Page 19 - เอกสารการเรียนบทที่-2
P. 19

ความเป็นพลเมือง






                       นั้น รัฐธรรมนูญฉบับที่ผ่าน ๆ มาได้รับรองหลักการแบ่งแยกอ านาจเอาไว้อย่างชัดเจนโดยเห็นได้
                       จาก มาตรา 3 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ฉบับพุทธศักราช 2540 และ 2550 ความว่า

                                               “อ านาจอธิปไตยเป็นของปวงชนชาวไทย พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็น

                       ประมุข ทรงใช้อ านาจนั้นทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล” ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญนี้”
                                               หลักการแบ่งแยกอ านาจจึงเป็นหลักประกันสิทธิเสรีภาพของประชาชนที่

                       ส าคัญประการหนึ่งจากการใช้อ านาจโดยมิชอบของผู้ปกครอง ตามที่มองเตสกิเออร์ได้กล่าวไว้ว่า

                       (ชัยวัฒน์  วงศ์วัฒนศานต์, 2540: 32-33)

                       "เมื่อใดที่อ านาจนิติบัญญัติและอ านาจบริหารรวมกันอยู่ในบุคคลเดียวกัน  หรือในคณะขุนนาง

                       คณะเดียวกันเสรีภาพย่อมจะไม่มี เพราะเราอาจเกรงว่ากษัตริย์หรือคณะบุคคลนั้นอาจออก
                       กฎหมายแบบทรราชเพื่อใช้บังคับกฎหมายโดยวิธีการแบบทรราช

                                               กรณีจะไม่มีเสรีภาพเช่นกัน ถ้าอ านาจในการตัดสินคดีไม่แยกออกจาก

                       อ านาจนิติบัญญัติและอ านาจบริหาร ถ้าอ านาจนี้รวมเข้ากับอ านาจนิติบัญญัติ อ านาจเหนือชีวิต
                       และเสรีภาพของราษฎรจะถูกใช้อย่างล าเอียง เนื่องจากผู้พิพากษาจะเป็นผู้บัญญัติกฎหมาย

                       ถ้าอ านาจนี้รวมเข้ากับอ านาจบริหารผู้พิพากษาจะมีอ านาจอย่างกดขี่

                                               ทุกสิ่งจะถึงแก่การอวสาน หากบุคคลเดียวกันหรือคณะบุคคลที่เป็น

                       หลักส าคัญ ไม่ว่าจะเป็นของคณะขุนนางหรือประชาชน ได้ใช้อ านาจทั้งสาม อ านาจการออก
                       กฎหมาย อ านาจน ามติของประชาชนไปปฏิบัติ และอ านาจในการตัดสินคดีอาญาหรือกรณีพิพาท

                       ของเอกชน"

























                                                                                                        39
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24