช่วงปลายสั้นและลดรูปคล้ายเกล็ดรูปสามเหลี่ยมเรียงซ้อนกัน ยาว 1-1.5 มม.   เอกสารอ้างอิง
                  โคนเพศผู้ (pollen cone) ออกเดี่ยว ๆ รูปทรงกระบอก ยาว 4-8 มม. ไร้ก้าน   Thiv, M. (2003). A taxonomic revison of Canscora, Cracosna, Duplipetala,
                  โคนเพศเมียหรือโคนเมล็ด (seed cone) ออกที่ปลายกิ่ง มีกาบประดับ (mega-  Hoppea, Microrphium, Phyllocyclus and Schinziella (Gentianaceae-Canscorinae).
                                                                           Blumea 48: 5-19.
                  sporophylls) จ�านวนมาก ยาวประมาณ 1 มม. มีอันเดียวหรือหลายอันที่เจริญ  Ubolcholaket, A. (1987). Gentianaceae. In Flora of Thailand. Vol. 5(1): 72-92.
                  อวบน�้า สีน�้าตาลแดง รูปถ้วย หุ้มเมล็ดไม่เกินกึ่งหนึ่ง ยาว 1.5-2 มม. มีเมล็ดเดียว
                  ในแต่ละกาบ รูปไข่ ยาวประมาณ 5 มม. เมล็ดแก่สีน�้าตาลด�า
                    พบในภูมิภาคอินโดจีน คาบสมุทรมลายู สุมาตรา บอร์เนียว ในไทยพบกระจาย
                  ห่าง ๆ ทุกภาค ขึ้นตามสันเขาในป่าดิบเขา ความสูง 1000-1500 เมตร

                    สกุล Dacrydium Lamb. มีประมาณ 25 ชนิด พบในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
                    หมู่เกาะแปซิฟิก นิวซีแลนด์ และทางใต้ของชิลี ในไทยมีชนิดเดียว ชื่อสกุลมาจาก
                    ภาษากรีก “dakra” น้ำาตา หมายถึงลักษณะชันหรือยางสนที่ไหลออกจากลำาต้น
                   เอกสารอ้างอิง
                    de Laubenfels, D.J. (1988). Coniferales. In Flora Malesiana Vol. 10: 374-384.  สามยอด: ช่อดอกแบบช่อกระจุก ตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ดอกรูปแตร กลีบใหญ่ 2 กลีบ กลีบเล็ก 2 กลีบ ติดกัน
                    Phengklai, C. (1975). Podocarpaceae. Flora of Thailand Vol. 2(3): 197-198.  ผลรูปทรงกระบอก มีริ้วเป็นสัน (ภาพ: เขาใหญ่ ปราจีนบุรี - RP)

                  416






         59-02-089_399-488_Ency_new5-3 i_Coated.indd   416                                                                 3/5/16   5:01 PM
   431   432   433   434   435   436   437   438   439   440   441