Page 16 - สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์
P. 16

สัตว์ที่เรียกว่ามนุษย์



               เพื่อความด ารงอยู่ของสัตว์โลกที่เกิดมาแล้ว  หรือเพื่ออนุเคราะห์แก่เหล่าสัตว์ผู้แสวงหาที่เกิด  (สัมภเวสี)

               นั้นคือ  ๑.กวฬีการาหารคือซากพืชหรือสัตว์ หยาบบ้างละเอียดบ้าง ขึ้นชื่อว่าอาหารถ้าเธอไม่ได้มาเพราะ

               การฆ่า  ได้ยินว่าเขาฆ่าเพื่อเรา  ไม่ได้ลักขโมยเบียดบังมา  ไม่รังเกียจและไม่แสลงโรค  มีสารอาหารที่จะ

               หล่อเลี่ยงชีวิตเธอได้  เธอจงดื่มกินอาหารนั้น  อย่างรู้ประมาณในการบริโภค  โดยปราศจากผู้ดื่มกิน

               ๒.ผัสสาหารคือสัมผัสที่มีต่ออาหารอันหยาบบ้างละเอียดบ้างมันจะทิ่มแทงเธอด้วยเวทนาทั้งสามอย่าง

               เผ็ดร้อน  เธอจงส ารวมระวังให้หนักอย่าได้หวั่นไหวไหลตามมันไป  ๓.มโนสัญเจตนาหารคือการคิดปรุง

               แต่งในอาหารมันเป็นตัวการที่จะท าให้เธอมีตัณหาทั้งสามอันมาจากเวทนาที่เธอไม่ส ารวมระวังให้มากพอ


               ๔.วิญญาณหารคือการรับรู้ในอาหารทั้งหยาบบ้างละเอียดบ้างอันเป็นผลมาจากตัณหาซึ่งจะน าความ

               ทุกข์ทรมานมาให้  เธอจงก าหนดรู้ให้ได้ว่านั่นเป็นเพียงผลการท างานของนามรูปเท่านั้น  เธออย่าได้

               เพลิดเพลินยินดีทะยานอยากในอาหารทั้ง ๔ อย่าได้กินเพราะความคะนองสนุกสนานหรือกินเพื่อตกแต่ง

               ประดับประดาร่างกายอันเหม็นเน่าที่เป็นศูนย์รวมโรคนี้นักเลย  แต่เธอจงกินเพื่อบรรเทาความหิวอันเป็น

               เวทนาเก่าโดยไม่สร้างเวทนาใหม่  กินเพื่อให้ได้สารอาหารมันหล่อเลี้ยงชีวิตของเธอให้อยู่ได้โดยไม่ล าบาก

               เท่านั้นพอ  จงคิดเสมอว่าเราด ารงชีวิตอยู่ได้ด้วยการกินซากพืชซากสัตว์เหล่าอื่น  เธอจึงจะข้ามพ้นชาติ

               ชรา มรณะไปได้ เธอจักมีวาสนาคือความคุ้นเคยบ้างไหมหนอ



                       เวลาสร้างทุกสิ่งและท าลายทุกอย่าง  ตัวเธอเองต้องพร้อมเสมอส าหรับการเปลี่ยนแปลงนี้  สรรพสิ่ง


               นั้นเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ถึงเธอไม่ยอมเปลี่ยนแปลง  แต่ตัวเธอเองก็จะถูกเปลี่ยน สายน้ าไม่คอยท่า

               กาลเวลาไม่คอยใคร  เวลาไม่เคยหยุดนิ่งผ่านแล้วผ่านเลยมิเคยย้อนกลับมาได้  ทุกวินาทีมีค่า  เธออย่าได้

               ปล่อยให้มันผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ ทุกวันเป็นวันส าคัญเพราะมีอยู่เพียงวันเดียว วันเวลาล่วง

               ไปล่วงไป บัดนี้เธอท าอะไรอยู่ อาการกาย วาจา ใจ ที่ดีคือกายสุจริตสาม วจีสุตจริตสี่ มโนสุจริตสามอัน

               เป็นกุศลกรรมเธอเพ่งพิจารณาแล้วหรือไม่หนอ  มันจะมีประโยชน์อะไร  หากเธอเมามัวอยู่กับการท่องบ่น

               สาธยายโดยมิเคยลงมือปฏิบัติบ าเพ็ญเพียร  มันจะต่างอะไรจากคนป่วยที่เอาแต่อ่านสรรพคุณอันวิเศษ

               ของโอสถทุกค่ าเช้าแต่ไม่เคยดื่มกินโอสถ (ยา) นั้นเลย และประโยชน์อันใดเล่าที่เธอจะวิ่งหาจากภายนอก

               ทางที่เธอจะท่องเที่ยวไปนั้นอยู่ที่ในภายในต่างหากเล่า  กายในกาย  เวทนาในเวทนา  จิตในจิต  ธรรมใน

               ธรรม ต่างหากล่ะคือ “ทางออกสายเอก” เธอได้เพ่งพิจารณาแล้วหรือไม่หนอ เธออย่ามัวแต่พิธีรีตองหรือ


               เอาแต่พูดมากพลัดวันประกันพรุ่งอยู่เลย  มันไม่มีอะไรดีกว่าการลงมือปฏิบัติบ าเพ็ญเพียร  โดยการปล่อย

               ศรัทธาให้หยั่งลงมั่นอันไม่หวั่นไหวในรัตนะทั้งสามอันประเสริฐว่า  ๑.ตถาคตเสด็จอุบัติขึ้นในโลกนี้  เป็น





                                                           ~ ๑๕ ~                                                                                                      หญ้าพันปี
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21