Page 660 - Full paper สอฉ.3-62
P. 660

4.43 โดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.62 ซึ่งเมื่อเรียงล าดับ  เทคโนโลยีบัณฑิต สาขาวิชาการบัญชี (ต่อเนื่อง) วิทยาลัย
             ค่าเฉลี่ยของคะแนนระดับความพึงพอใจจ านวน 3 ล าดับ พบว่า  อาชีวศึกษาขอนแก่น เพื่อให้ผู้เข้ารับการศึกษาต่อในระดับ

             ผู้ตอบแบบสอบถามพึงพอใจด้านห้องเรียนห้องปฏิบัติการและ  ปริญญาตรีมีความรู้ความสามารถ พัฒนาตนเอง สู่สถาน
             เครื่องมือ/อุปกรณ์การเรียนในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ  ประกอบการที่ยอมรับมากขึ้น และเป็นแนวทางในการจัดหา

             4.81 โดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.69 รองลงมาคือ ด้าน  บุคคลากร หรื ออาจารย์ประจ าหลักสู ตรที่มีความรู้
             ความเชื่อมั่นเมื่อส าเร็จการศึกษา มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.47 โดยมีค่า  ความสามารถที่มีคุณภาพ โดยใช้หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต
             เบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.83 และด้านอาจารย์ประจ า  ได้อย่างเชี่ยวชาญ
             หลักสูตร มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.38 โดยมีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน

             เท่ากับ 0.59
                                                                 ข้อเสนอแนะในการท าวิจัยครั้งต่อไป

                ข้อเสนอแนะในการน าผลการวิจัยไปใช้                    ในโอกาสต่อไปผู้ศึกษาอาจารท าการวิจัยปัจจัยที่มีผล
                    ผลการวิจัยน าไปใช้ประโยชน์การพัฒนาหลักสูตร  ต่อการตัดสินใจศึกษาต่อหลักสูตรระดับปริญญาตรีสาขาอื่น ๆ
             การจัดการเรียนการสอนบุคลากร ห้องเรียนห้องปฏิบัติการและ  เพื่อเป็นแนวทางขยายโอกาสทางการศึกษาอย่างหลากหลาย

             เครื่องมือ/อุปกรณ์การเรียน สถานประกอบการ และความ
             เชื่อมั่นเมื่อส าเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีหลักสูตร













             เอกสารอ้างอิง

             [1]  ปรียาพร วงศ์อนุตรโรจน์. (2542). จิตวิทยาการบริหารงานบุคคล. กรุงเทพฯ: ศูนย์ส่งเสริม
             [2]  มนูญกิตติ์           ค าทอง,ขวัญชัย            กรพันธ์และนิชฌานันท์             ห้องสินหลาก,

                 การเสริมก าลังเสาคอนกรีต,ส านักพิมพ์นานมี, พ.ศ.2554, หน้า 100-106. (กรณีหนังสือ)
             [3]  มนูญกิตติ์       ค าทอง,          ขวัญชัย          กรพันธ์และนิชฌานันท์         ห้องสินหลาก,

                 “การเสริมก าลังเสาคอนกรีต”,วารสารวิจัย ม.ข., ปีที่ 5,พ.ศ.2554, หน้า 100-106. (กรณีบทความในวารสาร)



















                                                             13
                                                                                                              642
   655   656   657   658   659   660   661   662   663   664   665