Page 66 - หลักการตลาด
P. 66
4.3 ผลประโยชน์ที่ต้องกำรจำกผลิตภัณฑ์ (Benefit Desired) เช่น ควำมประหยัด คุณภำพดี
มีบริกำรหลังกำรขำย ทนทำน เป็นต้น
4.4 สถำนภำพของผู้ใช้ (User Status) เช่น ไม่เคยใช้ ใช้ครั้งแรก ใช้ประจ ำ เลิกใช้แล้ว เป็นต้น
4.5 ทัศนคติต่อผลิตภัณฑ์ (Attitude) เช่น ทัศนคติทำงบวก (ชอบ พอใจ) ทัศนคติเป็นกลำง
(เ ย ไม่เห นข้อแตกต่ำง) ทัศนคติทำงลบ (ไม่ชอบ ต่อต้ำน) เป็นต้น
4.6 องค์ประกอบของกำรตลำด (Marketing Factors) เช่น รูปลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ รำคำ
กำรส่งเสริมกำรขำย เป็นต้น
4.7 ภำวะควำมพร้อม (Stages ofReadiness) เช่น ไม่สนใจ เริ่มสนใจ อยำก ื้อ ตั้งใจ ื้อ เป็น
ต้น
กำรแบ่งส่วนตลำดตำมพฤติกรรมของผู้บริโภค
ห า งส า สาห ม (Bases for Segmenting Industrial Markets)
กำรแบ่งส่วนตลำดอุตสำหกรรมอำจจะใช้หลักเกณฑ์เดียวกันกับตลำดผู้บริโภค โดยอำศัย ตัว
แปรต่ำง ดังนี้
1. กำรแบ่งตำมลักษณะประชำกร (Demographic) หรือลักษณะของอุตสำหกรรม เช่น แบ่ง
ตำม ประเภทของอุตสำหกรรม ขนำดขององค์กรผู้ ื้อ สถำนที่ตั้งขององค์กรผู้ ื้อ เป็นต้น
2. ตัวแปรด้ำนกำรด ำเนินงำน (Operation Variables) เช่น กำรใช้เทคโนโลยีสูงหรือต่ ำ ควำม
ต้องกำรบริกำรมำกหรือน้อย เป็นต้น
3. กำรแบ่งตำมวิธีกำร ื้อ (Purchasing Method) เช่น กำรจัดองค์กรในกำร ื้อของลูกค้ำเป็น
แบบ รวมอ ำนำจหรือกระจำยอ ำนำจ ลักษณะควำมสัมพันธ์ของลูกค้ำมีระยะเวลำติดต่อกันมำมำกหรือ
น้อย นโยบำยกำร ื้อ ระบบกำร ื้อแบบเช่ำ ื้อหรือกำรประมูล เป็นต้น
4. กำรแบ่งตำมสถำนกำรณ์ (Situation) เช่น กำรน ำผลิตภัณฑ์ไปใช้เป็นบำงส่วนหรือทั้งหมด
กำร ื้อแบบเร่งด่วน ขนำดของกำรสั่ง ื้อเป็นลูกค้ำกลุ่มให ่หรือรำยย่อย เป็นต้น
5. กำรแบ่งตำมลักษณะเ พำะบุคคล (Personal Characteristic) เช่น ควำมคล้ำยคลึงกัน
ของพนักงำนในองค์กรผู้ ื้อกับพนักงำนของบริษัทผู้ขำย ทัศนคติที่มีต่อควำมเสี่ยงของลูกค้ำ ควำม
ื่อสัตย์ของลูกค้ำ เป็นต้น
66
59