Page 501 - สารานุกรมพืช ในประเทศไทย (ฉบับย่อ) เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ E-BOOK โดย พระครูโสภณวีรานุวัตร, ดร. วัดป่า สุพรรณบุรี.
P. 501

เอื้องคีรีวง                                                   สารานุกรมพืชในประเทศไทย  เอื้องดิน
                    Didymoplexiopsis khiriwongensis Seidenf.
                    วงศ์ Orchidaceae
                      ชื่อพ้อง Didymoplexiella hainanensis X. H. Jin & S. C. Chen
                       กล้วยไม้ดินกินซากอาศัยอาหารจากเชื้อรา หัวใต้ดินรูปกระสวยขนาดเล็ก
                    ล�าต้นตั้งตรง สูง 10-25 ซม. เกลี้ยง ไม่มีใบ มีกาบคล้ายเกล็ด 3-5 กาบ รูปไข่
                    ยาว 1-2 มม. ช่อดอกแบบช่อกระจะ ออกที่ยอด แกนช่อยาว 0.5-1 ซม. มี 3-10 ดอก
                    ดอกบานทีละดอก ใบประดับรูปสามเหลี่ยมแคบ ยาว 0.5-1.5 มม. ติดทน ดอกสีขาว
                    หรืออมเหลือง กลีบเลี้ยงและกลีบดอกรูปไข่ ยาว 3-6 มม. กลีบเลี้ยงปลายมน
                    กลีบดอกปลายแหลม เชื่อมติดกันที่โคน กลีบเลี้ยงคู่ข้างเชื่อมติดกันประมาณ
                    หนึ่งในสาม แนบติดโคนเส้าเกสร กลีบปากรูปลิ่มกว้าง กว้าง 1-1.2 ซม. ยาว 5-6 มม.
                    เชื่อมติดโคนเส้าเกสรเป็นข้อ ปลายจัก 3 พู พูกลางสั้นกว่าพูข้าง ขอบเป็นคลื่น
                    จานฐานดอกมีตุ่มที่โคนและปลาย โคนเส้าเกสรยาว 4-5 มม. เส้าเกสรยาวประมาณ   เอื้องชมพูไพร: มีขนสั้นนุ่มตามช่อดอก ดอก และก้านดอกรวมรังไข่ ช่อดอกแบบช่อกระจะ ใบประดับติดทน กลีบเลี้ยง
                    2 มม. ปลายบานออก มีปีกแคบ ๆ ปลายปีกข้างยอดเกสรเพศเมียแผ่เป็นรยางค์   คล้ายกลีบดอก กลีบปากมีสีเข้ม (ภาพ: ทองผาภูมิ กาญจนบุรี - RP)
                    ยาว 2.5-3 มม. คางโค้งพับลง ยาว 4-5 มม. มีจุดสีแดง ก้านดอกและรังไข่ ยาว   เอื้องดิน
                    0.5-1.2 ซม.
                                                                        Cheilocostus globosus (Blume) C. D. Specht
                       พบที่ไห่หนาน และเวียดนาม ในไทยพบกระจายห่าง ๆ ทางภาคตะวันตกเฉียงใต้  วงศ์ Costaceae
                    ที่เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และภาคใต้ที่นครศรีธรรมราช สตูล ขึ้นตามป่าดิบแล้ง   ชื่อพ้อง Costus globosus Blume
                    และป่าดิบชื้น ความสูง 700-1100 เมตร
                                                                           ไม้ล้มลุก สูงได้ถึง 3 ม. ใบรูปขอบขนาน ยาวได้ถึง 30 ซม. ปลายและโคนแหลม
                       สกุล Didymoplexiopsis Seidenf. อยู่ภายใต้วงศ์ย่อย Epidendroideae เผ่า   กาบใบสั้นเป็นหลอดติดล�าต้น ช่อดอกออกจากเหง้าที่ไม่มีใบ ก้านช่อสั้น หรือยาว
                       Gastrodieae มีชนิดเดียว ชื่อสกุลหมายถึงคล้ายกับกล้วยไม้สกุล Didymoplexis   ได้ถึง 20 ซม. มีขนสั้นนุ่ม ใบประดับสีแดง เรียงซ้อนเหลื่อมเป็นกระจุกกลม
                       ซึ่งปลายเส้าเกสรไม่มีแผ่นรยางค์ (stelids)        เส้นผ่านศูนย์กลาง 5-9 ซม. ใบประดับรูปรี ยาว 2-3.5 ซม. ปลายกลมมีติ่งแหลม
                                                                        คล้ายหนาม ยาว 2-3 มม. ด้านนอกมีขนแข็ง ใบประดับย่อยยาวเท่า ๆ ใบประดับ
                      เอกสารอ้างอิง                                     โอบรอบรังไข่ หลอดกลีบเลี้ยงสีแดง ยาว 3-4 ซม. มีขนสั้นนุ่ม กลีบยาว 6-8 มม.
                       Suddee, S. (2014). Orchidaceae (Didymoplexiopsis). In Flora of Thailand Vol.
                          12(2): 483-484.                               ปลายมีติ่งหนาม หลอดกลีบดอกสั้น กลีบรูปรี ยาวประมาณ 3.5 ซม. สีชมพูหรือแดง
                                                                        ปลายแผ่นก้านชูอับเรณูพับงอกลับ กลีบปากสีส้ม แดง หรือเหลือง ขอบด้านในมีขน
                                                                        รังไข่มีขนสั้นนุ่ม ผลมีใบประดับหุ้ม (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ เอื้องหมายนา, สกุล)
                                                                           พบที่คาบสมุทรมลายู สุมาตรา ชวา และภาคใต้ตอนล่างของไทยที่ยะลา และสตูล
                                                                        การจ�าแนกชื่อยังไม่ชัดเจน รวมถึงเอื้องดินเหนือ Costus tonkinensis Gagnep.
                                                                        ดอกสีเหลือง โคนด้านในกลีบปากมีปื้นสีแดง พบทางภาคเหนือ ในที่นี้ยังคงให้อยู่ภายใต้
                                                                        สกุล Costus เนื่องจากยังไม่ได้ถูกยุบรวมอย่างเป็นทางการภายใต้สกุล Cheilocostus
                                                                          เอกสารอ้างอิง
                                                                           Larsen, K. (2008). Costaceae. In Flora of Thailand Vol. 9(2): 102-104.

                      เอื้องคีรีวง: กล้วยไม้ดิน ไม่มีใบ มีกาบคล้ายเกล็ด ช่อดอกแบบช่อกระจะ แกนช่อสั้น ดอกบานทีละดอก กลีบเลี้ยงคู่ข้าง
                    เชื่อมติดกันประมาณหนึ่งในสาม กลีบปากรูปลิ่มกว้าง โคนเส้าเกสรยาว (ภาพ: เขาหลวง นครศรีธรรมราช - SSi)
                    เอื้องชมพูไพร
                    Calanthe rosea (Lindl.) Benth.
                    วงศ์ Orchidaceae
                      ชื่อพ้อง Limatodis rosea Lindl.
                       กล้วยไม้ดิน แตกกอ สูง 20-65 ซม. มีขนสั้นนุ่มตามช่อดอก ดอก และก้านดอก
                    รวมรังไข่ ล�าลูกกล้วยรูปไข่ แกมรูปขอบขนานหรือรูปใบหอก ยาว 3-14 ซม. มีราก
                    หนาแน่น มี 1-4 ใบ รูปขอบขนาน ยาว 20-40 ซม. ก้านใบยาว 3.5-6 ซม. ใบแห้ง
                    ช่วงออกดอก ก้านช่อดอกยาว 15-45 ซม. แกนช่อยาว 10-20 ซม. ใบประดับ
                    รูปไข่แกมรูปใบหอก ยาว 1-3.5 ซม. ติดทน ดอกสีชมพู กลีบปากมีสีเข้ม กลีบเลี้ยง
                    รูปใบหอก ยาว 2-3 ซม. ปลายแหลม กลีบดอกคล้ายกลีบเลี้ยง กลีบปากโคน
                    ติดกลีบดอกคู่ข้าง ห่อคล้ายเป็นหลอด หุ้มเส้าเกสร ปลายบานออกรูปรีกว้างคล้าย  เอื้องดิน: ใบรูปขอบขนาน ช่อดอกออกจากเหง้าที่ไม่มีใบ ใบประดับสีแดง เรียงซ้อนเหลื่อมเป็นกระจุกกลม กลีบปาก
                    สี่เหลี่ยม ยาว 2-2.5 ซม. ปลายเว้าตื้น ๆ โคนมีเดือยเรียว ยาว 1-1.6 ซม. เส้าเกสร  สีส้มแดง หรือเหลือง ขอบด้านในมีขน ปลายแผ่นก้านชูอับเรณูพับงอกลับ (ภาพดอก: บันนังสตา ยะลา; ดอกสีแดง - VC,
                                                                        ดอกสีเหลือง - MP; ภาพต้น: cultivated - JM)
                    ยาว 4-6 มม. มีขนสั้นนุ่ม รังไข่รวมก้านดอกยาว 2-3 ซม. (ดูข้อมูลเพิ่มเติมที่
                    เอื้องน�้าต้น, สกุล)
                       พบที่พม่า ในไทยพบทางภาคเหนือที่น่าน ล�าปาง ตาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
                    ที่เพชรบูรณ์ ภาคตะวันออกที่ปราจีนบุรี และภาคตะวันตกเฉียงใต้ที่กาญจนบุรี
                    เพชรบุรี ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ และป่าดิบแล้ง บนเขาหินปูน ความสูง 200-900 เมตร
                      เอกสารอ้างอิง
                       Kurzweil, H. (2014). Orchidaceae (Calanthe). In Flora of Thailand Vol. 12(2):
                          366-367.                                        เอื้องดินเหนือ: ดอกสีเหลือง โคนด้านในกลีบปากมีปื้นสีแดง (ภาพ: cultivated - JM)

                                                                                                                    481






        59-02-089_399-488_Ency_new1-3_J-Coated.indd   481                                                                 3/1/16   6:35 PM
   496   497   498   499   500   501   502   503   504   505   506