Page 119 - OB
P. 119

แรงจูงใจ    103



                       ดังกล่ำวได้ โดยผลงำนที่ท ำออกมำได้ดีนั้นจะน ำไปสู่กำรได้รับรำงวัลจำกองค์กำร ตลอดจน
                       รำงวัลที่ได้นั้นมีคุณค่ำเหมำะสมและตรงกับควำมต้องกำรของบุคคลหรือไม่

                                   นอกจำกนั้น วรูม ได้อธิบำยเพิ่มเติมไว้เป็นสูตรว่ำ M  =  (E  ×  I  ×  V) ซึ่ง

                       หมำยควำมว่ำ แรงจูงใจนั้นจะเกิดขึ้นได้ เป็นผลจำกควำมสัมพันธ์ของทั้ง 3 ปัจจัยในลักษณะผล
                       คูณ โดยหำกปัจจัยตัวใดมีค่ำเท่ำกับศูนย์ ก็หมำยถึงแรงจูงใจดังกล่ำวมีค่ำเท่ำกับศูนย์หรือไม่มี

                       แรงจูงใจเกิดขึ้น ตัวอย่ำงเช่น หำกรำงวัลที่องค์กำรก ำหนดขึ้น ไม่เป็นที่น่ำดึงดูดใจหรือไม่ตรง

                       กับควำมต้องกำรของพนักงำน พนักงำนก็จะไม่เกิดแรงจูงใจในกำรท ำงำน
                                   2.2 ทฤษฎีความเท่าเทียม (equity theory) โดย John Stacy Adams ได้ศึกษำและ

                       พัฒนำทฤษฎีควำมเท่ำเทียม  ซึ่งมองว่ำในกำรท ำงำนนั้น มนุษย์จะมีกำรพิจำรณำเปรียบเทียบ

                       ทำงควำมคิดระหว่ำงผลลัพธ์ (outcome) ที่ตนเองได้รับ เช่น ค่ำตอบแทนที่เป็นตัวเงิน หรือ

                       ค่ำตอบแทนที่ไม่เป็นตัวเงิน กับ ปัจจัยน ำเข้ำ (input) ที่ตนเองได้ลงทุนหรือใส่เข้ำไปในงำน
                       เช่น ควำมรู้ ทักษะ ควำมสำมำรถ ประสบกำรณ์ หรือควำมมุ่งมั่นทุ่มเทให้กับกำรท ำงำน เป็น

                       ต้น เพื่อพิจำรณำว่ำทั้งสองสิ่งมีควำมเหมำะสมและยุติธรรมแล้วหรือไม่ โดยหำกองค์กำรสร้ำง

                       กระบวนกำรที่ท ำให้พนักงำนรับรู้ถึงควำมเท่ำเทียมกันระหว่ำงผลลัพธ์ที่พนักงำนได้รับ กับ
                       ปัจจัยน ำเข้ำที่พนักงำนใส่เข้ำไปในงำน ก็จะสำมำรถท ำให้พนักงำนเกิดแรงจูงใจในกำรท ำงำน

                       ขึ้นได้ ดังแสดงรำยละเอียดในตำรำงที่ 5.1


                       ตารางที่ 5.1 ทฤษฎีควำมเท่ำเทียม



                         การเปรียบเทียบอัตราส่วนระหว่างผลลัพธ์กับปัจจัยน าเข้า   การรับรู้ของพนักงาน


                               ผลลัพธ์                ผลลัพธ์                     ไม่เท่ำเทียมกัน

                              ปัจจัยน ำเข้ำ   ของตนเอง     ปัจจัยน ำเข้ำ   ของผู้อื่น   (ตนเองได้รับรำงวัลน้อยไป)


                               ผลลัพธ์                ผลลัพธ์                      เท่ำเทียมกัน

                              ปัจจัยน ำเข้ำ   ของตนเอง     ปัจจัยน ำเข้ำ  ของผู้อื่น   (เกิดแรงจูงใจในกำรท ำงำน)


                               ผลลัพธ์               ผลลัพธ์                      ไม่เท่ำเทียมกัน

                              ปัจจัยน ำเข้ำ  ของตนเอง     ปัจจัยน ำเข้ำ  ของผู้อื่น   (ตนเองได้รับรำงวัลมำกไป)



                       ที่มา : ดัดแปลงจำก Adams as cited in Robbins & Judge (2008, p. 81)
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124