Page 118 - วทยาศาสตรเพอพฒนาอาชพธรกจและบรการ_Neat
P. 118

108


                          2. นํ้าตาลโมเลกุลคู่ (Disaccharide) เป็นนํ้าตาลที่เกิดจากนํ้าตาลโมเลกุลเดี่ยวสอง

               โมเลกุลรวมตัวกัน  โดยยึดเหนี่ยวกันด้วยพันธะไกลโคไซด์  (Glycoside Bond) และในการ


               รวมตัวกันจะได้ โมเลกุลของนํ้าเกิดขึ้น  1 โมเลกุลในทางตรงข้าม ถ้านํ้าตาลโมเลกุลคู่  ถูก

               แยกสลายด้วยนํ้า (Hydrolysis) จะแตกตัวออกเป็นนํ้าตาลโมเลกุลเดี่ยว 2 โมเลกุล นํ้าตาล

               โมเลกุลคู่ที่พบมากในธรรมชาติ ได้แก่


                             - ซูโครส (Sucrose) เกิดจากการรวมตัวระหว่างโมเลกุลของนํ้าตาลกลูโคสและ

               นํ้าตาลฟรุกโตส อย่างละ 1 โมเลกุล มีลักษณะเป็นผลึกใส ละลายนํ้าได้ดี มีความหวานมาก

               พบมากใน พืชรสหวาน เช่น อ้อย หัวบีท เป็นต้น นิยมเรียกซูโครสว่านํ้าตาลทรายหรือ


               นํ้าตาลอ้อย

                             - แลกโทส (Lactose) เกิดจากการรวมตัวระหว่างโมเลกุลของนํ้าตาลกลูโคส

               และ กาแลกโตส  อย่างละ 1 โมเลกุล  มีลักษณะเป็นผลึกหยาบ  ละลายนํ้าได้ไม่ดี มีความ


               หวานน้อย พบเฉพาะในนม

                             - มอลโทส (Maltose) เกิดจากการรวมตัวระหว่างโมเลกุลของนํ้าตาลกลูโคส 2

               โมเลกุล ไม่ค่อยพบอยู่ในรูปที่เป็นอิสระในธรรมชาติ แต่พบอยู่ในรูปของผลิตภัณฑ์ที่ได้จาก


               การย่อยสลายแป้ง เดกซ์ตรินและไกลโคเจน โดยรูปอิสระสามารถพบได้ในข้าวมอลต์ (ข้าว

               บาร์เลย์ที่กําลังงอก) มอลโทส ละลายนํ้าได้ดี และมีความหวานไม่มาก




               4. ไขมัน

                   ไขมันหรือลิพิด (Lipid) เป็นสารอาหารประเภทให้พลังงานแก่ร่างกาย เช่นเดียวกับ

               คาร์โบไฮเดรต แต่ให้พลังงาน   มากกว่าคาร์โบไฮเดรตในขนาดนํ้าหนักที่เท่ากัน นอกจากให้


               พลังงานแก่ร่างกายแล้ว ไขมันยังมีความสําคัญและจําเป็นต่อร่างกายในด้านอื่น ๆ เช่น เป็น

               ส่วนประกอบของเยื่อหุ้มเซลล์ เป็นส่วนประกอบของฮอร์โมนบางชนิด ช่วยรักษาสมดุลของ

               อุณหภูมิในร่างกาย ช่วยป้องกันไม่ให้ ผิวหนังแห้ง ช่วยในการดูดซึมที่ลําไส้เล็ก เป็นตัวกลาง
   113   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123