Page 200 - OB
P. 200
184 บทที่ 9
ยุคที่ 3 ควำมขัดแย้ง
เป็ นเรื่องดี และควร
ยุคที่ 2 ควำมขัดแย้งเป็น ส่งเสริมให้เกิดควำม
เรื่ องธรรมชำติของ ขัดแย้งขึ้น (ในระดับที่
มนุษย์ที่มำอยู่รวมกัน เหมำะสม)
และยอมรับว่ำสำมำรถ
ยุคที่ 1 ควำมขัดแย้ง
เป็ นเรื่องไม่ดี เป็ นสิ่ง เกิดขึ้นได้กับทุกกลุ่มทุก
เลวร้ำย และไม่ควรให้ องค์กำร
เกิดขึ้นในองค์กำร
ภาพที่ 9.1 พัฒนำกำรมุมมองเกี่ยวกับควำมขัดแย้ง
จำกภำพที่ 9.1 จะเห็นได้ว่ำ พัฒนำกำรเกี่ยวกับมุมมองที่มีต่อควำมขัดแย้งเริ่ม
เปลี่ยนแปลงไป โดยจำกเดิมที่มองควำมขัดแย้งเป็นสิ่งเลวร้ำยที่ไม่ควรให้เกิดขึ้นภำยในกลุ่ม
หรือในองค์กำร พัฒนำเป็นกำรมองควำมขัดแย้งเป็นเรื่องธรรมชำติที่สำมำรถเกิดขึ้นได้กับทุก
กลุ่มหรือทุกองค์กำร และท้ำยที่สุดมองควำมขัดแย้งเป็นสิ่งที่ดีต่อกลุ่มหรือต่อองค์กำร ถ้ำควำม
ขัดแย้งดังกล่ำวอยู่ในระดับที่เหมำะสม โดยเฉพำะควำมขัดแย้งในเรื่องกำรพัฒนำกำรท ำงำนให้
ดียิ่งขึ้นอย่ำงไม่หยุดนิ่ง ซึ่งถือเป็นกำรส่งเสริมให้เกิดควำมขัดแย้งขึ้นภำยในองค์กำร โดยอยู่ใน
ในระดับที่เหมำะสมและเป็ นไปในลักษณะเชิงสร้ำงสรรค์ เพื่อปรับปรุงและพัฒนำ
ประสิทธิภำพในกำรท ำงำนขององค์กำรให้ดียิ่งขึ้น
3. สาเหตุของความขัดแย้งของบุคคลในองค์การ
ควำมขัดแย้งของบุคคลในองค์กำรมีที่มำหรือมีสำเหตุต่ำงๆ มำกมำย ซึ่งหำก
ผู้บริหำรทรำบและเข้ำใจในสำเหตุหรือที่มำของควำมขัดแย้งแล้ว ย่อมมีโอกำสที่จะสำมำรถ
จัดกำรกับควำมขัดแย้งได้อย่ำงมีประสิทธิภำพ ตรงจุดของปัญหำมำกขึ้น โดยสำมำรถสรุป
สำเหตุหลักๆ ของควำมขัดแย้งที่เกิดขึ้นภำยในองค์กำร ซึ่งมีรำยละเอียดที่น่ำสนใจ ดังนี้