Page 489 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 489

เหยื่อเลียงผา
                                                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย

                    เหมือดขน, สกุล                                      ประมาณ 1 ซม. ปลายมีติ่งแหลม คู่ในขนาดเล็ก รูปแถบ กลีบปากเป็นถุง กว้างและ
                    Aporosa Blume                                       ลึกประมาณ 2 ซม. เดือยยาวประมาณ 1.5 ซม. ปลายม้วนงอ มีสีเข้ม กลีบดอก
                                                                        กลีบกลางรูปรีกว้าง ยาวประมาณ 1.5 ซม. ปลายกลีบเว้าตื้น กลีบปีกยาวได้ถึง 3 ซม.
                    วงศ์ Phyllanthaceae                                 กลีบคู่นอกรูปขอบขนาน กลีบคู่ในรูปกลม ผลรูปกระบอง ยาวประมาณ 2 ซม.
                       ไม้พุ่มหรือไม้ต้น แยกเพศต่างต้น หูใบร่วงเร็วหรือติดทน ใบเรียงเวียน มักมีต่อม  (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ เทียน, สกุล)
                    ตามขอบใบและมีต่อม 2 ต่อมที่โคนใบ ปลายและโคนก้านใบพอง ช่อดอกแบบ  พบที่คาบสมุทรมลายูตอนบน และภาคใต้ของไทยที่นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี
                    ช่อกระจุกแยกแขนงสั้น ๆ คล้ายช่อเชิงลด ออกตามซอกใบหรือตามกิ่ง ดอกเพศผู้  กระบี่ ตรัง สตูล ขึ้นกระจายห่าง ๆ บนเขาหินปูน ความสูงถึงประมาณ 100 เมตร
                    ออกเป็นกระจุก ดอกเพศเมียเรียงเวียน ใบประดับมีใบเดียว ดอกขนาดเล็ก กลีบเลี้ยง
                    3-6 กลีบ ไม่มีกลีบดอกและจานฐานดอก เกสรเพศผู้ 2-4 อัน รังไข่มี 2 หรือ 3 ช่อง
                    แต่ละช่องมีออวุล 2 เม็ด ไร้ก้านเกสรเพศเมีย ยอดเกสรจักเป็นพูหรือแยกจรดโคน   เหยื่อกุรัมน้อย
                    ผลแยกแล้วแตก เมล็ดมีเยื่อหุ้ม                       Impatiens adenioides Suksathan & Keerat.
                                                                           ไม้ล้มลุก ล�าต้นอวบน�้า สูงได้ถึง 1 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่นที่ปลายยอด รูปรี
                       สกุล Aporosa เดิมอยู่ภายใต้วงศ์ Euphorbiaceae ปัจจุบันอยู่เผ่า Antidesmeae   ถึงรูปใบหอก หรือแกมรูปไข่ ยาว 6-12 ซม. ปลายแหลม โคนสอบเรียว แผ่นใบหนา
                       มี 82 ชนิด พบที่อินเดีย ศรีลังกา จีนตอนใต้ พม่า ภูมิภาคอินโดจีนและมาเลเซีย   ขอบจักฟันเลื่อย ก้านใบยาว 1-5 ซม. ช่อดอกออกตามซอกใบใกล้ปลายกิ่ง ยาวได้ถึง
                       ถึงหมู่เกาะแปซิฟิก ในไทยมี 20 ชนิด หลายชนิดมีลักษณะคล้ายกันมาก เช่น   15 ซม. บางครั้งแตกช่อย่อย ก้านดอกยาว 0.5-1.5 ซม. ใบประดับรูปไข่กว้าง ยาว
                       นวลเสี้ยน A. octandra (Buch.-Ham. ex D. Don) Vickery เหมือดโลด A. villosa   4-5 มม. ร่วงช้า ดอกสีเหลือง กลีบเลี้ยง 4 กลีบ คู่นอกรูปไข่กว้าง ยาว 6-8 มม.
                       (Lindl.) Baill., A. wallichii Hook. f. และ A. yunnanensis (Pax & K. Hoffm.)   ปลายมีติ่งแหลม คู่ในรูปแถบ ยาว 2-4 มม. กลีบปากเป็นถุง กว้างและยาวประมาณ
                       F. P. Metcalf ชื่อสกุลมาจากภาษากรีก “aporia” ยาก หมายถึงสกุลที่ยากใน  1 ซม. เดือยยาว 1-1.5 ซม. ปลายม้วนงอ กลีบดอกกลีบกลางรูปไข่กว้าง ยาวประมาณ
                       การจัดจำาแนก                                     1 ซม. มีสันเรียวจรดโคน กลีบปีกยาว 1.2-2 ซม. ติดกัน กลีบคู่นอกยาวกว่ากลีบคู่ใน
                                                                        ปลายแฉกลึก ผลรูปกระบอง เกลี้ยง ยาวประมาณ 2 ซม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ เทียน, สกุล)
                    เหมือดขน
                                                                           พบที่คาบสมุทรมลายู และภาคใต้ของไทยที่ชุมพร พัทลุง ขึ้นบนเขาหินปูน
                    Aporosa ficifolia Baill.                            ความสูงระดับต�่า ๆ ลักษณะทั่วไปคล้ายกับ เหยื่อกุรัม I. mirabilis Hook. f. แต่
                       ไม้ต้น สูงได้ถึง 10 ม. มีขนหยาบยาวตามกิ่งอ่อน หูใบด้านนอก เส้นแขนงใบ  ดอกมีขนาดเล็กกว่า ใบเรียวแคบกว่า
                    ทั้งสองด้าน ก้านใบ และช่อดอก หูใบรูปไข่ ยาวได้ถึง 1 ซม. ร่วงเร็ว ใบรูปรีหรือ
                    รูปไข่กลับ ยาว 8-25 ซม. ขอบเรียบ ก้านใบยาว 0.5-2.5 ซม. ปลายแหลมหรือ  เหยื่อเลียงผา
                    แหลมยาว โคนแหลมถึงกลม มีต่อมประปราย หยิกย่นตามเส้นใบ ช่อดอกออกตาม  Impatiens kerriae Craib
                    ซอกใบ ช่อดอกออกเป็นกระจุก 1-2 ช่อ ไร้ก้านช่อ ใบประดับรูปสามเหลี่ยม ขนาดเล็ก
                    ช่อดอกเพศผู้ยาว 1.5-2.5 ซม. ดอกออกเป็นกระจุก 6-7 ดอก ก้านดอกยาว 0.3-1 มม.   ไม้ล้มลุก ล�าต้นอวบน�้า แตกกิ่งหนาแน่น สูงได้ถึง 1 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่น
                    กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ รูปไข่กลับ สั้นกว่าใบประดับ เกสรเพศผู้ 2-3 อัน ยาว 1-1.5 มม.   ที่ปลายยอด รูปใบหอกแกมรูปไข่ ยาว 6-11 ซม. ปลายแหลมยาว โคนรูปลิ่มหรือ
                    ช่อดอกเพศเมียยาว 4-7 มม. มีได้ถึง 5 ดอก ดอกไร้ก้าน กลีบเลี้ยง 4-5 กลีบ รูปไข่   รูปลิ่มกว้าง แผ่นใบหนา ขอบจักฟันเลื่อย ปลายมีต่อม โคนใบมีต่อม 1 คู่ ก้านใบ
                    ยาว 1.5-2.2 มม. รังไข่มี 2 ช่อง มีขนสั้นนุ่ม ยอดเกสรเพศเมียยาว 1-1.5 มม.   ยาว 1-3 ซม. ดอกออกเดี่ยว ๆ หรือเป็นคู่ตามซอกใบ ใบประดับรูปแถบ ยาวประมาณ
                    แยก 2 แฉก ลึกประมาณกึ่งหนึ่ง ผลเส้นผ่านศูนย์กลาง 1-1.3 ซม. มีขนหนาแน่น   5 มม. ก้านดอกยาว 4-10 ซม. ดอกสีเหลืองอ่อน สีครีม หรืออมชมพู โคนด้านใน
                    เมล็ดรูปรี ยาวประมาณ 7.5 มม. เยื่อหุ้มสีส้ม         กลีบล่างมีปื้นเป็นริ้วสีเหลืองหรือแดง กลีบเลี้ยงคู่นอกรูปไข่กว้าง ยาว 1.5-2 ซม.
                       พบที่กัมพูชา และเวียดนาม ในไทยพบทางภาคตะวันออกที่สุรินทร์ ศรีสะเกษ   ปลายมีติ่งแหลม คู่ในฝ่อ กลีบปากเป็นถุงกว้าง กว้าง 2-2.5 ซม. เดือยรูปตะขอ
                                                                        ยาวประมาณ 5 มม. แยก 2 พู กลีบกลางรูปรีแกมรูปไข่กลับ ยาว 1.5-2 ซม.
                    อุบลราชธานี ขึ้นตามป่าดิบแล้ง ความสูง 200-350 เมตร   ปลายเว้าตื้น กลีบปีกคู่นอกและคู่ในยาวเท่า ๆ กัน ยาวได้ถึง 3.5 ซม. ผลรูปกระสวย
                      เอกสารอ้างอิง                                     เต่งกลาง ยาวได้ถึง 3 ซม. เมล็ดมีขนละเอียด (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ เทียน, สกุล)
                       Schot, A.M. and P.C. van Welzen. (2005). Euphorbiaceae (Aporosa). In Flora   พืชถิ่นเดียวของไทย พบทางภาคเหนือที่ดอยเชียงดาว และดอยอ่างขาง
                          of Thailand Vol. 8(1): 81-105.                จังหวัดเชียงใหม่ และที่ดอยตุง จังหวัดเชียงราย ขึ้นตามที่โล่งเขาหินปูน ความสูง
                                                                        1300-2200 เมตร

                                                                          เอกสารอ้างอิง
                                                                           Shimizu, T. (1970). Contribution to the Flora of Southeast Asia. II. Impatiens of
                                                                              Thailand and Malaya. The Southeast Asian Studies Vol. 8: 203, 216-217.
                                                                           Suksathan, P. and P. Triboun. (2009). Ten new species of Impatiens (Balsami-
                                                                              naceae) from Thailand. Gardens’ Bulletin Singapore 61(1): 160.




                      เหมือดขน: มีขนหยาบยาวกระจาย หูใบรูปไข่ ขอบใบเรียบ หยิกย่นตามเส้นใบ ผลกลม มีขนหนาแน่น เมล็ดรูปรี
                    เยื่อหุ้มสีส้ม (ภาพ: อุบลราชธานี; ภาพหูใบ - RP, ภาพผล - PK)
                    เหยื่อกุรัม
                    Impatiens mirabilis Hook. f.
                    วงศ์ Balsaminaceae
                       ไม้ล้มลุก ล�าต้นอวบน�้า สูงได้ถึง 3 ม. ใบเรียงเวียนหนาแน่นที่ยอด รูปไข่หรือ
                    รูปไข่กลับ ยาว 6-25 ซม. ปลายแหลมยาว โคนรูปลิ่ม ขอบจักมน แผ่นใบหนา
                    ก้านใบยาวได้ถึง 15 ซม. ช่อดอกออกตามซอกใบ ยาวได้ถึง 40 ซม. แตกแขนง
                    คล้ายช่อซี่ร่ม ก้านดอกยาว 1-2 ซม. ใบประดับรูปรีกว้าง ยาวประมาณ 5 มม.
                    ปลายมีติ่งแหลม ร่วงช้า ดอกสีเหลือง หรือชมพู มีจุดสีน�้าตาลแดงหรือชมพูตาม  เหยื่อกุรัม: ล�าต้นอวบน�้าขนาดใหญ่ ดอกสีเหลือง หรือชมพู มีจุดสีน�้าตาลแดงหรือชมพูตามกลีบปากจรดเดือยและ
                    กลีบปากจรดเดือยและกลีบดอกด้านใน กลีบเลี้ยง 4 กลีบ คู่นอกรูปไข่กว้าง ยาว  กลีบดอกด้านใน เดือยม้วนงอ (ภาพซ้ายและภาพขวาบน: เขาปู่เขาย่า พัทลุง - SSi; ภาพขวาล่าง: cultivated - RP)


                                                                                                                    469






        59-02-089_399-488_Ency_new1-3_J-Coated.indd   469                                                                 3/1/16   6:32 PM
   484   485   486   487   488   489   490   491   492   493   494