Page 117 - OB

แรงจูงใจ 101

ให้เหมำะสม ท้ำทำยควำมสำมำรถตลอดจนมีกำรกระจำยอ ำนำจโดยเปิดโอกำสให้มีส่วนร่วม
ในกำรคิด กำรตัดสินใจ หรือบริหำรงำนมำกยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ จำกที่กล่ำวมำจะเห็นได้ว่ำ ลักษณะของคนท ำงำนในองค์กำรมีควำม

แตกต่ำงกัน โดยองค์กำรควรพิจำรณำและเลือกใช้แนวทำงในกำรบริหำรหรือจูงใจคนให้
เหมำะสม เพื่อให้พนักงำนสำมำรถท ำงำนให้กับองค์กำรได้อย่ำงบรรลุเป้ ำหมำย

อย่ำงไรก็ตำม ส ำหรับโลกกำรท ำงำนในปัจจุบันนั้น คนท ำงำนแต่ละคนมี

ควำมรู้ควำมสำมำรถมำกขึ้น มีควำมกล้ำคิดกล้ำท ำมำกขึ้น ดังนั้น หำกองค์กำรต้องกำรส่งเสริม
ให้พนักงำนมีควำมคิดสร้ำงสรรค์เพื่อน ำไปสู่กำรผลิตสินค้ำหรือบริกำรใหม่ๆ ออกมำ องค์กำร

ควรเลือกใช้แนวทำงในกำรบริหำรคนตำมทฤษฎีวำย โดยมอบหมำยงำนที่มีควำมเหมำะสม

และท้ำทำยควำมสำมำรถของพนักงำน ตลอดจนกำรเปิดโอกำสให้พนักงำนได้แสดงควำม
คิดเห็นและให้อ ำนำจในกำรตัดสินใจในงำนที่พนักงำนรับผิดชอบ

2. กลุ่มทฤษฎีแรงจูงใจที่เน้นกระบวนการ

กลุ่มทฤษฎีแรงจูงใจที่เน้นกระบวนกำร (process motivation theories) ถือเป็นกลุ่ม

ทฤษฎีแรงจูงใจที่มุ่งศึกษำเพื่อตอบค ำถำมว่ำ “จะท ำอย่ำงไรคนถึงจะมีแรงจูงใจ” กล่ำวคือ เรำ
จะสร้ำงกระบวนกำรอย่ำงไร (how) เพื่อท ำให้บุคคลเกิดแรงจูงใจและแสดงพฤติกรรมที่ พึง

ประสงค์ออกมำ ทฤษฎีในกลุ่มนี้ ได้แก่ ทฤษฎีควำมคำดหวัง ทฤษฎีควำมเท่ำเทียม และทฤษฎี

กำรตั้งเป้ ำหมำย ซึ่งมีรำยละเอียดของแต่ละทฤษฎี ดังนี้

2.1 ทฤษฎีความคาดหวัง (expectancy theory) โดย Victor H. Vroom ได้ศึกษำ

และพัฒนำทฤษฎีควำมคำดหวัง โดยมองว่ำธรรมชำติของมนุษย์จะมีควำมคำดหวังอยู่ภำยใน

หำกองค์กำรสร้ำงกระบวนกำรให้พนักงำนรู้สึกมีควำมหวังก็สำมำรถท ำให้พนักงำนเกิด

แรงจูงใจในกำรท ำงำนขึ้นได้
โดย วรูม อธิบำยว่ำ แรงจูงใจ (M) เป็นผลมำจำกปัจจัย 3 ปัจจัย ได้แก่ ควำม

คำดหวังในงำน (E) โอกำสได้รำงวัล (I) และระดับคุณค่ำของรำงวัล (V) ดังแสดงรำยละเอียด

ในภำพที่ 5.7