Page 18 - เอกสารการเรียนบทที่-2
P. 18
ความเป็นพลเมือง
อ านาจว่าต้องค านึงถึงเหตุผลด้วย (วรเจตน์ ภาคีรัตน์, 2558:114) พัฒนาการของนิติรัฐได้พัฒนา
ไปอย่างมากในช่วงศตวรรษที่ 18 เหตุมาจากการฟื้นตัวของส านักความคิดทางกฎหมายที่ส าคัญ
คือ ส านักกฎหมายธรรมชาติ นักคิดส านักนี้เชื่อว่ามนุษย์ทุกคนเกิดมามีศักดิ์ศรีเหมือนกัน ไม่มีใคร
เกิดมาในฐานะที่เป็นทาส (วรเจตน์ ภาคีรัตน์, 2558:148) มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีเหตุมีผลและ
เท่าเทียมกันในทุกผู้ทุกคน
ในปลายศตวรรษที่ 19 แนวคิดเรื่องนิติรัฐได้มีความหักเหถูกจ ากัดเหลือเพียง
ในเชิงรูปแบบเท่านั้น ที่เป็นเช่นนี้เพราะอิทธิพลของส านักความคิดปฏิฐานนิยมทางกฎหมาย
(Legal Positivism) ที่เรียกร้องความแน่นอนชัดเจนของกฎหมายและได้ปฏิเสธสิ่งที่จับต้องไม่ได้ตาม
แนว ความคิดของส านักกฎหมายธรรมชาติ เพราะมองว่าความคิดดังกล่าวนี้ท าให้กฎหมายไม่มี
ความแน่นอนชัดเจน กฎหมายที่ดีคือกฎหมายที่ตราขึ้นโดยผู้ทรงอ านาจตรากฎหมาย ถือว่าถูกต้อง
และเป็นแล้ว สิทธิเสรีภาพของปัจเจกชนได้รับการคุ้มครองและรับรองโดยกฎหมายที่ตราขึ้นใช้
บังคับในบ้านเมืองโดยมิต้องสนใจว่ากฎหมายที่ตราขึ้นนั้นถูกต้องเป็นธรรมหรือไม่ การที่รัฐหันมา
สนใจในการใช้กฎหมายที่ตราขึ้นในเชิงรูปแบบและปฏิเสธความใส่ใจในเนื้อหาของกฎหมายว่า
มีความยุติธรรมหรือไม่ น าไปสู่สิ่งที่เรียกว่า “รัฐต ารวจ” (Polizeistaat) มุ่งเน้นการบังคับใช้กฎหมาย
ที่ตราขึ้นอย่างเดียวโดยไม่ค านึงถึงความเป็นธรรม ซึ่งต่อมาได้รับแรงต้านจากฝ่ายเสรีนิยมท าให้
แนวคิดนิติรัฐหันกลับมาค านึงความยุติธรรม และท าให้ปัจจุบันนี้เมื่อกล่าวถึงนิติรัฐจะต้องพูดถึง
องค์ประกอบทั้งสองด้าน คือทั้งในเชิงรูปแบบและในเชิงเนื้อหา(วรเจตน์ ภาคีรัตน์, 2558: 150)
เราอาจแบ่งลักษณะและองค์ประกอบพื้นฐานของหลักนิติรัฐได้ดังนี้
2.2.2.1 นิติรัฐในเชิงรูปแบบ
(ก) หลักนิติรัฐได้เรียกร้องให้มี กำรแบ่งแยกอ ำนำจ (separation of
power) ขึ้นภายในรัฐโดยแบ่งองค์กรผู้ใช้อ านาจออกเป็นฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการ
เพื่อตรวจสอบและถ่วงดุล (Check and Balance) ซึ่งกันและกัน เป็นการประกันว่าสิทธิเสรีภาพ
ของประชาชนจะไม่อยู่ในมือผู้หนึ่งผู้ใดแต่เพียงผู้เดียว (โปรดดู (พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย, 2558)
ความส าคัญของหลักการแบ่งแยกอ านาจนั้น เป็นที่ตระหนักอย่าง
กว้างขวางในสังคมประชาธิปไตย จะเห็นได้จากปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนและพลเมือง
ค.ศ. 1789 มาตรา 16 บัญญัติว่า
“สังคมใดไม่มีการประกันสิทธิเสรีภาพของปัจเจกชน อีกทั้งไม่มี การ
แบ่งแยกอ านาจสังคมนั้นไม่มีรัฐธรรมนูญ"
ดังนั้น หลักการแบ่งแยกอ านาจจึงมีสถานะเป็นหลักการพื้นฐานที่
จะต้องก าหนดในรัฐธรรมนูญของทุกรัฐที่ปกครองในระบอบประชาธิปไตย ส าหรับในประเทศไทย
38