Page 113 - OB
P. 113
แรงจูงใจ 97
1.2.1 ควำมต้องกำรกำรด ำรงอยู่ (E: existence needs) เป็นควำมต้องกำร
พื้นฐำนของร่ำงกำยเพื่อให้มนุษย์สำมำรถด ำรงชีวิตอยู่ได้ เช่น ควำมต้องกำรด้ำนปัจจัยสี่ ได้แก่
อำหำร ที่อยู่อำศัย เครื่องนุ่งห่ม และยำรักษำโรค และควำมต้องกำรควำมปลอดภัยทั้งชีวิตและ
จิตใจ เป็นต้น ซึ่งเทียบได้กับควำมต้องกำรขั้นที่ 1 และขั้นที่ 2 ของมำสโลว์
1.2.2 ควำมต้องกำรควำมสัมพันธ์ (R: relatedness needs) เป็นควำมต้องกำร
ที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้ำง หรือกับบุคคลอื่นๆ ในสังคม เช่น กำรมีควำมสัมพันธ์ที่ดี
กับหัวหน้ำและเพื่อนร่วมงำน กำรได้รับควำมรักควำมดูแลเอำใจใส่จำกบุคคลในครอบครัว
เป็นต้น ซึ่งเทียบได้กับควำมต้องกำรขั้นที่ 3 ของมำสโลว์
1.2.3 ควำมต้องกำรควำมก้ำวหน้ำ (G: growth needs) เป็นควำมต้องกำรที่
จะมีควำมก้ำวหน้ำและพัฒนำศักยภำพของตนเองให้สูงขึ้น เช่น กำรได้เลื่อนต ำแหน่งที่สูงขึ้น
กำรได้รับมอบหมำยงำนที่ท้ำทำยควำมสำมำรถ เป็นต้น ซึ่งเทียบได้กับควำมต้องกำรขั้นที่ 4
และขั้นที่ 5 ของมำสโลว์
อย่ำงไรก็ตำม แอลเดอร์เฟอร์ ได้ให้ข้อเสนอที่แตกต่ำงกับมำสโลว์ โดยเห็นว่ำ
ควำมต้องกำรทั้งสำมประกำรนี้ อำจจะถูกกระตุ้นได้ทุกเวลำ และบุคคลอำจเกิดควำมต้องกำร
ได้มำกกว่ำหนึ่งด้ำนในเวลำเดียวกัน โดยไม่จ ำเป็นต้องตอบสนองตำมล ำดับขั้นเหมือนกับ
ทฤษฎีล ำดับขั้นควำมต้องกำรของมำสโลว์
1.3 ทฤษฎีความต้องการของแมคคลีแลนด์ (McClelland’s acquired needs
theory) โดย David C. McCleland ได้ศึกษำและพัฒนำทฤษฎีควำมต้องกำร ซึ่งแมคคลีแลนด์
เชื่อว่ำควำมต้องกำรของมนุษย์มำจำกกำรเรียนรู้ตลอดระยะเวลำที่บุคคลด ำรงชีวิตอยู่ โดยได้
แบ่งควำมต้องกำรดังกล่ำวออกเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ ควำมต้องกำรควำมส ำเร็จ ควำมต้องกำรอ ำนำจ
และควำมต้องกำรสัมพันธภำพ ซึ่งผู้เขียนได้สรุปเป็นแผนภำพ ดังแสดงรำยละเอียดในภำพที่ 5.4
ความต้องการความส าเร็จ
ทฤษฎีความต้องการของแมคคลีแลนด์
ความต้องการอ านาจ ความต้องการสัมพันธภาพ
ภาพที่ 5.4 ทฤษฎีควำมต้องกำรของแมคคลีแลนด์