Page 217 - OB
P. 217

ควำมขัดแย้ง และกำรเจรจำต่อรอง    201



                       สั่งกำรหรืออนุมัติทรัพยำกรต่ำงๆ ที่คนในองค์กำรมีควำมต้องกำรหรือพึงปรำรถนำ ซึ่งท ำให้
                       บุคคลที่ด ำรงต ำแหน่งหน้ำที่ดังกล่ำวมีอ ำนำจในกำรเจรจำต่อรองเพิ่มขึ้น ตัวอย่ำงเช่น กำรให้

                       รำงวัลหรือโบนัสส ำหรับคนที่ท ำผลงำนได้ดีเยี่ยม หัวหน้ำตักเตือนหรือลงโทษพนักงำนเมื่อ

                       ไม่ปฏิบัติตำมค ำสั่ง หรือกำรมีอ ำนำจในกำรอนุมัติเพื่อควบคุมทรัพยำกรที่ส ำคัญขององค์กำร
                       เช่น ก ำลังคน งบประมำณ หรือกำรลงนำมเซ็นต์รับรองมำตรฐำนต่ำงๆ เป็นต้น ซึ่งท ำให้ผู้มี

                       อ ำนำจดังกล่ำวสำมำรถชี้น ำให้บุคคลอื่นๆ ในองค์กำรจ ำต้องยินยอมปฏิบัติตำมเงื่อนไขหรือ

                       ข้อตกลงที่ผู้ที่ด ำรงต ำแหน่งหน้ำที่ดังกล่ำวต้องกำรได้
                                   1.4  อ านาจจากข้อบัญญัติตามกฎหมาย  เป็นลักษณะของอ ำนำจที่เกิดจำก

                       ข้อบัญญัติทำงกฎหมำยที่ระบุให้ผู้ที่ด ำรงต ำแหน่งหรือปฏิบัติหน้ำที่ตำมที่กฎหมำยก ำหนดมี

                       อ ำนำจในเรื่องนั้นๆ เช่น ตำมกฎหมำย (พระรำชบัญญัติแรงงำนสัมพันธ์ พ.ศ.2518) มีใจควำม

                       ส ำคัญระบุให้สหภำพแรงงำนเป็นตัวแทนลูกจ้ำง โดยมีอ ำนำจหน้ำที่ร้องเรียน เจรจำต่อรอง
                       หรือท ำข้อตกลงกับนำยจ้ำง เพื่อเป็นกำรคุ้มครองสิทธิและผลประโยชน์ของสมำชิกได้ เป็นต้น

                                   1.5  อ านาจจากลักษณะส่วนบุคคล เป็นลักษณะของอ ำนำจที่เกิดจำกกำรมี

                       บุคลิกลักษณะของบุคคลที่แตกต่ำงกัน โดยส่งผลต่อกำรมีและใช้อ ำนำจในกำรเจรจำต่อรอง

                       ของผู้เจรจำที่แตกต่ำงกันตำมมำด้วย ทั้งควำมแตกต่ำงของบุคลิกภำพภำยนอก เช่น เพศ รูปร่ำง
                       หน้ำตำ สีผิว เป็นต้น และบุคลิกภำพภำยใน เช่น ควำมเชื่อ ค่ำนิยม ทัศนคติ ตลอดจนไหวพริบ

                       และควำมสำมำรถในกำรจัดกำรอำรมณ์ของผู้เจรจำ เป็นต้น ซึ่งควำมแตกต่ำงดังกล่ำวนี้เองท ำ

                       ให้บุคคลมีอ ำนำจในกำรเจรจำต่อรองเพิ่มขึ้น ตัวอย่ำงเช่น กำรเจรจำต่อรองในบำงครั้ง บุคคลที่
                       เป็นเพศชำย รูปร่ำงสูงใหญ่ ผิวสีเข้ม น ้ำเสียงที่ดัง อำจท ำให้เป็นที่เกรงขำมหรือเกรงกลัวของคู่

                       เจรจำได้มำกกว่ำบุคคลที่เป็นเพศหญิง รูปร่ำงเล็ก ผิวขำว น ้ำเสียงที่เบำ หรือกรณีบุคลิกภำพ

                       ภำยในของผู้เจรจำที่มีควำมเชื่อหรือให้คุณค่ำกับกำรเจรจำต่อรองแบบผสำนควำมร่วมมือ ก็จะ
                       มีแนวโน้มในกำรพูดคุยเจรจำต่อรองที่น ำไปสู่กำรพึงพำอำศัยกันและกัน โดยพยำยำมหำ

                       ข้อตกลงที่เป็นประโยชน์กันทั้ง 2  ฝ่ำยกันมำกกว่ำ ซึ่งสอดคล้องกับงำนวิจัยของ จรินทร

                       อินโอชำนนท์ (2552) ที่ได้ศึกษำควำมสัมพันธ์ระหว่ำงควำมฉลำดทำงอำรมณ์และ
                       ควำมสำมำรถในกำรเจรจำต่อรองของพนักงำน ศึกษำเฉพำะกรณีพนักงำนของกำรประปำนคร

                       หลวง โดยผลกำรศึกษำพบว่ำ พนักงำนที่มีเพศ และสถำนภำพสมรสแตกต่ำงกัน มี

                       ควำมสำมำรถในกำรเจรจำต่อรองแตกต่ำงกันอย่ำงมีนัยส ำคัญทำงสถิติที่ระดับ .05 และ .01

                       ตำมล ำดับ ทั้งนี้ ผู้วิจัยได้ให้เหตุผลประกอบว่ำ อำจเป็นเพรำะเพศชำยมีลักษณะของกำร
                       ตัดสินใจที่เด็ดขำดและใช้เหตุผลในกำรตัดสินใจมำกกว่ำเพศหญิง ตลอดจนไม่ชอบกำรต่อล้อ
   212   213   214   215   216   217   218   219   220   221   222