Page 63 - _Neat
P. 63

56

                 เพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได  จึงมีผูดัดแปลงการเตนตามแบบเดิมที่มีการกระโดดและใชขา

          คอนขางมาก  หันมาใชแขนทั้ง  2  ขางใหมากขึ้น  สําหรับขายังคงเคลื่อนไหวไดอยูแตตองใหมีขางหนึ่งแตะพื้นอยู

          เสมอเปนการเตนโดยไมมีการกระโดดตัวลอยนั่นเอง  เรียกวาเตนแอโรบิกแบบโลวอิมแพกต  (Low  impact

          aerobic dance) หรือซอฟตแอโรบิก (Soft aerobic)



                 นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนการเตนใหนุมนวลขึ้นโดยไมกระโดดทั้งตัวแลวยังมีการคิดวิธีเตนกันในน้ํา

          เรียกวา “ไฮโดรแอโรบิก” (Hydro-aerobic) หรือไฮโดรยิมนาสติก


                 ประโยชนของการออกกําลังกายแบบแอโรบิกดานซ ไดแก


                 * กระตุนระบบหายใจ และการไหลเวียนของโลหิตใหทํางาน อดทนและแข็งแรงขึ้น


                 * ทําใหกลามเนื้อและขอตอเคลื่อนที่มากขึ้น รางกายจึงออนตัวและยืดหยุนไดดี



                 * กลามเนื้อและประสาททํางานประสานกันดีขึ้น ทาใหรางกายคลองแคลว การทรงตัวไดสมดุล มีความไว

          ในการสนองตอบตอปฏิกิริยาตางๆ


                 *  สรางเสริมความแข็งแรง  และความกระฉับกระเฉง  กลามเนื้อออกแรงทํางานไดดีขึ้นรางกายมีรูปราง

          ทรวดทรงดี น้ําหนักตัวพอเหมาะ


                 ขอควรปฏิบัติในการออกกําลังกายแบบแอโรบิกดานซ มีดังนี้


                 * ควรฝกสัปดาหละ 3-5 ครั้งๆ ละ 30-45 นาที


                 *  ความหนักในการออกกําลังกายควรเปน  70%  ของอัตราการเตนสูงสุดของหัวใจคือประมาณไมเกิน


          150-160  ครั้งตอนาที  ในเด็กและวัยรุน  120-140  ครั้งตอนาทีในวัยผูใหญและไมเกิน  120  ครั้งตอนาทีในวัย

          ผูสูงอายุ


                 * ควรเริ่มจากเบาๆ แลวคอยๆ เพิ่มจนรางกายปรับตัวได


                 * ไมฝกแบบกระแทก กระตุก หรือเปลี่ยนแปลงฉับพลันเพราะกลามเนื้อหรือขอตอ


          อาจฉีกขาดได



                 5) วิ่งอยูกับที่ การวิ่งอยูกับที่ เปนการกระโดดซอยเทาอยูที่เดิม จะตองยกเทาใหสูงพอสมควร ตามกติกา

          ของนายแพทยคูเปอร การวิ่งอยูกับที่จะตองยกเทาแตละขางใหสูงพนพื้นขึ้นมาไมนอยกวา 8 นิ้วฟุต
   58   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68