Page 220 - ED 211
P. 220
ชีวิตมนุษย์ด ารงอยู่ระหว่าง ดิน น้ า กับฟ้า แวดล้อมด้วยทุ่งนา ป่า เขา แม่น้ า และ
ทะเล รวมทั้งบ้านเมืองที่มนุษย์สร้างขึ้น ดวงอาทิตย์ส่องสว่างและให้ความอบอุ่นตอน
กลางวัน เดือนและดาวประดับฟ้ายามราตรี เมฆน าฝนมาบ ารุงเลี้ยงพืชพันธุ์ธัญญาหาร
บางครั้งธรรมชาติเอื้ออ านวยหล่อเลี้ยงชีวิต แต่บางคราวก็รุนแรงเกิดภัยอันตราย มนุษย์ดิ้น
รนต่อสู้ความหิวโหย ความร้อนหนาว ความเจ็บไข้ และแม้ความตาย เพื่ออยู่รอดและเพื่อ
สัมผัสชื่นชมโลกอันตระการและพึงพิศวง ด้วยความรักและหวงแหน ชีวิตอันระคนทั้งทุกข์
และสุข ในการนี้ มนุษย์จึงได้แสวงหาความรู้ความเข้าใจอันเป็นทั้งแสงสว่างและพลัง ที่จะ
ขจัดความมืดทึบแห่งอวิชชา และขบขจัดปัญหากับทั้งสร้างความสุขสมบูรณ์ในชีวิตอันมี
ความสัมพันธ์มิรู้ขาดจากธรรมชาตินั้น (คณะกรรมการวางพื้นฐานเพื่อปฏิรูปการศึกษา.
2518: 13) การศึกษาที่พึงประสงค์จะต้องเป็นการศึกษาที่เสริมสร้างความรู้ ความคิด
ทักษะและทัศนคติให้คนไทยรู้จักตนเอง รู้จักชีวิต เข้าใจสังคมและสิ่งแวดล้อมอันตนมีส่วน
ร่วมอยู่ แล้วน าความรู้ความเข้าใจมาใช้แก้ปัญหาและเสริมสร้างชีวิตและสังคมให้ดีขึ้นโดย
กลมกลืนกับธรรมชาติ (หน้า 15)
1.3 การจัดเนื้อหาสาระและกระบวนการเรียนรู้ของการศึกษาแต่ละระดับจะไม่ถือรายชื่อ
วิชาและขอบเขตวิชาเท่าที่ปรากฏในหลักสูตรเดิมเป็นเกณฑ์ แต่จะค านึงถึงความต้องการใน
ชีวิตจริงและความพิสดารกว้างขวางของวิทยาการในโลกปัจจุบัน จึงจัดกลุ่มประสบการณ์
เสียใหม่ ดังนี้ ในระดับประถมศึกษา เนื้อหาสาระและกระบวนการเรียนรู้ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม
ได้แก่ ประสบการณ์ภาคเนื้อหา ประสบการณ์ภาคทักษะ ประสบการณ์ภาคสุนทรียภาพ
และจริยธรรม และประสบการณ์ภาคการงาน ในระดับมัธยมศึกษา เนื้อหาสาระและ
กระบวนการเรียนรู้ แบ่งเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ประสบการณ์บังคับร่วม ประสบการณ์เลือก
ทางการงานหรือทางวิชาการ สร้างเสริมตามความถนัดของผู้เรียน และประสบการณ์เลือก
เสรีตามความสนใจใคร่รู้ของผู้เรียน 1.4 เนื้อหาในกลุ่มต่าง ๆ ถือว่ามีความส าคัญทัดเทียม
กัน ไม่เน้นเฉพาะความสามารถทางสมอง เช่นที่เป็นมาแล้ว (หน้า 94)
นอกจากนั้นรายงานของคณะกรรมการวางพื้นฐานเพื่อปฏิรูปการศึกษายังชี้ให้เห็นว่าหลัง
เหตุการณ์ 14 ตุลาคม พ.ศ.2516 มีการวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาจากนักวิชาการที่เกี่ยวข้องและผู้สนใจ
ทั่วไปกันอย่างกว้างขวาง เนื่องจากเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นแรงกระตุ้นปลุกให้สังคมไทยตื่นตัวหันมา
พิจารณาความเป็นมาของสังคมไทยมากกว่าช่วงเวลาครั้งใดในประวัติศาสตร์ (คณะกรรมการวางพื้นฐาน
เพื่อปฏิรูปการศึกษา. 2518: 3) นักวิชาการที่สนใจและวิพากษ์วิจารณ์การศึกษาที่ส าคัญ อาทิ ป๋วย อึ๊ง
ภากรณ์ ซึ่งมองว่าจุดมุ่งหมายของการศึกษาไม่ใช่การผลิตก าลังคนตามความต้องการของระบบเศรษฐกิจ
แต่คือนักเรียนแต่ละคน เพราะนักเรียนแต่ละคนควรได้รับการฝึกฝนหรือการศึกษาให้สุดความสามารถ
เอกสารประกอบการสอนรายวิชากระบวนทัศน์ทางการศึกษา พรใจ ลี่ทองอิน | 145