Page 329 - Publicationa15
P. 329
ศาลรัฐธรรมนูญกับการสร้างบรรทัดฐานทางรัฐธรรมนูญ 321
ความชอบด้วยรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 30 หรือไม่
ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า พระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ
ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง (10) เฉพาะในส่วนที่บัญญัติว่า
“...มีกายหรือจิตใจที่ไม่เหมาะสมที่จะเป็นข้าราชการตุลาการ...” ขัดหรือแย้ง
ต่อรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 มาตรา 30 วรรคสาม
ข้อสังเกต
ผู้ร้องมีสภาพร่างกายเป็นโปลิโอและมีอาชีพทนายความตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539
ต้องตามประเด็นไปสืบพยานที่ศาลอื่นและว่าความในศาลทั่วราชอาณาจักร
ผู้ร้องสมัครสอบคัดเลือกเพื่อบรรจุ เป็นข้าราชการตุลาการศาลยุติธรรมใน
ต�าแหน่งผู้ช่วยผู้พิพากษา ได้รับแจ้งว่าคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม (ก.ต.)
พิจารณาคุณสมบัติของผู้ร้องแล้วเห็นว่า ผู้ร้องมีร่างกายไม่เหมาะสม เป็น
อุปสรรคต่อการปฏิบัติหน้าที่ราชการตุลาการตามมาตรา 26 วรรคหนึ่ง (10)
แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543
จึงมีมติไม่รับสมัครสอบคัดเลือกฯ ดังกล่าว
ตามค�าวินิจฉัยแรกเห็นว่า การรับสมัครสอบคัดเลือกเป็นผู้พิพากษา ซึ่งเป็น
ต�าแหน่ง ที่มีเกียรติ ปฏิบัติหน้าที่ในพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ ไม่ได้ปฏิบัติ
หน้าที่ในห้องพิจารณาเท่านั้น บางครั้งต้องเดินทางไปนอกศาลเดินเผชิญสืบด้วย
จึงมีมาตรการที่แตกต่างเข้มงวดกว่าต�าแหน่งอื่น เป็นข้อยกเว้นตามรัฐธรรมนูญ
มาตรา 29 ให้อ�านาจกระท�าได้ตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย เห็นว่าเป็นกฎหมาย
ที่บัญญัติตามความจ�าเป็นและเหมาะสมของฝ่ายตุลาการ ไม่กระทบกระเทือน
สาระส�าคัญแห่งสิทธิและเสรีภาพ ใช้บังคับทั่วไป ไม่เป็นการเลือกปฏิบัติโดย
ไม่เป็นธรรมตาม รัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2540 มาตรา 30 เป็นการวินิจฉัยด้วยเหตุผล
แนวทางหนึ่งในขณะนั้น
ประเด็นปัญหาตามค�าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญข้างต้น ได้มีการถกเถียง
วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม คนพิการและผู้เกี่ยวข้องทั่วไป ถึงการให้ความส�าคัญกับ
การคุ้มครองรับรองสิทธิของคนพิการกันอย่างกว้างขวาง
ปรากฎว่าต่อมาตามรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้มีการเพิ่มข้อความ “ความ
พิการ” ในมาตรา 30 ด้วย และได้มีการตราพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนา
_17-0315(306-336)15.indd 321 4/27/60 BE 11:58 AM

