Page 112 - OB
P. 112

96    บทที่ 5



               พื้นที่จอดรถหรือห้องท ำงำนส่วนตัว กำรมอบโล่ห์หรือประกำศเกียรติคุณ กำรให้รำงวัล
               พนักงำนดีเด่น กำรจัดท ำเส้นทำงควำมก้ำวหน้ำในงำน (career path) กำรมอบหมำยงำนที่ท้ำทำย

               กำรให้พนักงำนได้มีส่วนร่วมตัดสินใจในงำน เป็นต้น

                              1.1.5 ควำมต้องกำรเติมเต็มควำมสมบูรณ์ให้ชีวิต (self-actualization needs)
               เป็นควำมต้องกำรระดับสูงสุด กล่ำวคือ ควำมต้องกำรที่จะเติมเต็มศักยภำพของตนเอง ต้องกำร

               ควำมส ำเร็จในสิ่งที่ปรำรถนำสูงสุดของตัวเอง โดยส ำหรับกำรน ำมำประยุกต์ใช้ในกำรบริหำร

               ทรัพยำกรมนุษย์นั้น สำมำรถตอบสนองควำมต้องกำรด้ำนกำรเติมเต็มควำมสมบูรณ์ให้ชีวิตได้
               หลำยวิธีกำร เช่น กำรเลื่อนต ำแหน่งที่สูงขึ้น โดยกำรพิจำรณำจำกบุคลำกรภำยในองค์กำรก่อน

               กำรให้พนักงำนได้ท ำงำนที่ตนเองรักด้วยกำรให้พนักงำนมีส่วนร่วมในกำรวำงแผนพัฒนำ

               อำชีพของตนเอง (career planning) กำรส่งเสริมให้พนักงำนได้พัฒนำทักษะควำมสำมำรถและ
               ใช้ศักยภำพที่ตนเองมีให้ถึงขีดสุด กำรเปิดโอกำสให้พนักงำนมีอิสระในกำรตัดสินใจและกำร

               คิดสร้ำงสรรค์ในสิ่งต่ำงๆ เป็นต้น

                            1.2  ทฤษฎี ERG  (ERG  theory)  โดย Clayton  Alderfer ได้ศึกษำและพัฒนำ

               ทฤษฎีควำมต้องกำร ERG  ซึ่งมีพื้นฐำนมำจำกทฤษฎีล ำดับขั้นควำมต้องกำรของมำสโลว์ โดย
               ได้แบ่งควำมต้องกำรออกเป็น 3  ประเภท ได้แก่ ควำมต้องกำรกำรด ำรงอยู่ ควำมต้องกำร

               ควำมสัมพันธ์ และควำมต้องกำรควำมก้ำวหน้ำ ซึ่งผู้เขียนได้สรุปเป็นแผนภำพ ดังแสดง

               รำยละเอียดในภำพที่ 5.3



                                                 ความต้องการ
                                               ความก้าวหน้า (G)










                                ความต้องการ                        ความต้องการ
                               การด ารงอยู่ (E)                  ความสัมพันธ์ (R)



               ภาพที่ 5.3 ทฤษฎี ERG
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117