Page 330 - Publicationa15
P. 330
322 อุดมศักดิ์ นิติมนตรี
คุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 ที่มีเจตนารมณ์ในการคุ้มครองคนพิการ เพื่อ
มิให้มีการเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมเพราะเหตุสภาพทางกายหรือสุขภาพ
รวมทั้งให้คนพิการมีสิทธิได้รับสิ่งอ�านวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะ และ
ความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ รัฐต้องสงเคราะห์คนพิการให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีและ
พึ่งตนเองได้ ตลอดจนประเทศไทยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการ
ของสหประชาชาติ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2551 ซึ่งมีผลบังคับให้ประเทศไทย
ต้องปฏิบัติตามพันธกรณีที่ระบุไว้ในอนุสัญญาดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม
2551 เป็นต้นมา
เห็นว่ากระบวนการทางสังคมได้มีพัฒนาการกรณีการคุ้มครองความ
เสมอภาครับรองสิทธิ คนพิการเป็นล�าดับตลอดมา อันเป็นการแสดงออกถึง
เจตนารมณ์ร่วมกันของสังคมได้เป็นอย่างดี แต่พระราชบัญญัติระเบียบ
ข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม พ.ศ. 2543 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง (10)
ไม่ได้มีการปรับปรุงแก้ไขสอดคล้องกันอย่างใด
ตามค�าวินิจฉัยที่สอง ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นค�าร้องว่า ในปี 2552 ผู้ร้อง
สมัครสอบใหม่อีก และถูกตัดสิทธิสอบเช่นเดิม ผู้ร้องจึงใช้ช่องทางร้องเรียนผ่าน
ผู้ตรวจการแผ่นดิน ศาลรัฐธรรรมนูญเห็นด้วยกับผู้ตรวจการแผ่นดินว่า ใน
มาตรา 30 ของรัฐธรรมนูญปี 2550 ได้เพิ่มเติมค�าว่า “ความพิการ” ไว้แตกต่าง
จากรัฐธรรมนูญปี 2540 ค�าวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 16/2545 จึงไม่ผูกพันตาม
รัฐธรรมนูญ มาตรา 216 วรรคห้า จึงเป็นเรื่องหรือประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญ
ไม่เคยพิจารณาวินิจฉัยมาก่อน และมีค�าสั่งให้รับค�าร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย
ในเรื่องที่สอง ซึ่งเป็น การตีความบทบัญญัติแห่งกฎหมายเดียวกัน โดยปรับบท
กับรัฐธรรมนูญมาตรา 30 เช่นกัน แต่ผลคดีแตกต่างกัน
ศาลรัฐธรรมนูญได้น�าเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ มาตรา 30 ที่เพิ่มเติมค�าว่า
“ความพิการ” เป็นเหตุผลคุ้มครองคนพิการ โดยเห็นว่า ค�าว่า “มีกายหรือจิตใจ
ไม่เหมาะสม” ตามกฎหมาย ฝ่ายตุลาการนั้น อยู่ในกรอบความหมายของค�าว่า
“คนพิการ” ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
พ.ศ. 2550 ซึ่งสอดคล้องกับอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิคนพิการของสหประชาชาติ
กรณีเป็นการก�าหนดไว้อย่างกว้างขวางไม่ชัดเจน น�าไปสู่การใช้ดุลพินิจที่
_17-0315(306-336)15.indd 322 4/27/60 BE 11:58 AM

