Page 58 - _Neat
P. 58

51

                 3.6 การออกกําลังกายแบบแอโรบิก


                 ในปจจุบันนี้เราถือวาการออกกําลังกายเปนประโยชนตอสุขภาพมากที่สุด    ทําใหรางกายแข็งแรงอยาง

          แทจริงนั้นจะตองออกกําลังกายแบบแอโรบิก  เพราะเปนการออกกําลังชนิดเดียวที่จะทําใหปอด  หัวใจ  หลอด

          เลือด ตลอดจนระบบการไหลเวียนของโลหิตทั่วรางกายแข็งแรงทนทาน และทําหนาที่ไดอยางมีประสิทธิภาพ


                 คําวา  “แอโรบิก”  (Aerobic)  เปนคํามาจากภาษาละติน  แปลวาอากาศหรือกาช  เปนคําที่ใชทั่วไปใน


          วิทยาศาสตร


                 คําวาแอโรบิกถูกนํามาใชกับการออกกําลังกายโดย อารเธอร ไลดิอารด (Arthur lydiand) บิล โบเวอร

          แมน (Bill Bowerman) และนายแพทยเคนเน็ธ คูเปอร (Kerneth Coper) ทั้ง 3 คนนี้โดยรวมกันตั้งโครงการ “

          Acrobic  fitness  program”  ไดชักชวนประชาชนใหมาออกกําลังกายดวยการวิ่งเพื่อสุขภาพ  และผูที่ทําใหการ


          ออกกําลังกายแบบแอโรบิกเปนที่รูจักกันกวางขวางก็คือนายแพทย  เคนเน็ธ  คูเปอร  เขาไดเขียนหนังสือเกี่ยวกับ

          การออกกําลังเลมหนึ่ง คือ “Aerobics”เมื่อ พ.ศ. 2511 ซึ่งเปนหนังสือที่ขายดีที่สุดในยุคนั้น


                       การออกกําลังกายแบบแอโรบิก  หมายถึง  การออกกําลังกายชนิดใดก็ไดที่จะกระตุนใหหัวใจและปอด

          ทํางานมากขึ้นดวยระยะเวลา  นานพอที่จะทําใหรางกายเกิดการเปลี่ยนแปลง  ทําใหรางกายไดใชออกซิเจนมาก

          ที่สุด เทาที่รางกายจะใชไดในเวลาที่กําหนด


                 ในการออกกําลังกายแบบแอโรบิก สวนของรางกายที่จะตองปรับตัวใหทันดังนี้



                 1)  ระบบการหายใจจะตองเร็ว  และแรงมากขึ้นเพื่อนําเอาออกซิเจนเขาสูรางกายใหมากขึ้นพอที่จะไป

          ฟอกโลหิตที่จะตองหมุนเวียนมากขึ้น


                 2)  หัวใจจะตองเตนเร็วและแรงขึ้น  เพื่อจะไดสูบโลหิตมากขึ้น  เพราะในขณะที่กําลังออกกําลังกายอยาง

          หนักกลามเนื้อจะตองการโลหิตมากขึ้นประมาณ 10 เทา


                 3)  หลอดโลหิตทั้งใหญและเล็กจะตองขยายตัวสามารถนําโลหิตไปยังสวนตางๆ  ของรางกายไดอยางมี

          ประสิทธิภาพ
   53   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63