Page 206 - OB
P. 206
190 บทที่ 9
1. ระยะก่อตัวของการต่อต้านหรือความไม่ลงรอยกัน
เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนกำรเกิดควำมขัดแย้ง โดยเป็นกำรปรำกฏมูลเหตุ
ที่มำ หรือเงื่อนไขต่ำงๆ ที่มีโอกำสเกิดควำมขัดแย้งขึ้น เช่น กำรแข่งขันเพื่อให้ได้ทรัพยำกรที่มี
อยู่จ ำกัด ควำมขัดแย้งในบทบำทหน้ำที่หรือโครงสร้ำงองค์กำร หรือควำมขัดแย้งจำกปัจจัยส่วน
บุคคล เป็นต้น ดังที่ได้กล่ำวมำแล้วในหัวข้อสำเหตุของควำมขัดแย้ง
2. ระยะรับรู้หรือรู้สึกถึงความขัดแย้ง
เมื่อฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่งทรำบและผูกใจกับมูลเหตุของควำมขัดแย้งที่เกิดขึ้นในระยะที่
หนึ่งแล้ว ก็จะทวีควำมรู้สึกที่ต่อต้ำนและควำมไม่ลงรอยอย่ำงชัดเจนมำกขึ้น โดยจำกมูลเหตุที่
กล่ำวมำนั้น ถ้ำฝ่ำยหนึ่งรับรู้และตระหนักว่ำจะมีผลกระทบกับตนก็จะน ำไปสู่กำรเกิดควำม
ขัดแย้งขึ้น อย่ำงไรก็ตำม กำรรับรู้ถึงควำมขัดแย้งในระยะนี้อำจยังไม่ลงลึกถึงตัวบุคคลก็ได้
ตัวอย่ำงเช่น นำย A อำจตระหนักดีว่ำตนเองกับนำย B มีข้อโต้แย้งที่ไม่เห็นด้วยอย่ำงรุนแรง
ระหว่ำงกันอยู่บ่อยๆ แต่นำย A ก็ไม่กังวลทุกข์ร้อนเก็บมำคิดแต่อย่ำงใด อย่ำงนี้ถือเป็นเพียง
รับรู้ว่ำมีควำมขัดแย้งเกิดขึ้น (perceived conflict) หรืออำจเป็นอีกแบบหนึ่งคือ กำรรับรู้ควำม
ขัดแย้งที่มีอำรมณ์เข้ำมำเกี่ยวข้องด้วย (felt conflict) กล่ำวคือ บุคคลจะเกิดอำรมณ์ที่เข้ำไป
เกี่ยวข้องกับควำมขัดแย้งนั้นจนท ำให้เกิดภำวะวิตกกังวลใจ มีควำมตึงเครียด มีควำมคับข้องใจ
และอำจถึงขั้นเป็นปฏิปักษ์ต่อกันก็ได้
3. ระยะเลือกวิธีการจัดการความขัดแย้ง
เป็นระยะที่เมื่อฝ่ำยใดฝ่ำยหนึ่ง หรือทั้งสองฝ่ำยรับรู้และมีอำรมณ์ควำมรู้สึกต่อ
ปัญหำควำมขัดแย้งที่เกิดขึ้น ก็จะพยำยำมหำทำงแก้ปัญหำหรือยุติควำมขัดแย้งที่เกิดขึ้น ซึ่งถือ
เป็นขั้นตอนที่ส ำคัญ เพรำะเป็นกำรหำทำงเลือกในกำรจัดกำรกับควำมขัดแย้งดังกล่ำว ส ำหรับ
วิธีกำรจัดกำรควำมขัดแย้งอำจเลือกวิธีใดวิธีหนึ่งจำก 5 วิธีกำร ดังต่อไปนี้
3.1 การหลีกเลี่ยงหรือละเลย (avoiding) เป็นวิธีกำรที่ให้ประสิทธิภำพผลน้อย
ที่สุด เนื่องจำกกำรหลีกเลี่ยงมิได้ท ำให้ควำมขัดแย้งนั้นหมดไป แต่เป็นเพียงกำรหลบเลี่ยงจำก
ปัญหำที่ไม่ได้เกิดกำรแก้ไข และพร้อมที่จะกลับมำเจอกับปัญหำได้อีกตลอดเวลำ รวมทั้งยัง
อำจเป็นกำรก่อให้คู่กรณีเกิดโทสะได้ เช่น ฝ่ำยตรงข้ำมอำจจะคิดว่ำ เรำไม่ให้ควำมส ำคัญหรือ
สนใจเพียงพอในกำรรับฟัง จึงกลับกลำยเป็นกำรเพิ่มควำมขัดแย้งมำกขึ้นไปอีก