Page 29 - TH Edition Ver3
P. 29

27


                      ค าว่า “vā”  ในภาษาบาลีจะมีความหมายขึ้นอยู่กับจะวางไว้ตรงส่วนใดที่ท าหน้าที่เป็นอะไร ใน

                      บางครั้ง จึงแปลว่า “หรือ” (or) บางครั้งก็แปลว่า “จริง” (indeed) เมื่อท าหน้าที่เป็นค าย้ า เป็นต้น
                                                                                              ื่
                                วัตถุประสงค์อกประการหนึ่งคือ คณะผู้จัดด าเนินการต้องการจะเลือกค าเพอให้เหมาะสม
                                            ี
                      กับคุณลักษณะ ของภาษาบาลีว่า แต่ละศัพท์ เป็นค าที่พระพทธเจ้าตรัสด้วยความตั้งใจที่จะให้เข้าใจ
                                                                         ุ
                      ชัดเจน การเลือกค ามาใช้แปลจึงเป็นส่วนที่คณะผู้ด าเนินการ ได้ท าการประชุมตกลงกันว่า จะเลือกใช้
                                                                    ุ
                      ความหมายใด จึงจะเป็นส่วนรักษาความหมายที่พระพทธองค์ทรงมีพระประสงค์จะให้มีความหมาย
                      เช่นนั้น เช่น ค าว่า ภควา (Bhagavā) จะเลือกใช้เป็นภาษาไทยว่า “พระผู้มีพระภาค” ภาษาองกฤษ
                                                                                                     ั
                      ว่า “The Fortunate One” เป็นต้น ซึ่งผู้ศึกษาจะได้เข้าใจว่า “ภควา” คือ “พระผู้มีโชค” ซึ่งในบาง
                                                        ั
                      ต าราของการแปล จะใช้แปลเป็นภาษาองกฤษว่า “Lord” บ้าง “The Blessed One” บ้าง ซึ่งคณะ
                      ผู้ด าเนินการเห็นว่า พระพทธเจ้า ทรงเป็นมากกว่า Lord  และเป็นมากกว่า “ผู้ได้รับพร”  เพราะทรง
                                            ุ
                      เหนือกว่าทุกสิ่ง
                                ในบทแปลที่ยกมาเป็นตัวอย่าง จึงต้องการให้ผู้ที่สนใจในการศึกษาพระไตรปิฎก ได้ศึกษาดู

                      ความหมาย ซึ่งพยายามท าให้เกิดความสะดวกมากที่สุด ในการแปลเป็นภาษาไทย จึงเป็นการยกภาษา
                                                                         ั
                                                                                      ั
                      ลีมาก่อน ต่อจากนั้นก็แปลทีละค าเรียงต่อกันไป ส่วนภาษาองกฤษก็ยกบาลีอกษรโรมัน ได้ทีละท่อน
                      แล้วค าแปลแต่ละค าที่ก ากับโดยเครื่องหมาย “/” ได้ท้ายค า เพื่อแสดงว่าเป็นความหมายเดียวกัน เช่น

                                “yathā vā paneke” แปลว่า Where as / เป็นต้น
                                “Iti” แปลว่า thus ในที่หนึ่ง แปลว่า these อีกที่หนึ่ง เป็นต้น

                                อย่างไรก็ตาม จากตัวอย่างที่น ามาแสดงในส่วนที่เป็นการแปลจากบาลีอกษรไทย เป็น
                                                                                              ั
                                                                             ั
                      ภาษาไทยนั้น ซึ่งในบทนี้ได้ยกพระบาลีอกษรไทย  และพระบาลีอกษรโรมัน โดยได้น าเสนอบทแปล
                                                        ั
                      จากบาลีอกษรไทยเป็นภาษาไทยและจากบาลีอกษรโรมันเป็นภาษาองกฤษ ชนิดค าต่อค า (word by
                                                              ั
                                                                               ั
                               ั
                      word) โดยการแปลจากบาลอกษรไทยเป็นภาษาไทยนั้น  จะเป็นการเรียงค าจากต้นฉบับภาษาบาลีที่
                                               ั
                      ต่างออกไป  เนื่องจากผู้แปลได้เห็นว่า โครงสร้างของภาษาบาลีและโครงสร้างภาษาไทย มีความ
                      แตกต่างกัน ทั้งตระกูลของภาษาและระบบการเรียบเรียงค าในการแปลบางครั้งเพอความเข้าใจของ
                                                                                           ื่
                      การใช้ภาษาไทย จึงยกเอาค าในภาษาบาลีมาเรียบเรียงใหม่เพอให้เข้าใจดีขึ้น เช่น ในภาษาบาลี เรียบ
                                                                         ื่
                      เรียงค าว่า


                                “นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส”

                      ผู้แปลจะแปลโดยเรียงค าว่า

                                                                                      ุ
                                “นโม /ขอนอบน้อม ภควโต/พระผู้มีพระภาค อรหโต สมฺมาสมฺพทฺธสฺส/อรหันตสัมมาสัม
                      พุทธเจ้า ตสฺส/ พระองค์นั้น”




                                                              ั
                                ดังนั้นในคู่มือฉบับนี้ จึงยกพระบาลีอกษรไทยมาแสดงไว้ด้านซ้ายและบทแปลไว้ด้านขวา
                         ื่
                      เพอหผู้ศึกษาได้เห็นทั้งต้นฉบับของภาษาบาลีและเห็นการเรียงค าที่ผู้แปลได้พยายามให้ผู้ศึกษาได
   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33   34